วันนี้ (17 มิ.ย.2559) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายตามหมายศาลและการดำเนินคดีกับพระธัมมชโยว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้น เชื่อว่าผู้เกี่ยวข้องต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยที่ผ่านมาการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามหลักสากล และ คสช.ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไป เพราะถือเป็นเรื่องคดีความตามปกติ จึงไม่ต้องการให้นำไปเชื่อมโยงกับการเมือง ทัั้งนี้ ไม่มีความเห็นกรณีที่ทางคณะศิษย์เชิญชวนให้มวลชนมาที่วัดพระธรรมกายจำนวนมาก จนอาจนำไปสู่การเลียนแบบในกรณีอื่นๆ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ร้องขอสนับสนุนจาก คสช. เพื่อให้ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยเพิ่มเติม เพราะการดูแลสถานการณ์เป็นเรื่ิองของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง
พ.อ.วินธัย กล่าวระบุถึงปัญหาการโจมตีเว็บไซต์กองทัพบกของกลุ่มผู้ไม่หวังดีว่า กองทัพบกมีมาตรการป้องกันเช่นเดียวกับหน่วยราชการอื่นๆ ซึ่งเป็นการกระทำของผู้ไม่หวังดี เข้ามาดำเนินการใน2ลักษณะ คือการเข้ามาใช้งานระบบจำนวนมาก จนทำให้ระบบล่ม และการโจมตีในลักษณะเจาะฐานข้อมูล แต่ยังไม่กระทบต่อระบบฐานข้อมูลกองทัพบก โดยทางราชการมีข้อมูลการเคลื่อนไหวของกลุ่มไม่หวังดีอยู่แล้ว และมีมาตรการทางกฎหมายที่จะดำเนินการต่อไป
ส่วนข้อยุติการตั้งศูนย์ปราบโกง ประชามติร่างรัฐธรรมนูญของ นปช.ขอให้เป็นไปตามแนวทางของผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่าสามารถจัดตั้งได้หรือไม่ ส่วนเจ้าหน้าที่จะดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก
ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช.กล่าวถึงความพยายามตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติฯ ของ นปช.ว่า กลุ่มเคลื่อนไหวเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาลมาก่อน โดยมีนัยสำคัญ ซึ่งคสช.ได้ลงพื้นที่ชี้แจงการทำประชามติอย่างต่อเนื่อง และได้ย้ำกับประชาชนว่าการดูแลปัญหาทุจริตประชามติ มี กกต.ดูแลอยู่แล้ว และในส่วนของ คสช.ได้ให้ฝ่ายกฎหมายติดตามการตั้งศูนย์ฯของ นปช. เพราะแกนนำ นปช.เคยลงนามกับ คสช.ไว้ตามคำสั่งที่ 39/2557 โดยคงไม่ถึงขั้นเชิญมาพูดคุยอีก แต่จะใช้วิธีชี้แจงผ่านสื่อ