กรุงเทพฯ-ภาคเหนือ
- ถนนวิภาวดีรังสิตหรือทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เข้าสู่ถนนพหลโยธิน ถึงต่างระดับบางปะอิน จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายเอเชีย หรือทางหลวงหมายเลข 32 มุ่งหน้าสู่ จ.นครสวรรค์
- เส้นทางวงแหวนตะวันตก ถึงต่างระดับเชียงรากน้อย จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสายบางปะอิน-บางปะหัน หรือทางหลวงหมายเลข 347 เข้าสายเอเชียที่ อ.บางปะหัน
- ทางหลวงหมายเลข 304 บางบัวทอง-สุพรรณบุรี และเข้าสู่ถนนสายเอเชียที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท มุ่งสู่ จ.นครสวรรค์ ไปภาคเหนือ
กรุงเทพฯ-ภาคใต้
- ถนนพระราม 2 หรือทางหลวงหมายเลข 35 เข้าถนนเพชรเกษม หรือทางหลวงหมายเลข 4
- ถนนเพชรเกษม หรือทางหลวงหมายเลข 4 ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
- จากขนส่งสายใต้ใหม่ ให้ใช้ถนนบางกอกน้อย-นครชัยศรี หรือทางหลวงหมายเลข 338 เข้าสู่ จ.นครปฐม, จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี
กรุงเทพฯ-ภาคอีสาน
- ถนนกาญจนาภิเษก ทั้งวงแหวนตะวันตกและตะวันออก มุ่งหน้าต่างระดับบางปะอิน เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1 มุ่งหน้าสระบุรี และออกไปยังภาคอีสานต่อไป
- ถนนรังสิต-นครนายก หรือถนนสาย 305 ตรงไปยัง จ.นครนายก จากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าสี่แยกกบินทร์บุรี เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัย เพื่อไปนครราชสีมา
- ถนนรามอินทรา-สุวินทวงศ์ หรือทางหลวงหมายเลข 304 ผ่าน จ.ฉะเชิงเทรา พนมสารคาม กบินทร์บุรี ปักธงชัย ไปยังภาคอีสาน
สำหรับผู้ที่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 ผ่าน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี นายสุจิณ มั่งนิมิตร รองผู้อำนวยการสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวงแนะนำให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะถนนมีความลาดชันและมีเพียง 2 ช่องจราจร และยังอยู่ระหว่างการปรับปรุง ซึ่งล่าสุดเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถพ่วงชนกับรถยนต์รวม 8 คัน จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนใช้ความระมัดระวังและใช้เกียร์ต่ำขณะลงจากที่สูง
ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน กรมทางหลวงได้ตั้งเต็นท์บริการไว้ที่บริเวณสำนักงานของแขวงทางหลวงกว่า 200 แห่ง ประชาชนสามารถแวะเข้าห้องน้ำ และพักคลายความเหนื่อยล้า ระหว่างทางได้