วันนี้ (8 เม.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้จะเป็นวันแรกที่ประชาชนจะเริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งกระทรวงคมนาคม คาดว่าตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 18 เม.ย.นี้ จะมีประชาชนเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากถึง 22.63 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2558 ประมาณ 1.17 ล้านคน หรือร้อยละ 5.44
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากปริมาณการเดินทางที่มีมากขึ้น กระทรวงฯได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานเข้มงวดกำกับดูแลป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะจุดที่เสี่ยง ประกอบด้วยจุดตัดรถไฟ 2,517 จุด ในจำนวนนี้เป็นจุดลักผ่าน 584 จุด รวมถึงถนนจุดเสี่ยง 47 จุดที่มีอุบัติเหตุบ่อยและมีปริมาณการจราจรหนาแน่น และถนนอีก 101 จุดที่มีความลาดชันมากและเป็นทางโค้งอันตราย
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ทางด้านสุขภาพเอาไว้ เช่น การเตรียมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และทีมแพทย์เคลื่อนที่เร็วที่สามารถเข้าพื้นที่ได้ภายใน 10 นาที มีการสำรองเลือด เตียง ออกซิเจน ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู รวมทั้งประสานกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เรื่องการเข้าพื้นที่อุบัติเหตุและการส่งต่อผู้ป่วยทั้งทางน้ำและทางอากาศ
นอกจากนี้ ยังกำชับให้มีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 อย่างเข้มข้นโดยเฉพาะการจำหน่ายในสถานที่ห้ามจำหน่ายและการจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20ปี รวมถึงกรมควบคุมโรคจะมีการลงพื้นที่เพื่อติดตามการปฏิบัติงานด้วย
ด้านนายนนท์จิตร เนตรพุกกณะ ผู้อำนวยการกองกิจการชุมชนและบริการสังคม กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เดิมการลงโทษผู้กระทำผิด พ.ร.บ.จราจร จะใช้การบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ เช่น ทำความสะอาดถนน ตัดกิ่งไม้ เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขให้ผู้ประพฤติผิด พ.ร.บ.จราจร ต้องเข้าไปช่วยบุคลากรสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุ แต่จากการประเมินผลช่วงเทศกาลปีใหม่ พบสถิติผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้น มีทั้งผู้ที่กระทำผิดซ้ำ และผู้กระทำผิดรายใหม่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ดังนั้น เพื่อให้เกิดความหลาบจำ กรมคุมประพฤติจึงเสนอมาตรการบำเพ็ญประโยชน์อย่างเข้มข้น ด้วยการให้เข้าไปช่วยเหลืองานในห้องดับจิตของโรงพยาบาล โดยได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยคาดว่าจะสามารถบังคับใช้กับผู้ที่กระทำผิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้