วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า กระทรวงการคลังเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา แผนช่วยเหลือปัญหาภัยแล้ง 26 จังหวัด ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติภัยแล้ง หวังส่งเสริมการปลูกพืชระยะสั้นและใช้น้ำน้อย โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใช้เงินสนับสนุนโครงการวงเงิน 15,000 ล้านบาท มีทั้งการปล่อยกู้กลุ่มเกษตรกรและการจ้างเกษตรกรในพื้นที่ทำการผลิต โดยหน่วยงานรัฐจะช่วยหาตลาดรับซื้อ ลดปัญหาการปลูกพืชในช่วงหน้าแล้ง หากกู้เงินคิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.1 โดยรัฐบาลอุดหนุนดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส.ร้อยละ 3.5 และเงินกู้ฉุกเฉินอีก 6,000 ล้านบาท
และสนับสนุนโครงการ 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอีภาคเกษตร เพื่อต้องการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของเกษตรกร การสร้างภูมิคุ้มกันในการประกอบอาชีพระยะยาว วงเงินสินเชื่อ 72,000 ล้านบาท ปล่อยกู้รายละไม่เกิน 20 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ในช่วงระยะเวลา 1-7 ปี ส่วนปีที่ 8 คิดอัตราดอกเบี้ย MRR หรือ MLR ตามประเภทลูกค้า ระยะเวลาชำระคืน 10 ปี หากหลักประกันเงินฝากหรือจำนองไม่เพียงพอ สามารถยื่นขอจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พิจารณาค้ำประกันเพิ่มได้ รวมวงเงินทั้งสองโครงการกว่า 93,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลหลายแห่งที่ไม่มีน้ำประปาใช้สำหรับอุปโภคบริโภคแล้ว ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งเจาะบ่อบาดาล บริเวณโรงพยาบาลสันป่าตอง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เพื่อสูบน้ำขึ้นมาใช้ หลังโรงพยาบาล กำลังขาดแคลนน้ำจากภัยแล้งอย่างหนัก จนต้องขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นใช้รถบรรทุกน้ำไปช่วยเหลือวันละ 10 เที่ยวต่อวัน
นพ.วิรัช กลิ่นบัวแย้ม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันป่าตอง เปิดเผยว่า ขณะนี้การขุดเจาะบ่อบาดาลได้ความลึกที่ 250 เมตรแล้ว ซึ่งระดับน้ำที่พบอยู่ที่ 300 เมตร จึงคาดว่าจะสามารถเจาะถึงและสูบน้ำขึ้นมาได้ในเร็วๆนี้ ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คงต้องนำรถบรรทุกน้ำมาส่งไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการประชาชน ซึ่งในแต่ละวันโรงพยาบาลสันป่าตอง ต้องใช้น้ำมากกว่า 2 แสนลิตร
ล่าสุดการประปาส่วนภูมิภาค ได้เร่งวางท่อน้ำเข้าไปที่โรงพยาบาลสันป่าตองแล้ว แต่คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นเดือนพฤษภาคม 2559 ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล จึงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรณรงค์ประหยัดการใช้น้ำ โดยจะให้ความสำคัญกับแผนกที่จำเป็นเช่นการฟอกไต การผ่าตัด ซักล้างและอุปกรณ์การแพทย์ นอกจากนั้นยังให้เจ้าหน้าที่สำรวจท่อน้ำและก๊อกน้ำที่อาจรั่วซึมเพื่อใช้น้ำอย่างคุ้มค่าที่สุด
ส่วนโรงพยาบาลพระทองคำเฉลิมพระเกียรติ อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา นพ.สายชล พิมพ์เกาะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล เปิดเผยว่า เบื้องต้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สนับสนุนน้ำดิบเพื่อใช้ล้างอุปกรณ์การแพทย์ และทางโรงพยาบาลต้องซื้อน้ำสะอาดอีกวันละ 100 ลิตร เพื่อล้างอุปกรณ์การแพทย์ในขั้นสุดท้าย ซึ่งขณะนี้ โรงพยาบาลอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องกรองน้ำด้วยระบบอาร์โอ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนหน้า ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค รวมทั้งปัญหาน้ำเค็มในระยะยาว
ขณะที่ปัญหาขาดแคลนน้ำที่โรงพยาบาลเวียงเก่า อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ได้ขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง แต่น้ำยังไม่ได้คุณภาพ เบื้องต้นหน่วยงานท้องถิ่นได้ใช้รถขนน้ำจากการประปาส่วนภูมิภาคหนองเรือวันละ 6,000 ลิตร เพื่อใช้สำหรับล้างเครื่องมือแพทย์ พร้อมทั้งเตรียมติดตั้งเครื่องกรองน้ำด้วยระบบอาร์โอ และเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ เนื่องจากโรงพยาบาลแห่งนี้ ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ ซึ่งให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยจะมีแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลภูเวียงออกหน่วยเคลื่อนที่มาให้บริการในวันอังคารและวันพฤหัสบดีเท่านั้น