เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2568 โบสถ์น้อยซิสทีน ศาสนสถานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และเป็นสถานที่จัดการประชุมลับเพื่อเลือกพระสันตะปาปา หรือ คอนเคลฟ ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมเพื่อเริ่มเตรียมการจัดพื้นที่ หลังสำนักวาติกันประกาศกำหนดวันจัดการประชุมลับเพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ เป็นวันที่ 7 พ.ค.นี้ หลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา
การประชุมลับจะเริ่มขึ้นในวันดังกล่าว โดยสำนักวาติกัน ระบุว่า บรรดาพระคาร์ดินัลหารือกันวานนี้ในที่ประชุมและตัดสินใจเริ่มประชุมลับกันในวันที่ 7 เพื่อให้มีเวลาทำความรู้จักกันเพิ่มเติมเล็กน้อย จากที่การประชุมสามารถเริ่มขึ้นได้ตั้งแต่วันที่ 6 ตามธรรมเนียมที่การประชุมลับมักจัดขึ้นหลังช่วงการไว้อาลัยพระสันตะปาปาผู้ล่วงลับนาน 9 วัน หรือ โนเวมดิอาเลส
พระคาร์ดินัลประมาณ 135 รูปจากทั่วโลก ที่อายุต่ำกว่า 80 ปี สามารถเข้าร่วมการประชุมนี้ได้ เพื่อตัดสินใจเลือกบุคคลที่จะทำหน้าที่ประมุขแห่งศาสนจักร นำพาแรงศรัทธาของชาวคริสต์โรมันคาทอลิกกว่า 1,400 ล้านคนทั่วโลก
7 พ.ค. พระคาร์ดินัลประชุมลับเลือกสันตะปาปา
ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นไป ทั่วโลกจะจับตาไปที่ "โบสถ์น้อยซิสทีน" รอคอยสัญญาณจากควันที่ปล่อยออกมาหลังการประชุมลับ หรือ คอนเคลฟ เริ่มต้นขึ้น ว่าจะเป็น "สีขาว" หรือ "สีดำ" และจะใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะได้ควันสีขาวหรือที่หมายความว่าที่ประชุมได้เลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้ว
พระสันตะปาปาองค์ใหม่จะได้รับเลือกต่อเมื่อได้เสียงอย่างน้อย 2 ใน 3 แต่หากผ่านไปแล้ว 13 วันยังไม่มีผู้ได้รับเลือกจะมีการลงคะแนนเลือกพระคาร์ดินัลที่มีคะแนนนำเพียง 2 รูป แต่พระคาร์ดินัลที่จะได้รับเลือกก็จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนมากกว่า 2 ใน 3

(แฟ้มภาพ) แสดงให้เห็นพระคาร์ดินัลเข้าแถวรอในโบสถ์น้อยซิสตินเพื่อสาบานต่อพระคัมภีร์ว่าจะไม่เปิดเผยความลับของการพิจารณาของก่อนที่การประชุมคอนเคลฟจะเริ่มขึ้นที่วาติกันในวันที่ 12 มีนาคม 2013
(แฟ้มภาพ) แสดงให้เห็นพระคาร์ดินัลเข้าแถวรอในโบสถ์น้อยซิสตินเพื่อสาบานต่อพระคัมภีร์ว่าจะไม่เปิดเผยความลับของการพิจารณาของก่อนที่การประชุมคอนเคลฟจะเริ่มขึ้นที่วาติกันในวันที่ 12 มีนาคม 2013
การประชุมลับ 2 ครั้งที่ผ่านมาคือในปี 2005 ซึ่งเลือกพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 และในปี 2013 ซึ่งเลือกพระสันตะปาปาฟรานซิส ต่างใช้เวลาเพียง 2 วัน แต่ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าครั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่า เนื่องจากพระคาร์ดินัลจำนวนมากที่พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงแต่งตั้งยังไม่เคยพบกันมาก่อน ซึ่งพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งพระคาร์ดินัลจากสถานที่ที่ไม่เคยมีพระคาร์ดินัลมาก่อน เช่น เมียนมา เฮติ หรือรวันดา
ทั้งนี้ การประชุมลับเพื่อเลือกพระสันตะปาปาในช่วง 10 ครั้งก่อนหน้านี้ ใช้เวลาเฉลี่ยราว 3 วัน
จับตาอนาคตสันตะปาปาองค์ใหม่
ส่วนผู้ที่ได้รับความสนใจว่าอาจจะได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ครั้งนี้ ชื่อหนึ่งที่หลายคนอาจจะได้ยินในช่วงหลายวันมานี้ เนื่องจากมาจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา คือพระคาร์ดินัล Luis Antonio Tagle วัย 67 ปี จากฟิลิปปินส์ อดีตอาร์ชบิชอปแห่งมะนิลา เจ้าของฉายา Asian Francis หรือฟรานซิสฉบับเอเชีย
ท่านมีแนวคิดที่คล้ายคลึงกับพระสันตะปาปาฟรานซิสผู้ล่วงลับ รวมถึงท่าทีที่ไม่แข็งกร้าวต่อกลุ่มเพศหลากหลายเหมือนในอดีต ท่านเคยถูกจับตามองในฐานะผู้ที่อาจได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปามาแล้วตั้งแต่ปีที่พระสันตะปาปาฟรานซิสได้รับเลือกในปี 2013 แต่ขณะนั้นถูกมองว่ายังอายุน้อยเกินไป
พระคาร์ดินัลอีกท่านที่ถูกกล่าวถึง คือ Pietro Parolin พระคาร์ดินัลชาวอิตาเลียนวัย 70 ปี เลขาธิการนครรัฐวาติกัน นับเป็นผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับพระสันตะปาปาฟรานซิสที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นเบอร์ 2 ของพระสันตะปาปาฟรานซิสมานานนับสิบปี ทั้งดูแลกิจการภายในคริสตจักร และยังรับผิดชอบนโยบายการต่างประเทศด้วย
หลายคนยกย่องท่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสานสัมพันธ์กับจีนและเวียดนามในช่วงหลายปีมานี้ ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ แต่อีกมุมหนึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าท่านไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานกับประชาชนคนทั่วไป เนื่องจากคลุกคลีอยู่กับแวดวงการต่างประเทศของวาติกันมาร่วม 40 ปี จนถูกมองเป็นข้อด้อย
พระคาร์ดินัล 2 รูปที่กล่าวถึงเมื่อสักครู่มีแนวทางคล้ายพระสันตะปาปาฟรานซิส แต่ถ้าศาสนจักรจะเกิดการเปลี่ยนแปลง บุคคลหนึ่งที่ได้รับความสนใจคือ Péter Erdő วัย 72 ปี จากฮังการี อาร์ชบิชอปแห่งบูดาเปสต์ผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมและน่าจะเป็นตัวเลือกของพระคาร์ดินัลสายอนุรักษ์ที่ไม่เห็นด้วยกับทิศทางของคริสตจักรโรมันคาทอลิกช่วง 12 ปีที่ผ่านมา หากได้รับเลือก ท่านน่าจะฟื้นคืนกฎระเบียบและธรรมเนียมดั้งเดิมของคริสตจักรโรมันคาทอลิกให้มุ่งกลับสู่เส้นทางสายอนุรักษ์นิยม
อ่านข่าว : สเปน-โปรตุเกส ไฟดับวงกว้าง ประชุมฉุกเฉินเร่งหาสาเหตุ
"ลิเวอร์พูล" ปิดจ็อบ ถล่มสเปอร์ส 5-1 การันตีแชมป์พรีเมียร์ลีก