วันนี้ (27 เม.ย.2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน แถลงผลประชุมใหญ่สามัญประจำปี ว่า การประชุมวันนี้เป็นไปตามกรอบกฎหมายกำหนดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ต้องมีการรายงานผลดำเนินงานของพรรคตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน แถลงผลประชุมใหญ่สามัญประจำปี
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน แถลงผลประชุมใหญ่สามัญประจำปี
ทั้งประเด็นรายงานงบการเงินและการปรับปรุงข้อบังคับพรรค เพื่อให้การทำงานของพรรคสะดวกมากขึ้นโดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนสมาชิก การมีส่วนร่วมของสมาชิก การทำให้โครงสร้างยึดโยงกับสมาชิกพรรค และเรื่องสุดท้ายการทำให้การเงินของพรรคมาจากประชาชนสำหรับการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้า ดำเนินการ 2 ส่วน
คือการทำนโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในปี 2570 และการเตรียมพร้อมของผู้สมัครรองรับเลือกตั้ง ที่มีกระบวนการให้ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง เข้าสู่กระบวนการคัดสรรได้ ซึ่งขณะนี้มีการเปิดอบรมโครงการนักการเมืองของพรรค ในช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และเปิดอบรมจนถึงวันที่ 13 มิ.ย.นี้
พรรคยังต้องการผู้ที่ประสงค์ทำงานการเมืองร่วมกับเรา สามารถเข้ามาได้เรายังต้องการคนอีกมาก ดังนั้นประชาชนคนไหนหรือสมาชิกพรรคมีความประสงค์ทำงานการเมืองสามารถเข้ามาได้
นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังขาดนโยบายที่ตอบสนองของประชาชนในระดับภูมิภาคที่มีความแตกต่างกัน จึงต้องการประชาชนก็มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ทำนโยบายร่วมกัน
ขณะที่นายณัฐพงษ์ กล่าวเสริมว่า จากที่มีการสัมมนาสมาชิกพรรคตลอด 3 วัน พรรคยังคงย้ำจุดยืนในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากมองในโจทย์ของประเทศ ไม่ได้ตั้งเป้าชนะการเลือกตั้งอย่างเดียวเท่านั้น ยังต้องการสร้างรัฐบาลที่ดีที่สุดที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคประชาชน
สิ่งสำคัญในตอนนี้หากพิจารณาบริบทสถานการณ์ประเทศในปัจจุบัน สถานการณ์โลกแวดล้อม และสถานการณ์ภายในประเทศที่บีบรัดเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว เพียงแค่การชนะจากเหตุผลดังกล่าวยังไม่ใช่ทางออกของประเทศ
หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวอีกว่า ทางออกของประเทศ คือ การเสนอรัฐบาลที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำ คือ การสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน แต่ก่อนพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล เป็นความหวังให้กับประชาชน
แต่โจทย์ต่อไปของพรรคประชาชน คือ การทำให้ประชาชนมีความมั่นใจต่อพรรคประชาชนมากขึ้น ภายในพรรคเองต้องมีการทำงานกับประชาชนอย่างเข้มข้นและเตรียมนำเสนอนโยบายในอนาคต ทั้ง 3 เสานโยบาย การเมือง การปฏิรูประบบราชการ และเศรษฐกิจ
นโยบายเศรษฐกิจคือ ความหวังประชาชน ที่เคยเป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย แต่เห็นแล้วว่าไม่สามารถสร้างทางออกให้กับประชาชนได้ จึงขอเสนอตัวมาทำงานในจุดนี้เตรียมที่จะสื่อสารกับประชาชนต่อไปเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจ
เมื่อถามถึงการเตรียมเลือกตั้งปี 2570 อาจมีคนเปรียบเทียบว่าคราวที่แล้วคะแนนที่ได้มาจากคะแนนคนที่เบื่อลุงรอบนี้จะทำได้ยากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่เบื่อลุง คนที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย คนที่ต้องการการเมืองโปร่งใสปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน
เชื่อว่าตอนนี้เห็นอยู่แล้วว่ารัฐบาลที่เหมารวมจัดตั้งรัฐบาลด้วยดีลแลกประเทศ ไม่ใช่ทางออก แต่ทางออกของประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าการเมืองที่โปร่งใสระบบราชการที่ตอบสนองต่อประชาชนนโยบายด้านเศรษฐกิจ และปราศจากการทุจริตในทุกระดับ ประชาชนทุกกลุ่มล้วนต้องการนโยบายเช่นนี้ ซึ่งพรรคประชาชนมีจุดยืนมาตลอดพร้อมผลักดันและเสนอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับประชาชน
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งรอบหน้าอาจมีคนงดออกเสียงเพิ่มมากขึ้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หน้าที่ของพรรคประชาชน คือการรณรงค์ ทางความคิดและสื่อสารกับประชาชนอย่างมาก นับแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันเลือกตั้งครั้งหน้า ในทุกนโยบายที่ได้กล่าวไปเชื่อว่าประชาชนยังคงมีความหวังและสามารถฝากความหวังไว้กับพรรคประชาชนได้จากการทำหน้าที่ของ สส. และตัวแทนประชาชน
เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคแดงกับพรรคส้ม จะจับมือกันหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พูดชัดเจนว่าการจัดตั้งรัฐบาล แบบนี้ พรรคประชาชนไม่สามารถเข้าร่วมรัฐบาลได้
เพราะการจัดตั้งรัฐบาลแบบที่เป็นอยู่ไม่ได้มีประชาชนเป็นศูนย์กลางในสมการการตัดสินใจ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดได้เลย ทั้งการปฏิรูปกองทัพ การทลายทุนผูกขาด และนโยบายอีกหลายเรื่อง
ตราบใดที่ประชาชนถูกถอดออกจากสมการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ ปัญหาเชิงโครงสร้างทุกเรื่องไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งสิ่งนี้สิ่งที่ไทยต้องการคือการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง
เมื่อถามว่า รอบหน้าจะไม่ร่วมกับเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สื่อสารมาโดยตลอดหากพรรคเพื่อไทยจะร่วมกับพรรคประชาชนได้อาจจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ต้องมีการสื่อสารว่าการกระทำที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยทำผิดต่อประชาชนจริงๆ หากสื่อสารเรื่องนี้อย่าง ไม่อยากให้มองว่าการจับไม่จับมือกับพรรคใดเป็นเงื่อนไขในการตั้งรัฐบาลเองเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องเป็นเงื่อนไขที่พรรคการเมืองอื่นตั้งเงื่อนไขด้วยเช่นกัน
สิ่งที่โฟกัสตอนนี้ คือ การทำงานทางความคิด นำเสนอทางออกให้กับประชาชนเป็นหลัก ส่วนการตัดสินใจของประชาชนจะเป็นอย่างไร ยืนยันได้ตอนนี้ว่าพรรคมีจุดยืนไม่กลับไปกลับมาที่หาเสียงแบบหนึ่งและทำแบบหนึ่งแน่นอน
หัวหน้าพรรคประชาชน ย้ำว่า เป้าหมายของพรรคประชาชนไม่ใช่เพียงแค่การชนะเลือกตั้ง แต่เป้าหมาย คือ หาทางออกให้กับประเทศ หากผลการเลือกตั้งซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่จะส่งผลสะท้อนออกมาเป็นจำนวนเก้าอี้ สส. ในสภา ถ้าวันนี้พรรคประชาชน หรือตัวเองในฐานะหัวหน้าพรรค สื่อสารไปแล้วเป็นเงื่อนไขทางการเมืองว่า จับมือกับพรรคใดหรือพรรคใดไม่ได้ ซึ่งสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอด
อย่างที่ได้เห็นเรื่องกำแพงภาษีทรัมป์ แล้วถึงเวลาเงื่อนไขของโลกเปลี่ยน แต่เงื่อนไขที่ตั้งล่วงหน้า อาจถูกตั้งคำถามในอนาคต อาจจะกลายเป็นว่าปิดประตูให้กับประเทศหรือไม่ เงื่อนไขการจับมือกับพรรคใดต้องหารือในช่วงใกล้เลือกตั้ง
เงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาล เรื่องนโยบายของพรรคจะสามารถมีจำนวน สส.ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่ อยู่ที่ความไว้วางใจของประชาชนที่จะสะท้อนมาจากการทำงานของพรรค วันนี้ที่ประชุมใหญ่สามัญพรรคมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง เชื่อว่าถ้าทำงานดี แก้ไขปัญหาที่ผ่านมาก็จะสะท้อนถึงคะแนนเสียงที่ได้รับในอนาคต และหากประชาชนมอบความไว้วางใจได้มากเพียงพอ ก็มั่นใจว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้
เมื่อถามเรื่องคดี 44 สส. ของอดีต สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งปัจจุบัน คือ พรรคประชาชน อาจกลายเป็นระเบิดเวลาทางการเมืองของพรรคประชาชนมีการเตรียมอย่างไรบ้าง
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทีมกฎหมายทำงานอย่างเต็มที่ สส. แต่ละคนที่ถูกดำเนินคดีมีทีมกฎหมายประกบแต่ละบุคคล แต่การทำหน้าที่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงสมาธิในการทำงาน ยังคงตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่ได้ประมาทในการเตรียมตัวรับมือในการดำเนินคดี
อ่านข่าว :
ปชช.ใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช
“ปชน.” จี้ รัฐเร่งเจรจา “ภาษีทรัมป์” ชี้ คดี“พอล แชมเบอร์ส” ทำสหรัฐไม่คุยไทย
นิด้าโพล เผยผลสำรวจชี้ “กาสิโน” จุดแตกหัก “เพื่อไทย - ภูมิใจไทย”