ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

อดีตคลังเตือนรัฐบาล เจรจาภาษีสหรัฐฯ ระวังการเมือง-ความมั่นคง

การเมือง
22 เม.ย. 68
17:28
84
Logo Thai PBS
อดีตคลังเตือนรัฐบาล เจรจาภาษีสหรัฐฯ ระวังการเมือง-ความมั่นคง
อ่านให้ฟัง
04:18อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง เตือนรัฐบาลให้ระวังการเจรจาภาษีนำเข้า 36% กับสหรัฐฯ ภายใต้นโยบายทรัมป์ แนะเรียกร้องตัวเลขชัดเจน หลีกเลี่ยงประเด็นการเมือง และคำนึงถึงการค้าบริการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ

วันนี้ (22 เม.ย.2568) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ แถลงข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าไทย​ ว่า รัฐบาลต้องระวังในการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ เนื่องจากมีบันทึกของ ปธน.ทรัมป์ ฉบับลงวันที่ 13 ก.พ.2568 ที่ระบุว่า เพื่อทำให้ประเทศคู่ค้าลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ​ ที่ไม่เป็นธรรม และลดการขาดดุลการค้า โดย สหรัฐฯ จะคำนวณอัตราภาษีของประเทศคู่ค้าซึ่งรวมถึงปัจจัยต่อไปนี้

  1. อัตราภาษีนำเข้าจริง ซึ่ง นายกฯ กล่าวว่า ไทยคิดภาษีนำเข้าเฉลี่ยไม่ถึงร้อยละ 10 ต่ำกว่า อัตราร้อยละ 72 ที่สหรัฐฯ อ้างอย่างมาก
  2. ภาษีอื่น ๆ ที่คิดจากสหรัฐฯ รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม
  3. การกีดกันที่ไม่ใช่อัตราภาษี รวมไปถึงการอุดหนุนส่งออก และกฎระเบียบที่สร้างภาระแก่สินค้าสหรัฐฯ
  4. การบริหารค่าเงินฝืนตลาด หรือ การกดค่าแรงต่ำเกินควร
  5. ข้อจำกัดด้านการเข้าถึงตลาด หรือข้อกีดกันอื่นที่ไม่เป็นธรรม

ล่าสุด ปธน.ทรัมป์ ได้บรรยายการกีดกันนอกเหนือจากภาษีนำเข้า ประกอบด้วย

  1. การบิดเบือนค่าเงิน
  2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
  3. ราคาส่งออกต่ำกว่าทุน
  4. มาตรฐานสินค้าเกษตรที่กีดกัน
  5. มาตรฐานด้านเทคนิคที่กีดกัน
  6. การละเมิดสิทธิทางปัญญา
  7. การสวมสิทธิ์เพื่อเลี่ยงภาษีสหรัฐฯ

ดังนั้น ในแรกเริ่มเจรจา จึงควรจะเรียกร้องให้ ทีมสหรัฐฯ แสดงตัวเลขชัดเจนเสียก่อนว่า กรณีของไทย สหรัฐฯ ได้คำนวณอัตราร้อยละ 72 แยกเป็นแต่ละปัจจัยข้างต้นเท่าใด

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องระวังการปะปนด้านการเมืองและความมั่นคง เนื่องจากเป็นการเจรจาด้านการค้า จึงควรระวังไม่ให้การเจรจาขยายวงไปถึงข้อเรียกร้องในด้านการเมืองระหว่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์หลักของชาติและความมั่นคงที่ไม่พึงจะนำมาใช้ในการเจรจาแลกเปลี่ยนทางการค้า

นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงรายได้ค้าบริการ เนื่องจากตัวเลขที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้นั้น เน้นขาดดุลการค้าเฉพาะด้านสินค้า แต่ในด้านการค้าบริการ สหรัฐฯ เกินดุลกับไทยจำนวนมาก และเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตสูง ดังนั้น จึงต้องมีการคำนึงถึงประโยชน์ของสหรัฐฯ ในด้านนี้ซึ่งนับวันมีแต่จะมากขึ้น โดยเฉพาะในอนาคตที่จะมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์กันอย่างกว้างขวางมากขึ้น และต้องครอบคลุมนักลงทุนจากทุกชาติเนื่องจากประเทศไทยให้สิทธิ์ชาวต่างชาติมาลงทุนอุตสาหกรรมกันอย่างเสมอภาค

ผลที่ได้จากการเจรจาจึงจะต้องให้ครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมที่มีนักลงทุนจากทุกชาติ ไม่ว่านักลงทุนสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ฯลฯ โดยไทยจะดูแลจัดให้มีการเพิ่มมูลค่าในขบวนการผลิตในไทยที่เหมาะสม

อ่านข่าวอื่น :

นายกฯ สั่งลดธงครึ่งเสา 3 วันถวายความอาลัย "โป๊ปฟรานซิส"

กวาดปัญหาขัดแย้งซุกใต้พรม นายกฯ เสียงแข็งยังไม่ปรับครม.

"สมยศ" โล่งใจศาลยกฟ้องคดี "บอส อยู่วิทยา" ให้กำลังใจอดีตอัยการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง