ความคืบหน้า คดีกรณีอาคาร สตง.ถล่ม โดยวันนี้ (18 เม.ย.2568) ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯจะประชุมเพื่อรับทราบ หลังจากมีความคืบหน้าการตรวจสอบไปหลายส่วน ทั้งการตรวจค้นบริษัทที่เชื่อมโยงกับกรณีนอมินี และการปลอมลายเซ็นวิศวกร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้น 4 จุดพร้อมกัน จุดที่ 1 Carhub ศูนย์บริการรถยนต์และยาง (สำนักงานใหญ่) ย่านถนนพระรามที่ 2 แขวงและเขตจอมทอง กรุงเทพฯ และบ้านนายบินลิง วู ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับ บริษัท ไชนา เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ประเทศไทย
จุดที่ 2 บริษัท แคป เวลธ์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ย่านถนนรามคำแหง แขวงและเขตมีนบุรี และกิจการร่วมค้า PKW,
จุดที่ 3 บริษัท ว.และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด ย่านถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
จุดที่ 4 บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ย่าน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
ทุกแห่งได้ตรวจค้นและตรวจยึดพยานเอกสาร พยานวัตถุที่เกี่ยวข้องในคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) หลังเกิดเหตุ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดี ดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นรวม 4 จุด สามารถยึดสำเนาเอกสารได้เป็นจำนวนมาก เป็นส่วนวิศวกรผู้ควบคุมงานที่ปรากฎในเอกสารของ สตง. รวม 51 คน
พบวิศวกรถูกอ้างชื่อคุมงานก่อสร้างเพิ่ม
นอกจากนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่แสดงตัวว่า ถูกปลอมลายเซ็นและแอบอ้างชื่อ เป็นผู้ควบคุมงาน ยังมีวิศวกรอีก 1 คน บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ เข้าแสดงตัวว่า ถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็น ในฐานะวิศวกรผู้ควบคุมงาน เช่นกัน
ส่วนบุคคลที่เหลือที่มีชื่อปรากฏ จะเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้วประมาณ 10 ปาก และวันนี้พรุ่งนี้ (19 เม.ย.2568) จะเรียกสอบปากคำ กลุ่มผู้รับงานก่อสร้างและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งมีตัวแทนบริษัทไชน่าฯ และ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ รวมทั้งผู้ถือหุ้น รวม 7 คน
ส่วนหมายเรียกกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มผู้ทำบัญชีและตรวจสอบบัญชี 6 คน และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มผู้เสนอราคา 6 คน หมายเรียกจะทยอยออกมาเพื่อเชิญเข้าให้ปากคำระหว่างวันที่ 18 เม.ย. - 15 พ.ค.นี้
รองอธิบดี ดีเอสไอ ระบุด้วยว่า คดีนอมินีคืบหน้าไปมากทั้งเรื่องพยานหลักฐาน เส้นทางการเงินที่พิสูจน์ทุนและการถือครองหุ้นแทนคนต่างด้าว ขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานในเรื่องการทำให้การแข่งขันในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐไม่เป็นธรรม จนได้โครงการมาว่ามีการใช้กลอุบาย "ฟันราคา" แล้วมาลดงานภายหลัง เป็นความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูล หรือพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐหรือไม่ ต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ
"อนุทิน" ขีดเส้น 90 วัน สอบปมตึก สตง.ถล่ม
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เหตุการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ ระบุว่า หนึ่งในสาเหตุตึกถล่ม ตรงกับข้อสันนิษฐานของ ศ.กิตติคุณ วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย คือ เกิดจากปล่องลิฟต์ไม่สมมาตร ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ฯ จะตรวจสอบไปที่การออกแบบก่อน โดยเฉพาะการออกแบบที่ไม่สมมาตรกับตึก สตง.ว่ามีการออกแบบเผื่อกับการทนต่อแรงบิด-แรงเฉือน หรือไม่
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า คณะกรรมการชุดนี้ฯ จะใช้เวลาในการดำเนินการ 90 วัน ส่วนการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ให้กับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จะใช้เงินทดรอง ผ่านกรมบัญชีกลาง รายละ 100,000 บาท
มีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร นายกฯ ได้เชิญ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้ารายงานความคืบหน้าของคดีอาคาร สตง.ถล่ม ขณะที่เมื่อวานนี้ (17 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวสอบถามนายกฯ เรื่องการตรวจสอบการทุจริตของโครงการก่อสร้าง ว่าจะถือโอกาสนี้สะสางเลยหรือไม่ แต่นายกฯไม่ได้ตอบคำถามนี้
อ่านข่าว : นำร่างผู้สูญหายออกจากตึก สตง.อีก 2 คน
“นิติเวช” ส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม ให้ครอบครัวแล้ว 21 คน
กทม.ลดยอดซากตึก สตง.เหลือ 14 เมตร เร่งเข้าตัดเหล็ก เข้มฆ่าเชื้อน้ำทิ้งก่อนระบายออก