วันนี้ (23 ก.พ.2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านต้องสงสัยที่คาดว่าจะขายบุหรี่ไฟฟ้า บน ถ.สุเหร่าคลอง 1 เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายเข้าตรวจสอบ 3 จุด
จุดที่ 1 จากการตรวจสอบ พบว่าร้านดังกล่าวปิดให้บริการ ส่วนจุดที่ 2 และ จุดที่ 3 ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายกัญชา จากการเข้าตรวจค้นไม่พบว่ามีจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า หลังจากที่ลงพื้นที่ในช่วงแรกไม่พบการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จึงได้สุ่มหาร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่เพิ่มเติม อีก 3 จุด บริเวณถนนเลียบคลองสอง เขตคลองสามวา ซ.นวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม และ ย่านถนนคู้บอน เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร

พบเป้าหมายลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าหลายรูปแบบถูกตั้งขายภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงทำการยึด และส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี ความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ในข้อหา "การลักลอบผลิตเพื่อขาย บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา อุปกรณ์ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายจิรายุ เปิดเผยว่าหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชน เกี่ยวกับข้อมูลผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่เขตคลองสามวา จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าตามร้านที่ต้องสงสัย โดยให้เหตุผลว่ากลุ่มผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าไหวตัวทัน คาดว่าข้อมูลการลงพื้นที่ของตัวเองรั่วไหล ซึ่งหลังจากนี้เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรี พิจารณาตั้งคณะทำงานในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาอย่างจริงจัง

โดยอ้างอิงถึงตัวเลขที่พบยอดขายสูงถึง 5,000 ล้านบาท และพบว่ามีเยาวชนเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า เป็นจำนวนมากจากรูปแบบที่ทำเป็นตุ๊กตา และของเล่นเพื่อดึงดูดความสนใจ พร้อมจะนำหน่วยเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างจริงจังให้ได้ ภายใน 3 เดือน
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า นายจิรายุ อ้างถึงข้อมูลจาก ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย ที่ร่วมลงพื้นที่ด้วย เปิดเผยว่าที่ผ่านมา มีการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศมาไว้ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนทยอยลักลอบนำเข้าประเทศในลักษณะของกองทัพมด ซึ่งจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้และหาวิธีป้องกัน
ส่วนการลักลอบนำเข้าผ่านด่านศุลกากร โดยการสำแดงเท็จ หากมีการตั้งคณะกรรมการในการปราบปรามเรื่องนี้แล้ว จะประสานข้อมูลกับกรมศุลกากรเพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไข อีกทั้งหากพบเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจในพื้นที่ต่าง ๆ เข้าไปรับผลประโยชน์ในขบวนการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายด้วยเช่นกัน

อ่านข่าวอื่น :
ตายทั้งเป็น! สูบบุหรี่ไฟฟ้า EVALI พิษร้ายนำพาสูบออกซิเจนใน ICU