วันนี้ (23 ก.พ.2568) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) นำหมายเข้าค้น 5 จุดเป็นบ้านพัก ร้านค้า คอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 จุด และบ้านพักในพื้นที่สมุทรสาคร เป็นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่พักพิงของผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 คน
โดยการเข้าตรวจจับยึดของกลางจำนวนมาก โดยเฉพาะตุ๊กตาอาร์ตทอย แบร์บริค 30 ตัว โทรศัพท์มือถือจำนวน 11 เครื่อง โฉนดคอนโดมิเนียม สัญญาปล่อยเช่าคอนโดอย่างละ 1 ฉบับ หนังสือเดินทางจำนวน 6 เล่ม ตู้เซฟนิรภัย เสื้อผ้าเครื่องประดับของใช้แบรนด์เนม หลายรายการ และออกรถยนต์รู้จำนวน 2 คัน รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
ตุ๊กตาอาร์ตทอย แบร์บริค 30 ตัว
ตุ๊กตาอาร์ตทอย แบร์บริค 30 ตัว
ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 คน คือนายเชา อายุ 34 ปี ถูกจับได้ที่คอนโดมิเนียมย่านพระราม 3 และน.ส.นริศรา อายุ 21 ปี ถูกจับได้ที่คอนโดมิเนียมย่านสาทร โดยทั้งสองคนถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สมคบการฟอกเงิน , และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
อ่านข่าว ค้นรังบัญชีม้า! เปิดห้องพักโรงแรมฝั่งสระแก้วร่วมแก๊งคอลเซนเตอร์
หลังตำรวจได้รับแจ้งความจับผู้เสียหายว่าถูกผู้ต้องหาทั้งสองคน หลอกชักชวนให้ร่วมลงเทรดทุนสกุลเงินดิจิตอล เป็นสกุลคริปโตเคอเรนซี่ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าได้กำไรและผลตอบแทนสูง
โดยช่วงแรกได้รับผลกำไรจริง เมื่อผู้เสียหายเห็นว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้จึงโอนเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ในที่สุดไม่สามารถถอนเงินได้ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เสียหายเงินไปกว่า 2 ล้านบาทก่อนเข้าแจ้งความ
ทรัพย์สินที่ตำรวจตรวจยึดมาได้
ทรัพย์สินที่ตำรวจตรวจยึดมาได้
ปิดแอปลวงลงทุน-พบมูลค่าเสียหาย 30 ล้าน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาจะสร้างแพลตฟอร์มปลอมในการหลอกผู้เสียหายลงทุน โดยใช้ชื่อแอปพลิเคชันว่า ชื่อแอป neccorpo.site พร้อมสร้างหน้าเพจบนแอปพลเคชัน หลอกผู้เสียหายว่าได้กำไรจากเงินลงทุนสูง เผื่อใครจะไม่เสียหายโอนเงินเพิ่มในการปลดล็อกแลกกับการได้รับผลกำไรมาก แต่สุดท้ายผู้เสียหายก็ไม่ได้เงินคืน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังพบอีกว่ามี 28 รายชื่อที่แจ้งความผ่านในระบบออนไลน์ ถูกหลอกผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว และมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับผู้ต้องหา มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท
อ่านข่าว 5 แสนปริศนาโอนเข้าบัญชี สาว 23 ผวาหวั่นเป็นมิจฉาชีพ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ตำรวจยังพบข้อมูลดีกว่า นายเชา ผู้ต้องหาชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยนานกว่า 3 ปีแล้ว พบเข้าออกระหว่างประเทศฝั่งกัมพูชาและจีน
ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และเส้นทางการเมืองขยายผลหากผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเพิ่มเติม ส่วนแอพลิเคชันที่ใช้หลอกผู้เสียหาย ทางตำรวจได้ดำเนินการปิดแอปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนสถิติการแจ้งความทางออนไลน์เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีตัวเลขลดน้อยลงยังเห็นได้ชัด จากการถูกหลอกในเครือข่ายคอลเซนเตอร์
แต่ยังพบว่าตัวเลขการถูกหลอกจองโรงแรมที่พัก หรือเปิดเพจร่วมลงทุนยังมีตัวเลขการแจ้งความเพิ่มจำนวนมาก จึงอยากให้ประชาชนมาระมัดระวังกลุ่มเหล่านี้ที่มักใช้เพจเฟซบุ๊ก สร้างความน่าเชื่อถือ แอบอ้างหน่วยงานต่าง ๆ มาหลอก
อ่านข่าว
จเรตำรวจฯ ถกร่วม ตร.กัมพูชา ได้ 3 ข้อสรุปปราบคอลเซนเตอร์
"ประเสริฐ" ชี้ กม.พนันออนไลน์ยังไม่สรุป คาดชง ครม.ได้ เม.ย.นี้