วันนี้ (24 ม.ค.2568) นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จากกรณีที่นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ยื่นเรื่องต่อประธานสภา ฯขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ล่าช้า
กรณีตรวจสอบบุคคลที่อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล อ้างเป็นคนของผู้ใหญ่ในรัฐบาล อ้างเป็นสื่อมวลชน และมีพฤติกรรมในการใช้ตำแหน่งในกรรมาธิการ หาผลประโยชน์ส่วนตัวและทางการเมือง
นายฉลาด ยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้า เพราะได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เจ้าหน้าที่สภาฯ ลงเลขรับวันที่ 17 ม.ค.และเสนอเรื่องมาถึงให้ฝ่ายเลขามี พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะอนุฯ กลั่นกรองเรื่องร้องเรียน แล้วจึงส่งเรื่องมาที่กรรมาธิการชุดใหญ่
การพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่าง ต้องผ่านการกลั่นกรอง โดยเฉพาะกรณีนี้เป็นการกล่าวหาบุคคล โดยระบุว่ามีอักษรย่อ เสี่ย ป.
นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
พบเสี่ย ป.มี 14 คน-ถ้ามีมูลเอาออกทันที
นายฉลาด กล่าวอีกว่า เมื่อตรวจสอบที่ปรึกษาที่ตั้งขึ้นมาว่ามีใครที่มีชื่อ ป. บ้าง พบว่ามีถึง 14 คนที่มีชื่อ ป.นำหน้า และที่ปรึกษาของก็เป็นนักวิชาการ เป็นคนจน ไม่มีใครเป็นเสี่ยสักคน ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบในเชิงลึก หากพบว่าข้อร้องเรียนมีมูล ก็ต้องให้ออกจากการเป็นที่ปรึกษา และดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
นายฉลาด ระบุว่า ขอให้กลุ่มธรรมาภิบาล สบายใจได้ กรรมาธิการไม่ได้ทำงานล่าช้า เนื่องจากปัญหาที่รอการพิจารณาในกรรมาธิการมีมากกว่า 200 เรื่อง ขณะนี้มีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา คือโครงการของภาครัฐที่ส่อไปในทางทุจริตและกำลังดำเนินการพิจารณาในการสรุปปัญหาเพื่อส่งต่อสภา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจิรตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการเอาผิดทุกโครงการ
โดยมี 3 โครงการได้แก่ ปัญหาปลูกป่าทิพย์ที่ จ.กระบี่ ปัญหารถบัสเก่าอายุ 53 ปี ที่เกิดไฟไหม้ทำให้นักเรียนและชีวิต และปัญหาการทิ้งงานก่อสร้างโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ 545 ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง