อุณหภูมิประเทศไทยเวลานี้ สูงติดอยู่ในโซนแดง ชนิดที่เรียกว่า อันตรายมาก ท่ามกลางความร้อนเหล่านี้ สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ล้วนได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ “ปะการัง” ที่เกิดภาวะ “ฟอกขาว” ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเลโดยตรง
ปะการังฟอกขาว คือปรากฏการณ์แบบใด ? และเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลอย่างไร ? Thai PBS นำเรื่องราวเหล่านี้มาบอกกัน
ปะการังฟอกขาว หรือ Coral bleaching เป็นปรากฏการณ์ที่เนื้อเยื่อปะการังมีสีซีดหรือจางลง ต้นเหตุเกิดจากการสูญเสีย “สาหร่ายซูแซนเทลลี (zooxanthellae)” ซึ่งเป็นสาหร่ายที่ทำหน้าที่สังเคราะห์แสง ให้ธาตุแก่ปะการังในการดำรงชีวิต
รวมทั้งเป็นตัวสร้างสีสันให้กับปะการัง เนื่องจากปกติปะการังไม่มีมีสี เป็นเพียงเยื่อใส ๆ การเห็นว่าปะการังมีสี เกิดจากสาหร่ายซูแซนเทลลี ที่ให้สีแดง ส้ม เขียว น้ำตาล นั่นเอง
นอกจากนี้ ปะการังและสาหร่ายซูแซนเทลลี ยังมีภาวะที่เกื้อกูลต่อกัน กล่าวคือ ปะการังเป็นที่อยู่อาศัยให้สาหร่ายซูแซนเทลลี ส่วนสาหร่ายซูแซนเทลลีจะนำของเสียจากปะการัง เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ไนเตรท ฟอสเฟต มาใช้สร้างอาหาร ดังนั้น หากทั้งสองสิ่งแยกจากกัน ทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้
ปะการัง เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมา ภาวะโลกร้อน และสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาวขึ้น
นอกจากนี้ น้ำจืด รวมทั้งสารเคมี และมลพิษต่าง ๆ ที่ไหลลงสู่ทะเล ล้วนส่งผลต่อการดำรงชีวิตของปะการัง เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้สาหร่ายซูแซนเทลลี อพยพออกจากเนื้อเยื่อของปะการัง เพื่อหาสภาพแวดล้อมใหม่ให้มีชีวิตรอด ทำให้ปะการังเหลือเพียงโครงสร้างหินปูนสีขาวเท่านั้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปะการัง คือแหล่งอาหารให้สัตว์ทะเลมากมาย รวมทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเล หาก ปะการัง ไม่สมบูรณ์ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เช่น มีโอกาสสูญพันธุ์ รวมถึงระบบนิเวศทางท้องทะเลที่เสียสมดุล นอกจากนี้ การสูญเสียแนวปะการังตามธรรมชาติ ยังส่งผลต่อการชะลอคลื่น และการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง จากคลื่นลมในมหาสมุทรอีกด้วย
Global Coral Reef Monitoring Network (GCRMN) ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดทำข้อมูลปะการังระดับโลก ได้ทำรายงานที่ชื่อ Status of Coral Reefs of the World หรือรายงานสถานะของปะการังโลก โดยใช้ข้อมูลระหว่างปี 1978 – 2019 ของแหล่งปะการังกว่า 12,000 แห่ง ใน 73 ประเทศ พบว่า ระหว่างปี 2009 – 2018 ปะการังทั่วโลกหายไปประมาณ 14% คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 11,700 ตารางกิโลเมตร ส่วนพื้นที่ที่เกิดปะการังฟอกขาวจำนวนมากคือในมหาสมุทรอินเดีย พื้นที่ประเทศญี่ปุ่น และทะเลแถบหมู่เกาะแคริบเบียน
ส่วนในประเทศไทย พบปะการังที่ยังมีชีวิตอยู่โดยภาพรวมเหลือราวร้อยละ 23 ขณะที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) ซึ่งเป็นแนวปะการังขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ในประเทศออสเตรเลีย เหลือปะการังที่มีชีวิตอยู่น้อยละ 10 เท่านั้น
ปะการัง สามารถดำรงชีวิตอยู่ในภาวะฟอกขาวได้ราว 2 – 3 เดือน ในช่วงเวลาดังกล่าว หากสภาพน้ำทะเลฟื้นคืนสู่สภาวะที่เหมาะสม สาหร่ายซูแซนเทลลีกลับเข้ามาอาศัยร่วมกับปะการัง ปะการังก็จะกลับมาเจริญเติบโตได้อีกครั้ง
แต่ในมุมกลับกัน ถ้าการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในทะเลกินระยะเวลายาวนาน หรือยิ่งเสื่อมสภาพลงไป ปะการังก็จะอ่อนแอลง และตายไปในที่สุด
สำหรับการดูแลและอนุรักษ์แนวปะการัง สามารถทำได้ทุกคน เริ่มจากคีย์เวิร์ดง่าย ๆ นั่นคือ ลดการสร้างมลภาวะ เช่น…
ถึงเวลาที่ต้องร่วมมือกัน ทำ “โลก” ให้เย็นลง และน่าอยู่ ไม่เพียงแค่ช่วยเหลือปะการัง แต่ยังทำให้ “เราทุกคน” ได้อาศัยในบ้านใหญ่หลังนี้ ต่อไปอีกยาวนาน…
แหล่งข้อมูล
-วิกฤตการณ์ใต้ทะเล..ปะการังฟอกขาว
-ปะการังฟอกขาว (Coral Bleaching)
-Status of Coral Reefs of the World 2020
อ่านข่าวอื่น ๆ
-โลกเดือด! อุณหภูมิไทยแตะ 43 องศาฯ ปะการังฟอกขาว
-NOAA ประกาศโลกเผชิญภาวะ "ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่" รอบที่ 4
-ทะเลอ่าวไทยอุ่นขึ้น 1 องศาฯ จับตา 3 เดือนเสี่ยงปะการังฟอกขาว
เจ้าหน้าที่เนื้อหาออนไลน์อาวุโส Thai PBS สนใจความเคลื่อนไหวของสังคม ผู้คน และเทรนด์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ และรวมถึงเป็นสมาชิกทาสแมวมายาวนาน