นับตั้งแต่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา สถานการณ์ในสมรภูมิยูเครนก็มีความเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความหวังว่าสงครามครั้งใหญ่ในยุโรป ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกจะยุติลงได้ แต่พื้นที่ความขัดแย้งที่รอว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ เข้าไปจัดการ ไม่ได้มีแค่รัสเซีย-ยูเครนเท่านั้น
โจทย์ใหญ่ที่รอทรัมป์มาช่วยหาทางแก้ในปี 2025 คือ ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่ถ้าไปดูรายชื่อคนที่ทรัมป์เลือกเข้ามาช่วยงานในรัฐบาลสมัย 2 ชัดเจนว่าจุดยืนเอียงไปทางอิสราเอลทั้งนั้น ดังนั้นสันติภาพที่ทรัมป์จะสร้างในตะวันออกกลาง ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่า จะเป็นสันติภาพของใคร ?
นับตั้งแต่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา สถานการณ์ในสมรภูมิยูเครนก็มีความเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความหวังว่าสงครามครั้งใหญ่ในยุโรป ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกจะยุติลงได้ แต่พื้นที่ความขัดแย้งที่รอว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ เข้าไปจัดการ ไม่ได้มีแค่รัสเซีย-ยูเครนเท่านั้น
โจทย์ใหญ่ที่รอทรัมป์มาช่วยหาทางแก้ในปี 2025 คือ ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่ถ้าไปดูรายชื่อคนที่ทรัมป์เลือกเข้ามาช่วยงานในรัฐบาลสมัย 2 ชัดเจนว่าจุดยืนเอียงไปทางอิสราเอลทั้งนั้น ดังนั้นสันติภาพที่ทรัมป์จะสร้างในตะวันออกกลาง ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่า จะเป็นสันติภาพของใคร ?