เมื่อความต้องการปัจจัยในการดำรงชีวิตของชาวบ้านบัวเป็นไปอย่างยากลำบาก ข้าวที่ปลูกก็ฝากชีวิตไว้กับฟ้าฝนเพียงอย่างเดียว พวกเขาจึงหันหน้าเข้าสู่การตัดไม้ในป่าเพื่อขายให้กับนายทุนมารับซื้อ ความแห้งแล้งที่มาเยือนก็ยิ่งหนักขึ้นทุกวัน ก่อนที่จะหันมาทำไร่ยาสูบกันเกือบทั้งหมู่บ้าน เพราะยาสูบเป็นพืชหลังนาที่ต้องการน้ำไม่มากนัก และมีโรงบ่มยาที่อยู่ไม่ไกลคอยรับซื้อใบยา แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่ายาสูบที่พอจะสร้างรายได้ให้กับพวกเขา มันส่งผลต่อชีวิตของคนในชุมชนบ้านบัวเป็นอย่างมาก เพราะการทำไร่ยาสูบต้องใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลจากการตรวจเลือดของคนทั้งชุมชนกว่า 700 คน 90% มีสารพิษอยู่ในร่างกายปริมาณที่สูง และจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชาวบ้านบัว เมื่อพวกเขาลงความเห็นในการประชาคม ลด ละ เลิก การทำไร่ยาสูบ เลิกตัดไม้และมุ่งสู่การทำเกษตรอินทรีย์ ถึงแม้ว่าจะใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่เมื่อพวกเขาทำการตรวจวัดสารเคมีที่สะสมในร่างกายของคนในชุมชนก็ลดลง นั่นก็ทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขามาถูกทาง และมองหาอาชีพในการเสริมรายได้ทดแทนการเลิกทำไร่ยาสูบและตัดไม้ จากป่าไผ่ที่อยู่คู่กับชาวบ้านบัวมาช้านาน คุณค่าของมันที่เป็นได้แค่รั้วล้อมวัวและขายได้ลำละ 50 สตางค์ ถูกแปรเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์จากงานหัตถกรรม ที่มีมูลค่ามากกว่าหลายเท่าตัว ทั้งเข่ง, สุ่มไก่ แต่กว่าจะถึงวันนี้พวกเขาก็ล้มลุกคลุกคลานลองผิด ลองถูกกันมา กระทั่งปัจจุบันงานจักสานเข่งและสุ่มไก่ สร้างรายได้ปีละหลายล้านบาท และปัจจุบันชุมชนบ้านบัวกลายเป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ 100% เป็นแหล่งต้นน้ำชั้นดีที่ส่งต่อน้ำลงสู่กว๊านพะเยา
ติดตามชมรายการชุมชนคนมหัศจรรย์ วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live
เมื่อความต้องการปัจจัยในการดำรงชีวิตของชาวบ้านบัวเป็นไปอย่างยากลำบาก ข้าวที่ปลูกก็ฝากชีวิตไว้กับฟ้าฝนเพียงอย่างเดียว พวกเขาจึงหันหน้าเข้าสู่การตัดไม้ในป่าเพื่อขายให้กับนายทุนมารับซื้อ ความแห้งแล้งที่มาเยือนก็ยิ่งหนักขึ้นทุกวัน ก่อนที่จะหันมาทำไร่ยาสูบกันเกือบทั้งหมู่บ้าน เพราะยาสูบเป็นพืชหลังนาที่ต้องการน้ำไม่มากนัก และมีโรงบ่มยาที่อยู่ไม่ไกลคอยรับซื้อใบยา แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่ายาสูบที่พอจะสร้างรายได้ให้กับพวกเขา มันส่งผลต่อชีวิตของคนในชุมชนบ้านบัวเป็นอย่างมาก เพราะการทำไร่ยาสูบต้องใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลจากการตรวจเลือดของคนทั้งชุมชนกว่า 700 คน 90% มีสารพิษอยู่ในร่างกายปริมาณที่สูง และจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชาวบ้านบัว เมื่อพวกเขาลงความเห็นในการประชาคม ลด ละ เลิก การทำไร่ยาสูบ เลิกตัดไม้และมุ่งสู่การทำเกษตรอินทรีย์ ถึงแม้ว่าจะใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่เมื่อพวกเขาทำการตรวจวัดสารเคมีที่สะสมในร่างกายของคนในชุมชนก็ลดลง นั่นก็ทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขามาถูกทาง และมองหาอาชีพในการเสริมรายได้ทดแทนการเลิกทำไร่ยาสูบและตัดไม้ จากป่าไผ่ที่อยู่คู่กับชาวบ้านบัวมาช้านาน คุณค่าของมันที่เป็นได้แค่รั้วล้อมวัวและขายได้ลำละ 50 สตางค์ ถูกแปรเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์จากงานหัตถกรรม ที่มีมูลค่ามากกว่าหลายเท่าตัว ทั้งเข่ง, สุ่มไก่ แต่กว่าจะถึงวันนี้พวกเขาก็ล้มลุกคลุกคลานลองผิด ลองถูกกันมา กระทั่งปัจจุบันงานจักสานเข่งและสุ่มไก่ สร้างรายได้ปีละหลายล้านบาท และปัจจุบันชุมชนบ้านบัวกลายเป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ 100% เป็นแหล่งต้นน้ำชั้นดีที่ส่งต่อน้ำลงสู่กว๊านพะเยา
ติดตามชมรายการชุมชนคนมหัศจรรย์ วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live