ในยุคสมัยที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การปรับตัวเพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่ง ฟาร์มปลาน้ำจืด ของคุณสุทธิพงศ์ สินทรีขันธ์ เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ ด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนาและต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้ง
แม้ว่าคุณสุทธิพงศ์จะมีความตั้งใจที่จะเลือกอาชีพอื่น แต่ด้วยความที่เห็นพ่อแม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการทำฟาร์มปลา เขาจึงตัดสินใจเข้ามาช่วยงานที่บ้านเป็นเวลา 3-4 ปี เพื่อแก้ปัญหาให้ครอบครัว อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเข้ามาทำฟาร์มมากขึ้น ความสนใจและความตั้งใจก็เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนกระทั่งปัจจุบันเขาได้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่ทุ่มเทและพัฒนาธุรกิจฟาร์มปลาอย่างต่อเนื่อง
แนวคิดในการทำฟาร์มปลาน้ำจืดของคุณสุทธิพงศ์ คือการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน อาทิ การใช้ระบบการจัดการน้ำแบบวนกลับเพื่อลดการปล่อยน้ำเสีย และการใช้โรงเพาะปลาที่ไม่ต้องปล่อยน้ำทิ้ง นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนวิธีการให้อาหารและการดูแลปลาแต่ละชนิดตามความเหมาะสม เพื่อให้ปลาเจริญเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟาร์มปลาของคุณสุทธิพงศ์มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
โดยปลาหลักที่เลี้ยงและจำหน่ายประกอบด้วย ปลาตะเพียน ปลายี่ศพ ปลานวลจันทร์ ปลานิล ปลาทับทิม และปลาชนิดอื่นๆ รวมกว่า 20 ชนิด
สำหรับผู้ที่สนใจเริ่มต้นเลี้ยงปลา คุณสุทธิพงศ์แนะนำว่า หากมีบ่อดินอยู่แล้ว ควรเลือกเลี้ยงในบ่อดิน เนื่องจากปลาจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าในบ่อปูน แต่การจัดการจะยุ่งยากกว่า ในขณะที่บ่อปูนมีข้อดีคือการจัดการง่ายกว่า แต่ต้นทุนในการสร้างจะสูงกว่า ดังนั้นการเลือกใช้บ่อดินหรือบ่อปูนขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสะดวกของแต่ละบุคคล
คุณสุทธิพงศ์มีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในฟาร์มปลาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้ระบบตรวจวัดคุณภาพน้ำแบบออนไลน์ การตรวจวินิจฉัยโรคปลาอัตโนมัติ รวมถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น และลดต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น นอกจากนี้คุณสุทธิพงศ์ยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงปลาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความเข้าใจและแนวทางการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ยั่งยืน
ความตั้งใจและความมุ่งมั่นของคุณสุทธิพงศ์ในการพัฒนาฟาร์มปลาน้ำจืด เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงปลาให้เหมาะสมกับแต่ละชนิด ซึ่งนับเป็นการสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ควรค่าแก่การศึกษาและเรียนรู้
https://www.thaipbs.or.th/program/WanmaiVariety/watch/1gbNlz
https://www.thaipbs.or.th/program/WanmaiVariety/watch/x2u3u5
ชมย้อนหลังรายการ "วันใหม่วาไรตี้" ในช่วง "พอดีพอเพียง" ได้ที่ www.thaipbs.or.th/PorDeePorPiang
ในยุคสมัยที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การปรับตัวเพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่ง ฟาร์มปลาน้ำจืด ของคุณสุทธิพงศ์ สินทรีขันธ์ เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ ด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนาและต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้ง
แม้ว่าคุณสุทธิพงศ์จะมีความตั้งใจที่จะเลือกอาชีพอื่น แต่ด้วยความที่เห็นพ่อแม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการทำฟาร์มปลา เขาจึงตัดสินใจเข้ามาช่วยงานที่บ้านเป็นเวลา 3-4 ปี เพื่อแก้ปัญหาให้ครอบครัว อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเข้ามาทำฟาร์มมากขึ้น ความสนใจและความตั้งใจก็เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนกระทั่งปัจจุบันเขาได้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่ทุ่มเทและพัฒนาธุรกิจฟาร์มปลาอย่างต่อเนื่อง
แนวคิดในการทำฟาร์มปลาน้ำจืดของคุณสุทธิพงศ์ คือการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน อาทิ การใช้ระบบการจัดการน้ำแบบวนกลับเพื่อลดการปล่อยน้ำเสีย และการใช้โรงเพาะปลาที่ไม่ต้องปล่อยน้ำทิ้ง นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนวิธีการให้อาหารและการดูแลปลาแต่ละชนิดตามความเหมาะสม เพื่อให้ปลาเจริญเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟาร์มปลาของคุณสุทธิพงศ์มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
โดยปลาหลักที่เลี้ยงและจำหน่ายประกอบด้วย ปลาตะเพียน ปลายี่ศพ ปลานวลจันทร์ ปลานิล ปลาทับทิม และปลาชนิดอื่นๆ รวมกว่า 20 ชนิด
สำหรับผู้ที่สนใจเริ่มต้นเลี้ยงปลา คุณสุทธิพงศ์แนะนำว่า หากมีบ่อดินอยู่แล้ว ควรเลือกเลี้ยงในบ่อดิน เนื่องจากปลาจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าในบ่อปูน แต่การจัดการจะยุ่งยากกว่า ในขณะที่บ่อปูนมีข้อดีคือการจัดการง่ายกว่า แต่ต้นทุนในการสร้างจะสูงกว่า ดังนั้นการเลือกใช้บ่อดินหรือบ่อปูนขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสะดวกของแต่ละบุคคล
คุณสุทธิพงศ์มีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในฟาร์มปลาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้ระบบตรวจวัดคุณภาพน้ำแบบออนไลน์ การตรวจวินิจฉัยโรคปลาอัตโนมัติ รวมถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น และลดต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น นอกจากนี้คุณสุทธิพงศ์ยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงปลาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความเข้าใจและแนวทางการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ยั่งยืน
ความตั้งใจและความมุ่งมั่นของคุณสุทธิพงศ์ในการพัฒนาฟาร์มปลาน้ำจืด เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงปลาให้เหมาะสมกับแต่ละชนิด ซึ่งนับเป็นการสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ควรค่าแก่การศึกษาและเรียนรู้
https://www.thaipbs.or.th/program/WanmaiVariety/watch/1gbNlz
https://www.thaipbs.or.th/program/WanmaiVariety/watch/x2u3u5
ชมย้อนหลังรายการ "วันใหม่วาไรตี้" ในช่วง "พอดีพอเพียง" ได้ที่ www.thaipbs.or.th/PorDeePorPiang