ในระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม - 3 ตุลาคม 2524 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์เสด็จพระราชดำเนิน แปรประทับพระราชฐานประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ทรงเยี่ยมราษฎรในหลายพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส ทรงทราบถึงปัญหาและความทุกข์ยากของราษฎรอันเนื่องมาจากพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่พรุสภาพดินเป็นดินเปรี้ยวจัดไม่สามารถปลูกพืชได้จึงมีพระราชดำรัสกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องสรุปความว่า
"...ศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่มีอยู่ในจังหวัดนราธิวาสนี้ ก็เป็นศูนย์ศึกษาที่เน้นหนักไปในทางค้นคว้าวิจัยและบริการในชีวิตความเป็นอยู่แบบที่เป็นอยู่ในภาคใต้ หนักในทางดินที่เป็นพรุ ซึ่งเป็นปัญหามากเพราะยังไม่ได้ศึกษาพอ และเกี่ยวข้องกับกรมกองหลายกรมกอง ซึ่งอาจจะยัง ไม่ปรองดองกันคือไม่เข้าใจ ก็มาวิจัยพร้อมกันที่เดียวกันก็จะได้มีความเข้าใจกันได้"
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนัก งาน กปร.) จึงมีมติอนุมัติหลักการให้จัดตั้ง "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจาก พระราชดำริ" เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2525 ตั้งอยู่ระหว่างบ้านพิกุลทอง และบ้านโคกสยา ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ถนนสาย นราธิวาส-ตากใบ ห่างจากเมืองนราธิวาส 7 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 1,740 ไร่ หลายปีต่อมาพื้นที่ป่าพรุที่เคยมีปัญหาได้รับการแก้ไขและพัฒนาส่งเสริมจนกลายเป็นพื้นที่
ที่สามารถประกอบอาชีพ ทำการเกษตร ทำการเพาะปลูก ได้ผลดี และเป็นตัวอย่างด้านการทดลองและวิจัยเพื่อความเข้าใจที่จะถูกส่งต่อไปยังประชาชนในพื้นที่ ความสำเร็จ ความอุดมสมบูรณ์ทั้งหมดนั้นมาจากพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ที่ทรงเปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตา
ติดตามชมรายการทั่วถิ่นแดนไทย วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ เวลา 16.30 -17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
ในระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม - 3 ตุลาคม 2524 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์เสด็จพระราชดำเนิน แปรประทับพระราชฐานประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ทรงเยี่ยมราษฎรในหลายพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส ทรงทราบถึงปัญหาและความทุกข์ยากของราษฎรอันเนื่องมาจากพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่พรุสภาพดินเป็นดินเปรี้ยวจัดไม่สามารถปลูกพืชได้จึงมีพระราชดำรัสกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องสรุปความว่า
"...ศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่มีอยู่ในจังหวัดนราธิวาสนี้ ก็เป็นศูนย์ศึกษาที่เน้นหนักไปในทางค้นคว้าวิจัยและบริการในชีวิตความเป็นอยู่แบบที่เป็นอยู่ในภาคใต้ หนักในทางดินที่เป็นพรุ ซึ่งเป็นปัญหามากเพราะยังไม่ได้ศึกษาพอ และเกี่ยวข้องกับกรมกองหลายกรมกอง ซึ่งอาจจะยัง ไม่ปรองดองกันคือไม่เข้าใจ ก็มาวิจัยพร้อมกันที่เดียวกันก็จะได้มีความเข้าใจกันได้"
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนัก งาน กปร.) จึงมีมติอนุมัติหลักการให้จัดตั้ง "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจาก พระราชดำริ" เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2525 ตั้งอยู่ระหว่างบ้านพิกุลทอง และบ้านโคกสยา ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ถนนสาย นราธิวาส-ตากใบ ห่างจากเมืองนราธิวาส 7 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 1,740 ไร่ หลายปีต่อมาพื้นที่ป่าพรุที่เคยมีปัญหาได้รับการแก้ไขและพัฒนาส่งเสริมจนกลายเป็นพื้นที่
ที่สามารถประกอบอาชีพ ทำการเกษตร ทำการเพาะปลูก ได้ผลดี และเป็นตัวอย่างด้านการทดลองและวิจัยเพื่อความเข้าใจที่จะถูกส่งต่อไปยังประชาชนในพื้นที่ ความสำเร็จ ความอุดมสมบูรณ์ทั้งหมดนั้นมาจากพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ที่ทรงเปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตา
ติดตามชมรายการทั่วถิ่นแดนไทย วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ เวลา 16.30 -17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live