ขับร้อง : คุณสุนทรี เวชานนท์
เนื้อร้อง : คุณพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
ทำนอง : คุณวีระ วัฒนะจันทรกุล
เรียบเรียง : คุณวีระ วัฒนะจันทรกุล และคุณปวรินทร์ พิเกณฑ์
สารคดีบทเพลงเทิดพระเกียรติ "ศิลปาชีพ"
“แคร์” สาววัยทำงานที่เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองหลวง โดยเธอมีอาชีพเป็นดีไซน์เนอร์ แต่เมื่อหมดไฟการทำงาน แคร์จึงตัดสินใจลาออก โดยภูมิหลังของเธอเกิดในหมู่บ้านที่ประกอบอาชีพทอผ้าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งแคร์นั้นมีโอกาสได้เรียนจบในระดับชั้นมหาวิทยาลัย จนได้เข้าทำงานในบริษัทออกแบบอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยค่าเล่าเรียนที่ส่งเสียเธอเรียนมาจนจบนั้น มาจากอาชีพของแม่เธอซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดานั่นเอง
การลาออกทำให้แคร์คิดถึงแม่ และอยากกลับมายังบ้านเกิด การกลับมาบ้านครั้งนี้ทำให้แคร์สงสัยว่า แม่ซึ่งเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาทอผ้าในหมู่บ้าน ทำไมสามารถส่งเสียแคร์เรียนจนจนจบระดับชั้นมหาวิทยาลัยได้ ทั้งที่ไม่เคยต้องเข้าเมืองไปทำงานเพื่อหาเลี้ยงลูก และที่สำคัญแม่ของแคร์ยังสามารถใช้ชีวิต ทำสิ่งที่รักได้อย่างมีความสุข ทำให้การกลับมาบ้านในครั้งนี้ “แคร์” คอยดูขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ของแม่ จนทำให้แคร์รู้ว่า สิ่งที่แม่ทำนั้นไม่ง่ายเลย
เมื่อได้รับโอกาสแม่จึงทำสุดฝีมือ แคร์ตัดสินใจถามแม่เกี่ยวกับเส้นทางชีวิตการทำงาน และแนวคิดในการใช้ชีวิตของแม่ แม่จึงพาแคร์ไปรู้จักกับงานฝีมือ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของศูนย์ศิลปาชีพ และได้รับรู้เรื่องราวของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น โดยพระองค์ได้ช่วยเหลือรวมถึงมอบอาชีพ และเปิดโอกาสให้แม่ได้รู้จักและทำในสิ่งที่รัก ซึ่งก็คือ “การให้ชีวิต” ทำให้นอกจากแม่จะมีความสุขกับการทำงานแล้ว ยังช่วยสืบสานศิลปวัฒนธรรมของบ้านเกิดเมืองนอนไว้ได้อีกด้วย “แคร์” จึงเกิดความเข้าใจ และค้นพบแนวคิดในการออกแบบงานของตนเองที่นำเอางานของแม่ มาผสมผสานและต่อยอดกับสิ่งที่ตนเองได้ร่ำเรียนมา สานต่อเป็นผลิตภัณฑ์ และทำการตลาดจนประสบความสำเร็จจากสิ่งที่มีอยู่ในที่สุด
ติดตามชมสารคดีประกอบเพลง โครงการคีตามาลัย เรื่อง ศิลปาชีพ วันพุธที่ 16 สิงหาคม 2566 เวลา 09.50 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
เพลง "ศิลปาชีพ"
ขับร้อง : คุณสุนทรี เวชานนท์
เนื้อร้อง : คุณพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
ทำนอง : คุณวีระ วัฒนะจันทรกุล
เรียบเรียง : คุณวีระ วัฒนะจันทรกุล และคุณปวรินทร์ พิเกณฑ์
สารคดีบทเพลงเทิดพระเกียรติ "ศิลปาชีพ"
“แคร์” สาววัยทำงานที่เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองหลวง โดยเธอมีอาชีพเป็นดีไซน์เนอร์ แต่เมื่อหมดไฟการทำงาน แคร์จึงตัดสินใจลาออก โดยภูมิหลังของเธอเกิดในหมู่บ้านที่ประกอบอาชีพทอผ้าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งแคร์นั้นมีโอกาสได้เรียนจบในระดับชั้นมหาวิทยาลัย จนได้เข้าทำงานในบริษัทออกแบบอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยค่าเล่าเรียนที่ส่งเสียเธอเรียนมาจนจบนั้น มาจากอาชีพของแม่เธอซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดานั่นเอง
การลาออกทำให้แคร์คิดถึงแม่ และอยากกลับมายังบ้านเกิด การกลับมาบ้านครั้งนี้ทำให้แคร์สงสัยว่า แม่ซึ่งเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาทอผ้าในหมู่บ้าน ทำไมสามารถส่งเสียแคร์เรียนจนจนจบระดับชั้นมหาวิทยาลัยได้ ทั้งที่ไม่เคยต้องเข้าเมืองไปทำงานเพื่อหาเลี้ยงลูก และที่สำคัญแม่ของแคร์ยังสามารถใช้ชีวิต ทำสิ่งที่รักได้อย่างมีความสุข ทำให้การกลับมาบ้านในครั้งนี้ “แคร์” คอยดูขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ของแม่ จนทำให้แคร์รู้ว่า สิ่งที่แม่ทำนั้นไม่ง่ายเลย
เมื่อได้รับโอกาสแม่จึงทำสุดฝีมือ แคร์ตัดสินใจถามแม่เกี่ยวกับเส้นทางชีวิตการทำงาน และแนวคิดในการใช้ชีวิตของแม่ แม่จึงพาแคร์ไปรู้จักกับงานฝีมือ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของศูนย์ศิลปาชีพ และได้รับรู้เรื่องราวของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น โดยพระองค์ได้ช่วยเหลือรวมถึงมอบอาชีพ และเปิดโอกาสให้แม่ได้รู้จักและทำในสิ่งที่รัก ซึ่งก็คือ “การให้ชีวิต” ทำให้นอกจากแม่จะมีความสุขกับการทำงานแล้ว ยังช่วยสืบสานศิลปวัฒนธรรมของบ้านเกิดเมืองนอนไว้ได้อีกด้วย “แคร์” จึงเกิดความเข้าใจ และค้นพบแนวคิดในการออกแบบงานของตนเองที่นำเอางานของแม่ มาผสมผสานและต่อยอดกับสิ่งที่ตนเองได้ร่ำเรียนมา สานต่อเป็นผลิตภัณฑ์ และทำการตลาดจนประสบความสำเร็จจากสิ่งที่มีอยู่ในที่สุด
ติดตามชมสารคดีประกอบเพลง โครงการคีตามาลัย เรื่อง ศิลปาชีพ วันพุธที่ 16 สิงหาคม 2566 เวลา 09.50 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
สารคดีบทเพลงเทิดพระเกียรติ "คีตามาลัย เทิดไท้พระพันปี"
เพลง "คนโขน"
เพลง "กางเขนแดงหัวใจขาว"
เพลง "ศิลปาชีพ"
เพลง "กายเราคือเสาหลัก"
เพลง "พ่อเป็นน้ำ แม่เป็นป่า"
สารคดีบทเพลงเทิดพระเกียรติ "คีตามาลัย เทิดไท้พระพันปี"
เพลง "คนโขน"
เพลง "กางเขนแดงหัวใจขาว"
เพลง "ศิลปาชีพ"
เพลง "กายเราคือเสาหลัก"
