บ้านเก่า 2 คูหาในตัวอำเภอบุญทริก จังหวัดอุบลราชธานี ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่ขายสินค้าชุมชนจำพวกพืชผัก อาหารสำเร็จรูป ที่ถูกส่งเข้ามาจากสมาชิเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผักอินทรีย์อำเภอบุณทริก จาก 6 ตำบลของเขตอำเภอนี้ โดยที่เจ้าของสินค้าไม่ต้องมานั่งขายเอง แค่มาส่งสินค้าในช่วงเช้ามืด แล้วรับเงินจากการขายรอบที่แล้ว เสร็จก็กลับบ้าน ส่วนหน้าที่การขายในแต่ละวัน สมาชิกก็จะสลับผลัดเปลี่ยนกันมาขายสัปดาห์ละ 1 คน โดยจะสลับหมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้การขายด้วยกันทุกคน และสมาชิกทุกคนมาต้องมาเสียเวลายืนขายของจนเสร็จแล้วค่อยกลับบ้าน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้สมาชิกราว 30 กว่าคนชอบใจ เพราะมีเวลาเหลือกลับไปจัดการงานที่บ้านและที่สวนได้ต่อ
ส่วนรายได้ที่เกิดจากการขายจะถูกหัก 15% เพื่อใช้จัดการในร้าน โดย 10 % ก็จะแบ่งให้เวรที่ทำหน้าที่ขายในวันนั้น ๆ ส่วนอีก 5 % ก็จะต้องถูกแบ่งมาใช้สำหรับค่าเช่าร้าน ค่าน้ำค่าไฟ ที่เหลือนอกจากนั้นก็จะเก็บไว้สำหรับปันผลในรอบกลางปี ซึ่งปีนี้ก็ก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ที่สมาชิกกลุ่มรวมกันผลิตอาหารปลอดภัย และให้ผู้บริโภคเข้าจับจ่ายซื้อสินค้าได้สะดวกมากขึ้น และที่สำคัญร้านค้าแห่งนี้กลายเป็นที่ฝากสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน และความมั่นคงทางด้านอาหาร แหล่งสร้างรายได้ที่ยั่งยืนสำหรับสมาชิก
ติดตามชมรายการสะเทือนไทย วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30 - 14.00 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
บ้านเก่า 2 คูหาในตัวอำเภอบุญทริก จังหวัดอุบลราชธานี ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่ขายสินค้าชุมชนจำพวกพืชผัก อาหารสำเร็จรูป ที่ถูกส่งเข้ามาจากสมาชิเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผักอินทรีย์อำเภอบุณทริก จาก 6 ตำบลของเขตอำเภอนี้ โดยที่เจ้าของสินค้าไม่ต้องมานั่งขายเอง แค่มาส่งสินค้าในช่วงเช้ามืด แล้วรับเงินจากการขายรอบที่แล้ว เสร็จก็กลับบ้าน ส่วนหน้าที่การขายในแต่ละวัน สมาชิกก็จะสลับผลัดเปลี่ยนกันมาขายสัปดาห์ละ 1 คน โดยจะสลับหมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้การขายด้วยกันทุกคน และสมาชิกทุกคนมาต้องมาเสียเวลายืนขายของจนเสร็จแล้วค่อยกลับบ้าน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้สมาชิกราว 30 กว่าคนชอบใจ เพราะมีเวลาเหลือกลับไปจัดการงานที่บ้านและที่สวนได้ต่อ
ส่วนรายได้ที่เกิดจากการขายจะถูกหัก 15% เพื่อใช้จัดการในร้าน โดย 10 % ก็จะแบ่งให้เวรที่ทำหน้าที่ขายในวันนั้น ๆ ส่วนอีก 5 % ก็จะต้องถูกแบ่งมาใช้สำหรับค่าเช่าร้าน ค่าน้ำค่าไฟ ที่เหลือนอกจากนั้นก็จะเก็บไว้สำหรับปันผลในรอบกลางปี ซึ่งปีนี้ก็ก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ที่สมาชิกกลุ่มรวมกันผลิตอาหารปลอดภัย และให้ผู้บริโภคเข้าจับจ่ายซื้อสินค้าได้สะดวกมากขึ้น และที่สำคัญร้านค้าแห่งนี้กลายเป็นที่ฝากสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน และความมั่นคงทางด้านอาหาร แหล่งสร้างรายได้ที่ยั่งยืนสำหรับสมาชิก
ติดตามชมรายการสะเทือนไทย วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30 - 14.00 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live