“กาลี ธรรมเที่ยง” หรือ “พ่อใหญ่หมอน” วัย 70 ปี พื้นเพเป็นชาวไร่ ชาวนา อยู่ที่บ้านผาชัน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี พ่อใหญ่หมอนตรากตรำทำนาเลี้ยงลูกเมียมาเฉกเช่นเดียวกับคนทั่วไปในท้องถิ่น จนกระทั่งเมื่อ 20 ปีก่อน พ่อใหญ่หมอนค้นพบเส้นทางชีวิตในบั้นปลายที่สันโดษ แต่สุขกาย สบายใจ จึงขอเลือกที่จะมาใช้ชีวิตอยู่บริเวณหน้าผาหินขนาดใหญ่ บุกเบิกสร้างที่หลับนอนของตัวเอง และอาศัยทำประมงหาปลาเลี้ยงชีพจวบจนถึงปัจจุบัน
บ้านของพ่อใหญ่หมอนมีหลังคาเป็นเชิงผา ผูกไม้ค้ำยันเป็นที่นอน และมีถึง 4 ชั้น ลดหลั่นตามความสูงของหน้าผา เพราะในยามน้ำขึ้น พ่อใหญ่หมอนไม่สามารถพักแรมอยู่ที่ชั้นล่างได้จึงต้องสร้างที่หลับนอนไว้สูงขึ้นไปบนผาหินอีกหลายชั้น
พ่อใหญ่หมอนเป็นที่รู้จักของชาวประมงริมฝั่งแม่น้ำโขงทั้งไทย - ลาว เพราะความมีน้ำใจและเป็นมิตรต่อผู้อื่นอยู่เสมอ จึงมีเพื่อนชาวประมงหลากหลายช่วงวัยแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนที่ถ้ำพ่อใหญ่หมอนเรื่อยมา
พ่อใหญ่หมอนไม่ได้เพียงพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ แต่เขายังพยายามอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรอบตัวอีกด้วย ในถ้ำของพ่อใหญ่หมอนจะมีขยะ สิ่งของเหลือใช้หลากหลายชนิดที่ลอยมาตามแม่น้ำโขง เขาจะเก็บขึ้นมาเรียงรายไว้เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการ และขายให้กับรถรับซื้อของเก่าด้วย นอกจากนั้น ยังอนุรักษ์พลังงานด้วยการใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กในยามจำเป็น และทุกเช้า - เย็น จะพายเรือข้ามไปอาบน้ำที่ริมหน้าผาฝั่งลาว มีน้ำตกเล็ก ๆ ลอดผ่านถ้ำลงสู่แม่น้ำโขง เป็นแหล่งน้ำสะอาดจากป่าต้นน้ำตามธรรมชาติ ที่เอื้อเฟื้อให้ทุกชีวิตได้ใช้กิน ใช้อยู่อีกด้วย
พ่อใหญ่หมอนรักและหวงแหนถ้ำผาชัน เพราะที่นี่มีคุณประโยชน์ต่อผู้คนริมสองฝั่งแม่น้ำโขง เขาตั้งใจว่าจะอยู่ไปอีกจนถึงอายุ 100 ปี จะคอยดูแลพื้นที่ชีวิตแห่งนี้ให้ผู้คนได้พึ่งพาอาศัยกันต่อไป เท่าที่กำลังของมนุษย์ถ้ำคนหนึ่งจะทำได้
ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน พ่อใหญ่มนุษย์ถ้ำ วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
“กาลี ธรรมเที่ยง” หรือ “พ่อใหญ่หมอน” วัย 70 ปี พื้นเพเป็นชาวไร่ ชาวนา อยู่ที่บ้านผาชัน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี พ่อใหญ่หมอนตรากตรำทำนาเลี้ยงลูกเมียมาเฉกเช่นเดียวกับคนทั่วไปในท้องถิ่น จนกระทั่งเมื่อ 20 ปีก่อน พ่อใหญ่หมอนค้นพบเส้นทางชีวิตในบั้นปลายที่สันโดษ แต่สุขกาย สบายใจ จึงขอเลือกที่จะมาใช้ชีวิตอยู่บริเวณหน้าผาหินขนาดใหญ่ บุกเบิกสร้างที่หลับนอนของตัวเอง และอาศัยทำประมงหาปลาเลี้ยงชีพจวบจนถึงปัจจุบัน
บ้านของพ่อใหญ่หมอนมีหลังคาเป็นเชิงผา ผูกไม้ค้ำยันเป็นที่นอน และมีถึง 4 ชั้น ลดหลั่นตามความสูงของหน้าผา เพราะในยามน้ำขึ้น พ่อใหญ่หมอนไม่สามารถพักแรมอยู่ที่ชั้นล่างได้จึงต้องสร้างที่หลับนอนไว้สูงขึ้นไปบนผาหินอีกหลายชั้น
พ่อใหญ่หมอนเป็นที่รู้จักของชาวประมงริมฝั่งแม่น้ำโขงทั้งไทย - ลาว เพราะความมีน้ำใจและเป็นมิตรต่อผู้อื่นอยู่เสมอ จึงมีเพื่อนชาวประมงหลากหลายช่วงวัยแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนที่ถ้ำพ่อใหญ่หมอนเรื่อยมา
พ่อใหญ่หมอนไม่ได้เพียงพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ แต่เขายังพยายามอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรอบตัวอีกด้วย ในถ้ำของพ่อใหญ่หมอนจะมีขยะ สิ่งของเหลือใช้หลากหลายชนิดที่ลอยมาตามแม่น้ำโขง เขาจะเก็บขึ้นมาเรียงรายไว้เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการ และขายให้กับรถรับซื้อของเก่าด้วย นอกจากนั้น ยังอนุรักษ์พลังงานด้วยการใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กในยามจำเป็น และทุกเช้า - เย็น จะพายเรือข้ามไปอาบน้ำที่ริมหน้าผาฝั่งลาว มีน้ำตกเล็ก ๆ ลอดผ่านถ้ำลงสู่แม่น้ำโขง เป็นแหล่งน้ำสะอาดจากป่าต้นน้ำตามธรรมชาติ ที่เอื้อเฟื้อให้ทุกชีวิตได้ใช้กิน ใช้อยู่อีกด้วย
พ่อใหญ่หมอนรักและหวงแหนถ้ำผาชัน เพราะที่นี่มีคุณประโยชน์ต่อผู้คนริมสองฝั่งแม่น้ำโขง เขาตั้งใจว่าจะอยู่ไปอีกจนถึงอายุ 100 ปี จะคอยดูแลพื้นที่ชีวิตแห่งนี้ให้ผู้คนได้พึ่งพาอาศัยกันต่อไป เท่าที่กำลังของมนุษย์ถ้ำคนหนึ่งจะทำได้
ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน พ่อใหญ่มนุษย์ถ้ำ วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live