สถิติจากกระทรวงสาธารณะสุข พบว่ามีผู้เป็นโรคเอดส์และติดเชื้อHIVในประเทศไทยมากกว่า 1 ล้านคน และปัจจัยเสี่ยงร้อยละ84มาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันโดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนมัธยมและอาชีวศึกษาซึ่งมีแนวโน้มเคยมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นแต่มีแนวโน้มใช้ถุงยางอนามัยลดลง แต่ในยุโรปโดยเฉพาะยุโรปตะวันตกกลับมีตัวเลขผู้เป็นโรคเอดส์คงที่และลดลง ยุโรปตะวันตก ในปี 2001 มีประชากรที่ติดเชื้อ HIV ทั้งหมด 9,710 คน แต่นปี 2010 จำนวนผู้ป่วยลดลงเหลือเพียง 4,249 คนเท่านั้นเอง อะไรคือความแตกต่างที่ประเทศเราไม่มี? และเชื่อไหมครับว่าวิธีสากลที่ใช้ลดโอกาสติดเชื้อในผู้ใช้ยาเสพติดก็คือการแจกเข็มฉีดยาฟรี ที่เรียกว่า National Needle Exchange Program แนวคิดที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่อังกฤษ ในสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ วิธีนี้จะเหมาะสมกับประเทศไทยที่มีอัตราผู้ติดเชื้อ HIV ในหมู่คนใช้เข็มร่วมกันที่สูงถึง 21% หรือเปล่านะ? และเพราะอะไรทำไมเราถึงมีแนวโน้มภาระเลี้ยงดูผู้ป่วยโรคเอดส์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เรามีอัตราใช้ถุงยางอนามัยในหมู่ผู้ขายบริการทางเพศสูงมาก มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กับเราในรายการประกาศภาวะฉุกคิด ติดตามชมรายการประกาศภาวะฉุกคิด วันพุธที่ 17 ตุลาคมนี้ เวลา 23.00 - 23.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live