กรณีการทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมา พบผู้ร่วมขบวนการ-ผู้เสียหายรวม 260 คน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ของไทยเผยข้อมูลว่าในจำนวนดังกล่าวมีเพียง 1 คนที่ถูกหลอกไปทำงาน นอกนั้นสมัครใจไปทำงาน ทำให้ถูกท้วงติงว่าเป็นการด่วนสรุป ที่อาจทำให้เหยื่อกลายเป็นผู้ร่วมขบวนการ จนไม่ได้รับการคุ้มครองนั้น
วันนี้ (17 ก.พ. 68) นายกัณวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ตั้งข้อสงสัยว่า ขณะนี้กลุ่มจีนเทา ซึ่งมีเจ้าของ-นักธุรกิจ ที่ถูกจับในไทย ถูกเคลื่อนย้ายไปรวมกัน
และมองการเข้ามาของ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะนำตัวแก๊งคอลเซนเตอร์กลับจีนทันทีว่า ในเมื่อไทยเป็นทางผ่านของขบวนการนี้ ฉะนั้นไทยควรต้องได้จัดการเอง อย่างน้อยเพื่อสอบสวนให้ได้ข้อมูลแก๊งคอลเซนเตอร์ เขาทำกันอย่างไร ใครเป็นใคร เพื่อนำมาออกแบบระบบป้องกันและปราบปราม ไม่ใช่ส่งกลับให้จีนไปหมด แล้วไทยจะได้อะไร สุดท้ายถ้าจีนได้ข้อมูลไป เราจะขอข้อมูลเขาอย่างไร
กรณีการทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมา พบผู้ร่วมขบวนการ-ผู้เสียหายรวม 260 คน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ของไทยเผยข้อมูลว่าในจำนวนดังกล่าวมีเพียง 1 คนที่ถูกหลอกไปทำงาน นอกนั้นสมัครใจไปทำงาน ทำให้ถูกท้วงติงว่าเป็นการด่วนสรุป ที่อาจทำให้เหยื่อกลายเป็นผู้ร่วมขบวนการ จนไม่ได้รับการคุ้มครองนั้น
วันนี้ (17 ก.พ. 68) นายกัณวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ตั้งข้อสงสัยว่า ขณะนี้กลุ่มจีนเทา ซึ่งมีเจ้าของ-นักธุรกิจ ที่ถูกจับในไทย ถูกเคลื่อนย้ายไปรวมกัน
และมองการเข้ามาของ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะนำตัวแก๊งคอลเซนเตอร์กลับจีนทันทีว่า ในเมื่อไทยเป็นทางผ่านของขบวนการนี้ ฉะนั้นไทยควรต้องได้จัดการเอง อย่างน้อยเพื่อสอบสวนให้ได้ข้อมูลแก๊งคอลเซนเตอร์ เขาทำกันอย่างไร ใครเป็นใคร เพื่อนำมาออกแบบระบบป้องกันและปราบปราม ไม่ใช่ส่งกลับให้จีนไปหมด แล้วไทยจะได้อะไร สุดท้ายถ้าจีนได้ข้อมูลไป เราจะขอข้อมูลเขาอย่างไร