วิกฤตการเมืองเมียนมา
ติดตามวิกฤตการเมืองเมียนมาได้ที่เว็บไซต์ www.thaipbs.or.th/MyanmarPolitics
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกร้องประเทศในภูมิภาคปกป้องผู้หนีภัยความรุนแรงและการปราบปรามจากประเทศเมียนมา รวมทั้งปกป้องผู้ลี้ภัยและผู้หลบหนีเข้าเมืองที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง ไม่เร่งรีบส่งตัวคนเหล่านี้กลับเมียนมา
รายงานจากหลายแหล่งตรงกันว่า การอพยพหนีภัยสงครามการทิ้งระเบิดโจมตีหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน ต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม สร้างความหวาดกลัวแก่ชาวกะเหรี่ยง พากันทิ้งบ้านเรือนนับหมื่นคน หนีภัยระเบิด บ้างก็หลบซ่อนตัวในป่า
Khaing Thukha โฆษกกองทัพอารกัน หรือ AA กองกำลังชาติพันธุ์ที่มีฐานที่มั่นในรัฐกะฉิ่น ประกาศพร้อมจับมือกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ในเมียนมาจับอาวุธสู้รบกับกองทัพเมียนมา เพื่อปกป้องประชาชนให้รอดพ้นจากการปราบปรามทำร้ายจากทหาร ตำรวจเมียนมา
The Time of India รายงานว่า กระทรวงมหาดไทยรัฐบาลท้องถิ่นรัฐมานิปูร์ ได้มีหนังสือแจ้งนายอำเภอในพื้นที่ติดพรมแดนเมียนมา ทั้ง 5 อำเภอ ไม่ให้อำนวยความสะดวกเปิดพรมแดนให้ชาวเมียนมาที่หนีภัยการปราบปรามของรัฐบาลทหาร เข้าประเทศอินเดีย ยกเว้นกรณีผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลตามหลักมนุษยธรรม
Irrawaddy รายงานว่า การทิ้งระเบิดโดยเครื่องบินโจมตีของกองทัพเมียนมา หลายระลอกตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์ (28 มี.ค. 64) จนถึงรุ่งเช้าวันจันทร์ (29 มี.ค. 64) ส่งผลให้ชาวกะเหรี่ยงในหมู่บ้านแถวริมแม่น้ำสาละวิน ใกล้พรมแดนไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องละทิ้งบ้านเรือนนับหมื่นคน หนีภัยเข้าไปหลบซ่อนตัวในป่า และประมาณ 3,000 คน
