ดึกคืนหนึ่ง..ด่างเดินผ่านหน้าบ้านนาถ มอมเห็นอริเก่าจึงตัดสินใจกระโดดข้ามรั้ววิ่งตามด่างไปจนถึงหน้าร้านเฮียโกมอมเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งท่าทางมีพิรุธออกมาจากร้านของเฮียโก มอมเห็นเข้ารีบกระโจนคร่อมร่างชายผู้นั้นไว้ เฮียโกได้ยินเสียงโวยวาย จึงออกมาดูและขอบใจมอมที่ช่วยจับขโมยไว้ให้
เช้าวันต่อมาเฮียโกจึงนำไก่มาให้มอมเป็นรางวัลที่ช่วยจับขโมยได้ นาถดีใจและปลื้มใจที่มอมแสนรู้ ช่วงสายของวันนั้นนาถพาครอบครัวไปตลาดรวมถึงมอมด้วย แม่ค้าคนหนึ่งได้ยินเรื่องที่มอมช่วยจับขโมยจึงให้อาหารแก่มอม แต่มอมไม่รับจนกว่านาถจะอนุญาต ขณะที่นาถกับครอบครัวกำลังเดินซื้อของก็ได้ยินเสียงของยายนอมที่บ่นกับแม่ค้าเรื่องหมาก ยายนอมชอบเคี้ยวหมากพลูแต่ตอนนี้รัฐบาลสั่งให้คนไทยเลิกกินหมากทำให้ยายนอมไม่พอใจเป็นอย่างมาก มอมจึงเข้าไปเลียมือยายนอมทำให้ยายนอมอารมณ์ดีขึ้น ความน่ารักแสนรู้ของมอม ทำให้ชาวบ้านต่างชื่นชมมอมกันยกใหญ่
ยามวิกาลในคืนหนึ่งมีขโมยแอบขึ้นบ้านของนาถแต่ไม่รอดพ้นสายตาของมอม ทำให้นาถกับหญิงต้องตื่นขึ้นมาดู และเห็นว่ามอมจับขโมยได้ นาถสอบถามประวัติของขโมย จึงรู้ว่าเขาชื่อ "ค่อม" เคยทำงานเป็นยามอยู่ที่บริษัทฝรั่งแห่งหนึ่งแต่บริษัทปิดตัวลงจึงตกงาน ค่อมไม่มีเงินไม่มีข้าวกินจึงต้องมาเป็นขโมย นาถได้ฟังก็สงสาร รุ่งเช้าจึงพาค่อมมาหาหลวงตาเพื่อฝากเป็นลูกศิษย์วัด หลวงตารับเลี้ยงไว้ ค่อมสัญญาว่าจะเลิกเป็นขโมยเด็ดขาด
ที่ทำงานของนาถ..โนดะรีบเดินออกไปอย่างร้อนรน พนักงานในบริษัทพากันคิดไปต่างๆ นานา ว่าโนดะอาจเป็นไส้ศึก ทำให้นาถอดกังวลไม่ได้ ก่อนกลับบ้านนาถเดินผ่านหน้าร้านเฮียโก เห็นเจิดกำลังคุยเรื่องประเทศชาติจึงเข้าร่วมวงสนทนาด้วย เจิดอธิบายถึงคำว่า "อธิปไตย" ทุกคนฟังและคิดตาม เจิดและนาถมาหาหลวงตาที่วัดเพื่อคุยเรื่องที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ และเล่าต่อไปถึงผลของสงคราม รวมถึงการจับหัวขโมยที่ขึ้นบ้านของผู้พิพากษาได้ค่อมถอนหายใจที่ตัวเองพ้นจากความเป็นผู้ต้องสงสัย
หญิงรู้ว่าในสถานการณ์สงครามแบบนี้ข้าวสารจะต้องแพงขึ้น หญิงจึงหันมาพับถุงกระดาษขายเพื่อหาเงินเสริมและแบ่งเบาภาระของนาถ นาถไปขอซื้อกระดาษหนังสือพิมพ์เก่ากับเฮียโก เฮียโกชมว่านาถมีภรรยาที่เป็นคนดีช่วยเหลือสามี นาถยิ้มรับ..
นาถเอาถุงกระดาษที่หญิงพับเสร็จไปขายให้กับเฮียโก ระหว่างทางนาถเจอกับโนดะเห็นสีหน้าที่ดูเป็นกังวลจึงรับรู้ถึงความผิดปกติ นาถได้คุยกับโนดะจึงรู้ว่าตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่สภาวะของสงคราม ทำให้คนญี่ปุ่นอย่างโนดะได้รับผลกระทบไปด้วย บริษัทอาจต้องหยุดกิจการชั่วคราว นาถได้แต่ยืนอึ้งในคำพูดของโนดะ
เช้าวันรุ่งขึ้นนาถไปที่ทำงานเห็นพนักงานคนอื่นๆ ยืนมุงอยู่หน้าประตูที่มีป้ายติดไว้ว่า "ปิดกิจการชั่วคราว" นาถเสียใจและเครียดมาก มาถึงบ้านเห็นพริกแห้งที่ตากไว้หล่นพังเสียหาย นาถโกรธและต่อว่ามอมอย่างรุนแรง หญิงไม่เคยเห็นนาถเป็นแบบนี้มาก่อน นาถจึงเล่าให้ฟังตอนนี้กำลังตกงาน หญิงฟังพลอยเครียดไปด้วยเพราะลูกยังเล็กถ้าไม่มีเงินก็จะลำบาก นาถปลอบใจหญิงและสัญญาว่าจะทำงานดูแลหญิงและลูกให้ดีที่สุด ไม่ให้หญิงต้องเป็นห่วงอีก
ยามดึกคืนนั้น นาถลงมาขอโทษมอมที่โมโหใส่ และระบายความในใจกับมอม มอมรับรู้ได้และปลอบใจนาถเช้ารุ่งขึ้นนาถออกหางานทำแต่ก็ไม่มีที่ไหนรับนาถเข้าทำงานแต่นาถก็ยังคงมุ่นมั่นและหางานทำต่อไป
ติดตามชมละคร มอม ออกอากาศอีกครั้ง ในวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2561 เวลา 17.05 น.ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
ดึกคืนหนึ่ง..ด่างเดินผ่านหน้าบ้านนาถ มอมเห็นอริเก่าจึงตัดสินใจกระโดดข้ามรั้ววิ่งตามด่างไปจนถึงหน้าร้านเฮียโกมอมเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งท่าทางมีพิรุธออกมาจากร้านของเฮียโก มอมเห็นเข้ารีบกระโจนคร่อมร่างชายผู้นั้นไว้ เฮียโกได้ยินเสียงโวยวาย จึงออกมาดูและขอบใจมอมที่ช่วยจับขโมยไว้ให้
เช้าวันต่อมาเฮียโกจึงนำไก่มาให้มอมเป็นรางวัลที่ช่วยจับขโมยได้ นาถดีใจและปลื้มใจที่มอมแสนรู้ ช่วงสายของวันนั้นนาถพาครอบครัวไปตลาดรวมถึงมอมด้วย แม่ค้าคนหนึ่งได้ยินเรื่องที่มอมช่วยจับขโมยจึงให้อาหารแก่มอม แต่มอมไม่รับจนกว่านาถจะอนุญาต ขณะที่นาถกับครอบครัวกำลังเดินซื้อของก็ได้ยินเสียงของยายนอมที่บ่นกับแม่ค้าเรื่องหมาก ยายนอมชอบเคี้ยวหมากพลูแต่ตอนนี้รัฐบาลสั่งให้คนไทยเลิกกินหมากทำให้ยายนอมไม่พอใจเป็นอย่างมาก มอมจึงเข้าไปเลียมือยายนอมทำให้ยายนอมอารมณ์ดีขึ้น ความน่ารักแสนรู้ของมอม ทำให้ชาวบ้านต่างชื่นชมมอมกันยกใหญ่
ยามวิกาลในคืนหนึ่งมีขโมยแอบขึ้นบ้านของนาถแต่ไม่รอดพ้นสายตาของมอม ทำให้นาถกับหญิงต้องตื่นขึ้นมาดู และเห็นว่ามอมจับขโมยได้ นาถสอบถามประวัติของขโมย จึงรู้ว่าเขาชื่อ "ค่อม" เคยทำงานเป็นยามอยู่ที่บริษัทฝรั่งแห่งหนึ่งแต่บริษัทปิดตัวลงจึงตกงาน ค่อมไม่มีเงินไม่มีข้าวกินจึงต้องมาเป็นขโมย นาถได้ฟังก็สงสาร รุ่งเช้าจึงพาค่อมมาหาหลวงตาเพื่อฝากเป็นลูกศิษย์วัด หลวงตารับเลี้ยงไว้ ค่อมสัญญาว่าจะเลิกเป็นขโมยเด็ดขาด
ที่ทำงานของนาถ..โนดะรีบเดินออกไปอย่างร้อนรน พนักงานในบริษัทพากันคิดไปต่างๆ นานา ว่าโนดะอาจเป็นไส้ศึก ทำให้นาถอดกังวลไม่ได้ ก่อนกลับบ้านนาถเดินผ่านหน้าร้านเฮียโก เห็นเจิดกำลังคุยเรื่องประเทศชาติจึงเข้าร่วมวงสนทนาด้วย เจิดอธิบายถึงคำว่า "อธิปไตย" ทุกคนฟังและคิดตาม เจิดและนาถมาหาหลวงตาที่วัดเพื่อคุยเรื่องที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ และเล่าต่อไปถึงผลของสงคราม รวมถึงการจับหัวขโมยที่ขึ้นบ้านของผู้พิพากษาได้ค่อมถอนหายใจที่ตัวเองพ้นจากความเป็นผู้ต้องสงสัย
หญิงรู้ว่าในสถานการณ์สงครามแบบนี้ข้าวสารจะต้องแพงขึ้น หญิงจึงหันมาพับถุงกระดาษขายเพื่อหาเงินเสริมและแบ่งเบาภาระของนาถ นาถไปขอซื้อกระดาษหนังสือพิมพ์เก่ากับเฮียโก เฮียโกชมว่านาถมีภรรยาที่เป็นคนดีช่วยเหลือสามี นาถยิ้มรับ..
นาถเอาถุงกระดาษที่หญิงพับเสร็จไปขายให้กับเฮียโก ระหว่างทางนาถเจอกับโนดะเห็นสีหน้าที่ดูเป็นกังวลจึงรับรู้ถึงความผิดปกติ นาถได้คุยกับโนดะจึงรู้ว่าตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่สภาวะของสงคราม ทำให้คนญี่ปุ่นอย่างโนดะได้รับผลกระทบไปด้วย บริษัทอาจต้องหยุดกิจการชั่วคราว นาถได้แต่ยืนอึ้งในคำพูดของโนดะ
เช้าวันรุ่งขึ้นนาถไปที่ทำงานเห็นพนักงานคนอื่นๆ ยืนมุงอยู่หน้าประตูที่มีป้ายติดไว้ว่า "ปิดกิจการชั่วคราว" นาถเสียใจและเครียดมาก มาถึงบ้านเห็นพริกแห้งที่ตากไว้หล่นพังเสียหาย นาถโกรธและต่อว่ามอมอย่างรุนแรง หญิงไม่เคยเห็นนาถเป็นแบบนี้มาก่อน นาถจึงเล่าให้ฟังตอนนี้กำลังตกงาน หญิงฟังพลอยเครียดไปด้วยเพราะลูกยังเล็กถ้าไม่มีเงินก็จะลำบาก นาถปลอบใจหญิงและสัญญาว่าจะทำงานดูแลหญิงและลูกให้ดีที่สุด ไม่ให้หญิงต้องเป็นห่วงอีก
ยามดึกคืนนั้น นาถลงมาขอโทษมอมที่โมโหใส่ และระบายความในใจกับมอม มอมรับรู้ได้และปลอบใจนาถเช้ารุ่งขึ้นนาถออกหางานทำแต่ก็ไม่มีที่ไหนรับนาถเข้าทำงานแต่นาถก็ยังคงมุ่นมั่นและหางานทำต่อไป
ติดตามชมละคร มอม ออกอากาศอีกครั้ง ในวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2561 เวลา 17.05 น.ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live