“คาเฟ่แม่” คาเฟ่เล็ก ๆ กลางสวนต้นไม้ที่เกิดมาจากความตั้งใจของลูกสาว

"หนิง" มธุดานันท์ คชคง วัย 47 ปี ที่อยากให้คุณแม่และคุณน้าวัยเกษียณได้มีพื้นที่แบ่งปันความอร่อยของขนมไทยสูตรโบราณที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น และทำขนมในร้านโดย 4 แม่ครัว คุณแม่รีย์วัย 75 ปี น้าแดง วัย 68 ปี น้าต้อย วัย 71 ปี และยายแต๋ม วัย 72 ปี ร่วมมือกันทำคาเฟ่เล็ก ๆ เพื่อแบ่งปันรสชาติความอร่อยของขนมไทย และยังเป็นพื้นที่แห่งความอบอุ่นที่ชวนให้ลูกค้ามีความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านไปหาคุณแม่ และอยากให้ทุกคนได้สัมผัสความรู้สึกเหมือนมากินขนมที่บ้านแม่ กับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพัน

ร้านขนมไทยสูตรโบราณในสวนร้อยปี ที่สุพรรณบุรี

ลุยไม่รู้โรยพาเราเดินทางมาที่อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อแนะนำร้านขนมไทยที่ซ่อนตัวอยู่กลางสวนต้นไม้ร้อยปี "คาเฟ่แม่" ร้านนี้มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งเรื่องการเดินทางที่ต้องผจญภัยผ่านเส้นทางที่ซับซ้อนคล้ายเขาวงกต จนหลายคนเรียกที่นี่ว่า "ร้านลับ" แต่เมื่อมาถึงจะพบกับบรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะกอไผ่อายุเกือบร้อยปี ตัวร้านออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ด้วยการสร้างอาคารสอดแทรกอยู่ในต้นไม้ ไม่มีการตัดต้นไม้เดิม ชวนให้รู้สึกเหมือนมาบ้านเพื่อนมากกว่ามาร้านกาแฟ

คาเฟ่แม่เป็นความฝันของคุณหนิง มธุดานันท์ คชคง วัย 47 ปี ที่อยากให้คุณแม่และคุณน้าวัยเกษียณได้มีพื้นที่แบ่งปันความอร่อยของขนมไทยสูตรโบราณที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีแม่ครัวพิเศษถึง 4 คน ประกอบด้วย คุณแม่รี วัย 75 ปี ผู้เชี่ยวชาญขนมตะโก้ที่ทำโดยไม่มีสูตรตายตัว แค่อาศัยประสบการณ์และการกะประมาณ, คุณน้าต้อย วัย 71 ปี ผู้ถนัดทำข้าวต้มมัดด้วยสูตรที่ได้มาจากป้าเก่าแก่, คุณน้าแดง วัย 68 ปี สายซัพพอร์ตที่คอยเป็นลูกมือให้กับทุกคน และคุณยายแต๋ม อุบลรัตน์ มณีรัตนพันธ์ วัย 72 ปี ผู้ชำนาญการทำฝอยทองและเม็ดขนุน ที่น่าสนใจคือแม่ครัวเหล่านี้ทำขนมไทยที่อร่อยจนได้รับคำชื่นชมว่า "อร่อยที่สุดในโลก" จากลูกค้า

พื้นที่ของคาเฟ่แม่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นที่ของต้นตระกูลที่สืบทอดมากว่า 4-5 รุ่น ในอดีตเป็นท่าเรือสำหรับขึ้นลงแม่น้ำท่าจีน คุณแม่และคุณน้าทั้ง 4 คนนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่เคยรับราชการมาก่อน คุณแม่รีและคุณน้าแดงเคยเป็นผู้คุมในเรือนจำ ส่วนคุณน้าต้อยเคยเป็นครู พวกเธอรู้จักการทำขนมไทยมานาน และทำเป็นอาชีพเสริมระหว่างรับราชการ หลังเกษียณจึงได้มารวมตัวกันที่คาเฟ่แม่ เพื่อทำสิ่งที่พวกเธอรักและถนัด แทนที่จะอยู่บ้านเฉย ๆ รอวันร่วงโรย

จุดเริ่มต้นของคาเฟ่แม่ จากงานอดิเรกสู่ธุรกิจครอบครัว

คาเฟ่แม่ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นการค่อย ๆ ก่อร่างจากขนมที่ทำกินเองภายในบ้าน จนเพื่อนฝูงติดใจและขอสั่งซื้อ คุณหนิงและพี่ชายจึงเริ่มคิดเรื่องเปิดร้าน ด้วยการชวนคุณแม่และคุณน้าซึ่งมีฝีมือในการทำขนมไทยให้มาร่วมกันทำ ในระยะแรกพวกเขาไม่ได้คิดว่าร้านจะได้รับความนิยมขนาดนี้ ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้คาเฟ่แม่แตกต่างจากร้านอื่นคือ การไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องรายได้ แต่เน้นการสร้างพื้นที่ให้ผู้สูงวัยในครอบครัวได้ทำในสิ่งที่รักและถนัด

ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอีกคนคือคุณน้าต้อย ที่กล้าลงทุนในความฝันของลูกหลาน ถึงแม้จะไม่มีเงินมากมาย แต่ด้วยความรักและห่วงใย จึงอยากให้ลูกหลานมีอาชีพและกิจการเป็นของตัวเอง เพื่อความมั่นคงในอนาคต เธอเล่าว่า "แม่ต้อยตายเนี่ย แม่ต้อยก็ไม่ห่วงอะไรแล้ว ลูกหลานมีกิจการ มีงานทำ มีอาชีพรองรับ" นี่คือความสุขและความภาคภูมิใจของผู้เป็นแม่ที่ได้เห็นลูกหลานมีความมั่นคงในชีวิต การทำงานร่วมกันของแม่ครัวทั้ง 4 คน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุกเช้าพวกเธอจะตื่นแต่เช้าตรู่ ราว 04.00 น. เพื่อเตรียมวัตถุดิบและทำขนมให้ทันเวลาร้านเปิด 10.00 น. แต่ละคนจะมีหน้าที่เฉพาะ ไม่ก้าวก่ายงานกัน และมีการบ่นพึมพำ หยอกล้อกันตลอดเวลา เหมือนละครหลังข่าว ที่ทั้งตลกและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ระหว่างทำขนม คุณแม่รีจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ เพราะกลัวลืมขั้นตอนการทำขนมตะโก้ ส่วนคุณยายแต๋มจะมีสมาธิมากขณะทำฝอยทอง เพราะต้องคอยดูว่าน้ำเชื่อมเข้มข้นพอดีหรือไม่

เมนูซิกเนเจอร์ และบรรยากาศในคาเฟ่แม่

คาเฟ่แม่มีเมนูขนมไทยหลากหลาย ทั้งขนมตะโก้ ข้าวต้มมัด ฝอยทอง เม็ดขนุน เปียกปูน และไข่หงส์ ที่ล้วนทำด้วยสูตรโบราณและฝีมือของผู้มีประสบการณ์ นอกจากขนมไทยแล้ว ยังมีเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง "น้ำโอ้โห" ซึ่งเป็นสมูทตี้ที่ทำจากมะกรูด มะนาว และน้ำผึ้ง ให้ความรู้สึกสดชื่น แก้ร้อน คลายหวาน เหมาะกับการทานคู่กับขนมหวาน สิ่งที่ทำให้คาเฟ่แม่โดดเด่นไม่ใช่เพียงรสชาติของขนมที่อร่อย แต่เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เหมือนมาเยี่ยมบ้านญาติ ได้พบปะพูดคุยกับแม่ครัวสูงวัยที่มีเรื่องราวและประสบการณ์มากมาย ได้เห็นกระบวนการทำขนมแบบดั้งเดิม ที่ไม่ใช่เพียงการกดปุ่มหรือใช้เครื่องจักร แต่เป็นการใช้ประสบการณ์ ความรู้สึก และสัมผัสในการทำขนมแต่ละชิ้น

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ที่ไม่ใช่แค่การไปกิน แต่ได้สัมผัสประสบการณ์และวัฒนธรรมดั้งเดิม คาเฟ่แม่คือคำตอบ คุณจะได้ลิ้มรสขนมไทยสูตรโบราณที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศร่มรื่นของสวนต้นไม้อายุร้อยปี รวมถึงได้เห็นความสัมพันธ์อันอบอุ่นของคนในครอบครัวที่แม้จะผ่านวัยเกษียณแล้ว แต่ยังคงใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความสุข