ฟินแลนด์ ประเทศเล็กๆ แห่งยุโรปเหนือ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นดินแดนที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลกต่อเนื่องหลายปี หนึ่งในประเทศที่ประสบความสําเร็จด้านการศึกษามากที่สุด เสรีภาพของทั้งพลเมืองและสื่อ แผ่ขยายครอบคลุมพื้นที่ 338,462 ตารางกิโลเมตร ฟินแลนด์กลายเป็นประเทศในอุดมคติ สําหรับคนจํานวนไม่น้อย ที่แสวงหาชีวิตที่ดีและสงบสุข
แต่ชายแดนที่ติดยาวกับรัสเซีย ถึง 1,343 กิโลเมตร และสงครามที่รัสเซียก่อไว้ในยูเครน ที่ยืดเยื้อเข้าปีที่ 4 อาจทําให้ความมั่นคงของฟินแลนด์ ต้องถูกสั่นคลอน
แม้ ฟินแลนด์ จะได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่เบื้องหลังของประเทศเล็กๆ แห่งนี้คือประวัติศาสตร์แห่งความเข้มแข็งและการเอาตัวรอดในโลกที่ไม่แน่นอน ฟินแลนด์ไม่ได้มีแต่ภาพของธรรมชาติอันงดงามหรือความสงบสุขของสังคม แต่ยังเต็มไปด้วยความระแวดระวังทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ติดกับประเทศมหาอำนาจอย่าง รัสเซีย ที่แบ่งปันพรมแดนร่วมกันหลักพันกิโลเมตร
ความระแวดระวังนี้เป็นผลมาจากประวัติศาสตร์ที่ ฟินแลนด์ เคยต่อสู้เพื่อเอกราชของตัวเองมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในสงครามฤดูหนาว (Winter War) ที่ฟินแลนด์ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพแดงของ สหภาพโซเวียต ในช่วงปี 1939-1940 แม้จะมีกำลังทหารน้อยกว่า แต่ฟินแลนด์สามารถต้านทานกองทัพโซเวียตได้อย่างไม่มีใครคาดคิด และกลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างของประเทศที่สามารถรักษาอธิปไตยของตัวเองไว้ได้ท่ามกลางความขัดแย้งของมหาอำนาจ ตลอดช่วง สงครามเย็น ฟินแลนด์ดำเนินนโยบายที่เรียกว่า "ฟินแลนด์ไนเซชัน" (Finlandization) ซึ่งเป็นแนวทางที่ประเทศรักษาความเป็นกลาง ไม่เข้าร่วมกับขั้วอำนาจใดโดยตรง แม้จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตะวันตก แต่ฟินแลนด์ก็ต้องรักษาความสัมพันธ์กับ โซเวียต เพื่อความอยู่รอด
อย่างไรก็ตาม หลังจาก สงครามเย็น สิ้นสุดลง ฟินแลนด์ได้ปรับตัวเข้าสู่ยุโรปและเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปในปี 1995 การรุกรานยูเครนของ รัสเซีย ในปี 2022 เปลี่ยนแปลงทิศทางยุทธศาสตร์ของฟินแลนด์ไปโดยสิ้นเชิง จากที่เคยวางตนเป็นกลาง ฟินแลนด์ตัดสินใจยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) และได้เข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในปี 2023 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เพราะฟินแลนด์มีพรมแดนติดกับ รัสเซีย ยาวกว่า 1,300 กิโลเมตร ทำให้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของ NATO
แม้ว่าฟินแลนด์จะเข้าร่วม NATO แล้ว แต่ประเทศยังคงรักษาขีดความสามารถด้านการป้องกันตัวเองอย่างแข็งแกร่ง ฟินแลนด์มีระบบกองหนุนที่มีประสิทธิภาพ ทหารเกณฑ์ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้น และยังคงรักษาความสามารถในการผลิตอาวุธของตัวเอง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟินแลนด์ได้เพิ่มงบประมาณทางทหารอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจาก รัสเซีย นอกจากนี้ ฟินแลนด์ยังมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน โดยลดการพึ่งพาก๊าซและน้ำมันจาก รัสเซีย พร้อมทั้งพัฒนาแหล่งพลังงานหมุนเวียนของตัวเองให้มากขึ้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงกับชาติยุโรปอื่นๆ เช่น สวีเดน นอร์เวย์ และโปแลนด์
ภายใต้บริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฟินแลนด์ไม่ได้มองเพียงแค่การป้องกันประเทศของตัวเองเท่านั้น แต่ยังพยายามมีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ให้การสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขัน ทั้งในแง่ของอาวุธยุทโธปกรณ์และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
แม้จะเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก แต่ ฟินแลนด์ รู้ดีว่าความสงบสุขไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ฟินแลนด์เลือกที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ไม่ยอมลดกำลังทหาร และไม่ปล่อยให้ความมั่นคงของตัวเองตกอยู่ในมือของใคร
ติดตามได้ ในรายการ FLASHPOINT จุดร้อนโลก ตอน ฟินแลนด์ ดินแดนแห่งความสุขใต้เงาสงคราม วันพุธที่ 26 มีนาคม 2568 เวลา 21.30 - 21.55 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
ฟินแลนด์ ประเทศเล็กๆ แห่งยุโรปเหนือ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นดินแดนที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลกต่อเนื่องหลายปี หนึ่งในประเทศที่ประสบความสําเร็จด้านการศึกษามากที่สุด เสรีภาพของทั้งพลเมืองและสื่อ แผ่ขยายครอบคลุมพื้นที่ 338,462 ตารางกิโลเมตร ฟินแลนด์กลายเป็นประเทศในอุดมคติ สําหรับคนจํานวนไม่น้อย ที่แสวงหาชีวิตที่ดีและสงบสุข
แต่ชายแดนที่ติดยาวกับรัสเซีย ถึง 1,343 กิโลเมตร และสงครามที่รัสเซียก่อไว้ในยูเครน ที่ยืดเยื้อเข้าปีที่ 4 อาจทําให้ความมั่นคงของฟินแลนด์ ต้องถูกสั่นคลอน
แม้ ฟินแลนด์ จะได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่เบื้องหลังของประเทศเล็กๆ แห่งนี้คือประวัติศาสตร์แห่งความเข้มแข็งและการเอาตัวรอดในโลกที่ไม่แน่นอน ฟินแลนด์ไม่ได้มีแต่ภาพของธรรมชาติอันงดงามหรือความสงบสุขของสังคม แต่ยังเต็มไปด้วยความระแวดระวังทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ติดกับประเทศมหาอำนาจอย่าง รัสเซีย ที่แบ่งปันพรมแดนร่วมกันหลักพันกิโลเมตร
ความระแวดระวังนี้เป็นผลมาจากประวัติศาสตร์ที่ ฟินแลนด์ เคยต่อสู้เพื่อเอกราชของตัวเองมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในสงครามฤดูหนาว (Winter War) ที่ฟินแลนด์ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพแดงของ สหภาพโซเวียต ในช่วงปี 1939-1940 แม้จะมีกำลังทหารน้อยกว่า แต่ฟินแลนด์สามารถต้านทานกองทัพโซเวียตได้อย่างไม่มีใครคาดคิด และกลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างของประเทศที่สามารถรักษาอธิปไตยของตัวเองไว้ได้ท่ามกลางความขัดแย้งของมหาอำนาจ ตลอดช่วง สงครามเย็น ฟินแลนด์ดำเนินนโยบายที่เรียกว่า "ฟินแลนด์ไนเซชัน" (Finlandization) ซึ่งเป็นแนวทางที่ประเทศรักษาความเป็นกลาง ไม่เข้าร่วมกับขั้วอำนาจใดโดยตรง แม้จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตะวันตก แต่ฟินแลนด์ก็ต้องรักษาความสัมพันธ์กับ โซเวียต เพื่อความอยู่รอด
อย่างไรก็ตาม หลังจาก สงครามเย็น สิ้นสุดลง ฟินแลนด์ได้ปรับตัวเข้าสู่ยุโรปและเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปในปี 1995 การรุกรานยูเครนของ รัสเซีย ในปี 2022 เปลี่ยนแปลงทิศทางยุทธศาสตร์ของฟินแลนด์ไปโดยสิ้นเชิง จากที่เคยวางตนเป็นกลาง ฟินแลนด์ตัดสินใจยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) และได้เข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในปี 2023 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เพราะฟินแลนด์มีพรมแดนติดกับ รัสเซีย ยาวกว่า 1,300 กิโลเมตร ทำให้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของ NATO
แม้ว่าฟินแลนด์จะเข้าร่วม NATO แล้ว แต่ประเทศยังคงรักษาขีดความสามารถด้านการป้องกันตัวเองอย่างแข็งแกร่ง ฟินแลนด์มีระบบกองหนุนที่มีประสิทธิภาพ ทหารเกณฑ์ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้น และยังคงรักษาความสามารถในการผลิตอาวุธของตัวเอง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟินแลนด์ได้เพิ่มงบประมาณทางทหารอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจาก รัสเซีย นอกจากนี้ ฟินแลนด์ยังมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน โดยลดการพึ่งพาก๊าซและน้ำมันจาก รัสเซีย พร้อมทั้งพัฒนาแหล่งพลังงานหมุนเวียนของตัวเองให้มากขึ้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงกับชาติยุโรปอื่นๆ เช่น สวีเดน นอร์เวย์ และโปแลนด์
ภายใต้บริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฟินแลนด์ไม่ได้มองเพียงแค่การป้องกันประเทศของตัวเองเท่านั้น แต่ยังพยายามมีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ให้การสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขัน ทั้งในแง่ของอาวุธยุทโธปกรณ์และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
แม้จะเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก แต่ ฟินแลนด์ รู้ดีว่าความสงบสุขไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ฟินแลนด์เลือกที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ไม่ยอมลดกำลังทหาร และไม่ปล่อยให้ความมั่นคงของตัวเองตกอยู่ในมือของใคร
ติดตามได้ ในรายการ FLASHPOINT จุดร้อนโลก ตอน ฟินแลนด์ ดินแดนแห่งความสุขใต้เงาสงคราม วันพุธที่ 26 มีนาคม 2568 เวลา 21.30 - 21.55 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live