ในงานศพของพ่อ ดอน นา กับ โอ สามพี่น้องนั่งหน้างงๆ ระหว่างที่คนเดินผ่านไปมา พวกเขาเพิ่งได้ข่าวว่าพ่อที่ไม่ได้เจอมาหลายปี บิดาที่เป็นนักการละครผู้ยิ่งใหญ่ ได้เสียชีวิตไปแล้วทิ้งโรงละครไว้ให้เป็นมรดก โดยมีน้าสุพจน์ ผู้ช่วยแสนจงรักภักดีของพ่อเป็นคนคอยดูแลช่วงรับต่อของพี่น้องทั้งสาม แต่ ดอน พี่ชายคนโตนึกถึงเงินก้อนโตแล้วอยากขายโรงละคร ทำให้สามพี่น้องทะเลาะกัน เพราะความแตกต่างทางความคิด แต่ว่าโรงละครของพ่อ เห็นแวบแรกก็คงไม่มีใครอยากซื้อ เพราะมันดูโทรม...
"นา" ได้เห็นข้อบกพร่องของโรงละครที่เป็นปัญหาใหญ่ นั่นก็คือทีมงานของโรง ซึ่งร่วมด้วย พี่ต้น เทคนิคตัวใหญ่ที่ไม่ใส่ใจกับงาน อ้อยควั่น (น้องของต้น) ช่างไฟที่เอาความสบายของตัวเองเป็นหลัก พี่ยอด เกย์รุ่นใหญ่ปากไวที่ทำหน้าที่เดินตั๋ว เอะอะอะไรก็ขอเหน็บแนมชาวบ้านไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวนอนไม่หลับ นา พยายามเกลี้ยกล่อมให้ ดอน ปลุกระดมให้ทีมงานมีแรงฮึดสู้กันอีกครั้ง เพื่อโรงและรายได้ รายได้นี่สำคัญมากสำหรับดอน แต่สำหรับนา การที่พวกเขาจะพาโรงละครไปสู่อนาคตที่...
"ดอน" ได้ลูกค้ารายใหญ่ที่เหมาโรงเพื่อจัดงานอีเว้นท์ขายของ ลูกค้าอยากจัดละครเกี่ยวกับชีวิตของประธานบริษัท จึงได้จ้างคุณป้อม ผู้กำกับละครเวทีอารมณ์แรงมาสร้างงาน ความหลอนก็เกิดขึ้นเมื่อ "โอ" เห็นผู้หญิงลึกลับ แว่บไปแว่บมาในมุมมืดของโรงละคร คุณป้อมก็เครียดขมับปูดเพราะนางเอก (เป็นน้องสาวของผู้จ้าง) เล่นละครไม่เป็น ส่วนนาก็ได้เจอ อาร์ตไดเร็คเตอร์ ”นพ” ที่จะนำความ”อาร์ต”เข้ามาในชีวิตเธอ ผู้หญิงลึกลับที่โอเห็นกลายเป็น "แสงดาว" อดีตนักแสดงชื่อดังของวงการ...
เมื่อกลุ่มละคร “โอ้ ฮัลโหล” ที่มีสมาชิกเป็นชาวเกย์ล้วน จะเอาโชว์คาบาเร่มาลง สามพี่น้องก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับความแปลกใหม่ที่ชีวิตไม่เคยเจอมาก่อน ดอนเองก็ไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะไม่รู้จะวางตัวยังไงเมื่ออยู่กับกระเทยหลายๆ คน บางคนว่าบทละครมันน้ำเน่า แต่จริงๆ แล้วชีวิตคนเรามันน้ำเน่ากว่าอีก พี่จอร์จ ท์ประจำกลุ่มเครียดหนักเรื่องอกหักโดนแฟนทิ้งเลยประชดโลกด้วยการกระโดดตึก ตึกก็คือโรงละครนั่นเอง ดอนกลัวว่าถ้ามีคนตายหน้าโรงแล้วจะมีใครมาเช่า เขา...
เมื่อกลุ่มละคร “โอ้ ฮัลโหล” ที่มีสมาชิกเป็นชาวเกย์ล้วน จะเอาโชว์คาบาเร่มาลง สามพี่น้องก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับความแปลกใหม่ที่ชีวิตไม่เคยเจอมาก่อน ดอนเองก็ไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะไม่รู้จะวางตัวยังไงเมื่ออยู่กับกระเทยหลายๆ คน บางคนว่าบทละครมันน้ำเน่า แต่จริงๆ แล้วชีวิตคนเรามันน้ำเน่ากว่าอีก พี่จอร์จ ท์ประจำกลุ่มเครียดหนักเรื่องอกหักโดนแฟนทิ้งเลยประชดโลกด้วยการกระโดดตึก ตึกก็คือโรงละครนั่นเอง ดอนกลัวว่าถ้ามีคนตายหน้าโรงแล้วจะมีใครมาเช่า เขา...
"นพ" กับ "ปื๊ด" แข่งกันจีบนา สองหนุ่มที่ไม่กินเส้นกัน คนหนึ่งเชื่อในศิลปะ กับอีกคนที่ยืดในเชิงพาณิชย์ “โอ” กำลังเข้าวัยแรกรุ่น นาเป็นห่วงไม่มีใครจะเป็นที่ปรึกษาให้น้องเรื่องเพศและการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ในเวลาเดียวกัน โออ่านสมุดบันทึกของพ่อที่เขียนถึงตอนที่พ่อจีบแม่ตอนสมัยหนุ่มสาว แล้วคู่แข่งของพ่อเป็นคนรวยมีฐานะ โอสะท้อนความคิดของพ่อ ถ้าแม่เลือกอีกคนชีวิตเธอจะเป็นยังไง เป็นตอนที่พูดถึงอุดมการณ์เกี่ยวกับความรักที่คนเรามีกันในสังคม มองความรักกัน...
"นพ" กับ "ปื๊ด" แข่งกันจีบนา สองหนุ่มที่ไม่กินเส้นกัน คนหนึ่งเชื่อในศิลปะ กับอีกคนที่ยืดในเชิงพาณิชย์ “โอ” กำลังเข้าวัยแรกรุ่น นาเป็นห่วงไม่มีใครจะเป็นที่ปรึกษาให้น้องเรื่องเพศและการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ในเวลาเดียวกัน โออ่านสมุดบันทึกของพ่อที่เขียนถึงตอนที่พ่อจีบแม่ตอนสมัยหนุ่มสาว แล้วคู่แข่งของพ่อเป็นคนรวยมีฐานะ โอสะท้อนความคิดของพ่อ ถ้าแม่เลือกอีกคนชีวิตเธอจะเป็นยังไง เป็นตอนที่พูดถึงอุดมการณ์เกี่ยวกับความรักที่คนเรามีกันในสังคม มองความรักกัน...
เฮียโป้กลับมาอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่ต้องการอะไรกันแน่ เพราะค่าดอกเบี้ยก็จ่ายครบทุกเดือน ท่าทีของเฮียดูเหมือนอยากให้โรงละครเจ๊ง แต่พอมาดูละครที่กำลังจะเปิดที่โรง ความคิดเฮียก็เปลี่ยนไป นั่นก็คือเรื่อง ดอนกิโอเต้ มีมูลนิธิมะขามป้อม (ที่มีอยู่จริง) พยายามเอาเด็กที่มีปัญหาในสังคมมาจับกลุ่มทำละครแล้วเลือกเรื่องนี้มาให้ทั้งคนเล่นและคนดูเห็นในความมุ่งมั่น ความทะเยอทะยานของดอนกิโฮเต้ ที่กล้าฝันความฝันอันยิ่งใหญ่ ทำให้เฮียโป้ประทับใจ เพราะเขาเคยเป็นเด็กมีปั...
เฮียโป้กลับมาอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่ต้องการอะไรกันแน่ เพราะค่าดอกเบี้ยก็จ่ายครบทุกเดือน ท่าทีของเฮียดูเหมือนอยากให้โรงละครเจ๊ง แต่พอมาดูละครที่กำลังจะเปิดที่โรง ความคิดเฮียก็เปลี่ยนไป นั่นก็คือเรื่อง ดอนกิโอเต้ มีมูลนิธิมะขามป้อม (ที่มีอยู่จริง) พยายามเอาเด็กที่มีปัญหาในสังคมมาจับกลุ่มทำละครแล้วเลือกเรื่องนี้มาให้ทั้งคนเล่นและคนดูเห็นในความมุ่งมั่น ความทะเยอทะยานของดอนกิโฮเต้ ที่กล้าฝันความฝันอันยิ่งใหญ่ ทำให้เฮียโป้ประทับใจ เพราะเขาเคยเป็นเด็กมีปั...
มีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นนะโรงละคร มีรอยเท้าประหลาดเหยีบบที่พื้นเต็มไปหมด ต่างคนต่างคิดว่าเป็นโจร มีแต่โอเท่านั้นที่คิดว่าเป็นพ่อ เพราะโอฝันว่าพ่อมาเต้นรำคนเดียวในโรงละคร สถานการณ์ที่โรงก็วุ่นวายสุดๆ เพราะไฟดับ ทุกคนในโรงละครมารวมกัน และพบเจอกับเรื่องระทึกขวัญไม่หยุด กว่าจะตั้งสติกันได้เพื่อจะมาค้นหาความจริงก็หิวท้องร้องกันถ้วนหน้า สุดท้ายก็พากันไปกินก๋วยเตี๋ยวป้าจี๊ดซะอย่างนั้น แต่โอยังติดค้างเรื่องรอยเท้าลึกลับนี้อยู่ จึงค้นหาจนเจอต้นตอที่แท้จริง...
มีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นนะโรงละคร มีรอยเท้าประหลาดเหยีบบที่พื้นเต็มไปหมด ต่างคนต่างคิดว่าเป็นโจร มีแต่โอเท่านั้นที่คิดว่าเป็นพ่อ เพราะโอฝันว่าพ่อมาเต้นรำคนเดียวในโรงละคร สถานการณ์ที่โรงก็วุ่นวายสุดๆ เพราะไฟดับ ทุกคนในโรงละครมารวมกัน และพบเจอกับเรื่องระทึกขวัญไม่หยุด กว่าจะตั้งสติกันได้เพื่อจะมาค้นหาความจริงก็หิวท้องร้องกันถ้วนหน้า สุดท้ายก็พากันไปกินก๋วยเตี๋ยวป้าจี๊ดซะอย่างนั้น แต่โอยังติดค้างเรื่องรอยเท้าลึกลับนี้อยู่ จึงค้นหาจนเจอต้นตอที่แท้จริง...
มีกลุ่มลิเกมาขอใช้โรงละคร แต่ไม่มีเงินให้ เขาบอกว่าแบ่งรายได้คนละครึ่ง แต่กลุ่มลิเกนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ธรรมดา สามารถร้องลิเกในแนวทางร่วมสมัย เนื้อหาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ บ้างก็มีเต้นกัมนัง เดี๋ยวก็มีเบร็คแดนซ์ เดาทางไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอะไร “อินเทรนด์” ก็จับมาใส่หมด นาก็สงสัยว่าแล้วแบบนี้มันจะเรียกว่าลิเกได้ไหม แล้วถ้าคนดูเขาอยากดูแบบดั้งเดิม แต่กลุ่มลิเกเอาแต่ขายของ แล้วจะมีอะไรที่เป็นเค้าเดิมเหลืออยู่ เป็นตอนที่สะท้อนการตามใจผู้บริโภคแบบไม่มีขอ...
มีกลุ่มลิเกมาขอใช้โรงละคร แต่ไม่มีเงินให้ เขาบอกว่าแบ่งรายได้คนละครึ่ง แต่กลุ่มลิเกนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ธรรมดา สามารถร้องลิเกในแนวทางร่วมสมัย เนื้อหาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ บ้างก็มีเต้นกัมนัง เดี๋ยวก็มีเบร็คแดนซ์ เดาทางไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอะไร “อินเทรนด์” ก็จับมาใส่หมด นาก็สงสัยว่าแล้วแบบนี้มันจะเรียกว่าลิเกได้ไหม แล้วถ้าคนดูเขาอยากดูแบบดั้งเดิม แต่กลุ่มลิเกเอาแต่ขายของ แล้วจะมีอะไรที่เป็นเค้าเดิมเหลืออยู่ เป็นตอนที่สะท้อนการตามใจผู้บริโภคแบบไม่มีขอ...
หลายอาทิตย์ผ่านไป ไม่มีใครมาเช่าโรง งานไม่เดิน เฮียโป้มาด่าว่าทำไมปล่อยให้โรงมันเงียบ ทำละครเองไปเลยสิ จะได้รู้ไปเลยว่ามันใช่หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่จะได้เลิกแล้วขายตึกให้เขา (สามพี่น้องไม่แน่ใจว่าเฮียแกอยากให้เจ๊งหรืออยากให้รอดกันแน่) น้าสุพจน์ก็เห็นด้วย ไหนๆ โรงก็มีครบทุกอย่าง โอจึงเปิดเผยเรื่องสมุดบันทึกของพ่อ แล้วบทละครที่โอกำลังเขียนอยู่ ทุกคนเห็นตรงกันว่าดอนควรเล่นเป็นพ่อ ไหนๆ ก็มีแสงดาว อดีตยอดนักแสดงหญิงละครเวที บวกกับเพื่อนๆ พ่อในวงการ น่าจะ...
หลายอาทิตย์ผ่านไป ไม่มีใครมาเช่าโรง งานไม่เดิน เฮียโป้มาด่าว่าทำไมปล่อยให้โรงมันเงียบ ทำละครเองไปเลยสิ จะได้รู้ไปเลยว่ามันใช่หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่จะได้เลิกแล้วขายตึกให้เขา (สามพี่น้องไม่แน่ใจว่าเฮียแกอยากให้เจ๊งหรืออยากให้รอดกันแน่) น้าสุพจน์ก็เห็นด้วย ไหนๆ โรงก็มีครบทุกอย่าง โอจึงเปิดเผยเรื่องสมุดบันทึกของพ่อ แล้วบทละครที่โอกำลังเขียนอยู่ ทุกคนเห็นตรงกันว่าดอนควรเล่นเป็นพ่อ ไหนๆ ก็มีแสงดาว อดีตยอดนักแสดงหญิงละครเวที บวกกับเพื่อนๆ พ่อในวงการ น่าจะ...
ระหว่างที่กำลังซ้อม มีองค์การพัฒนาสังคมมาเช่าโรงเพื่อทำละครพัฒนาเด็ก แต่ก็มีปัญหากับนาเพราะนาไม่เชื่อในสิ่งที่องค์กรเสนอ เพราะสอนให้เด็กแค่ไม่เชื่ออีกอย่างแล้วมาเชื่ออีกอย่าง แต่ไม่ได้สอนให้เด็กหัดคิดเอง ในโครงการมีสอนให้เด็กมีทักษะเอาตัวรอดในสภานการณ์ฉุกเฉินเช่น แผ่นดินไหว ให้ไปอยู่ใต้โต๊ะยี่ห้อที่เป็นสปอนเซอร์เป็นผู้ผลิต ถ้าน้ำท่วมก็ให้เก็บอาหารยี่ห้อที่เป็นสปอนเซอร์ แล้วให้ช่วยกันลดโลกร้อนในการทิ้งขยะน้อยลง ดอน นา กับโอได้เห็นการที่ละครก็สามา...
ระหว่างที่กำลังซ้อม มีองค์การพัฒนาสังคมมาเช่าโรงเพื่อทำละครพัฒนาเด็ก แต่ก็มีปัญหากับนาเพราะนาไม่เชื่อในสิ่งที่องค์กรเสนอ เพราะสอนให้เด็กแค่ไม่เชื่ออีกอย่างแล้วมาเชื่ออีกอย่าง แต่ไม่ได้สอนให้เด็กหัดคิดเอง ในโครงการมีสอนให้เด็กมีทักษะเอาตัวรอดในสภานการณ์ฉุกเฉินเช่น แผ่นดินไหว ให้ไปอยู่ใต้โต๊ะยี่ห้อที่เป็นสปอนเซอร์เป็นผู้ผลิต ถ้าน้ำท่วมก็ให้เก็บอาหารยี่ห้อที่เป็นสปอนเซอร์ แล้วให้ช่วยกันลดโลกร้อนในการทิ้งขยะน้อยลง ดอน นา กับโอได้เห็นการที่ละครก็สามา...
ดอนกำลังเครียดเรื่องเป็นนักแสดง เขาต้องซ้อมกับน้าสุพจน์อย่างเข้มงวด ทุกคนลงมือกันเต็มที่ เพื่อนๆ ที่เคยมาใช้โรงก็กลับมาช่วยกัน ดูเป็นโปรดักชั่นใหญ่ แต่พอตอนซ้อมสามพี่น้องก็อดเถียงกันไม่ได้ โอไม่ชอบที่ดอนเปลี่ยนบทพูดเอง ดอนไม่ชอบที่นามาสั่ง นาไม่ชอบที่โอเขียนอะไรหวานแหววจนออกเลี่ยน โอก็ไม่ชอบที่นาตีความบทผิด ในเวลาเดียวกัน มีศิลปินกายกรรมผืนผ้าชื่อเล้งมาเตรียมทำการแสดง (ในเรื่องไม่มีใครรู้จัก) ดอนไปเห็นความมุ่งมั่นของเขา ที่ต้องซ้อมแล้วซ้อมอีก ตร...
ดอนกำลังเครียดเรื่องเป็นนักแสดง เขาต้องซ้อมกับน้าสุพจน์อย่างเข้มงวด ทุกคนลงมือกันเต็มที่ เพื่อนๆ ที่เคยมาใช้โรงก็กลับมาช่วยกัน ดูเป็นโปรดักชั่นใหญ่ แต่พอตอนซ้อมสามพี่น้องก็อดเถียงกันไม่ได้ โอไม่ชอบที่ดอนเปลี่ยนบทพูดเอง ดอนไม่ชอบที่นามาสั่ง นาไม่ชอบที่โอเขียนอะไรหวานแหววจนออกเลี่ยน โอก็ไม่ชอบที่นาตีความบทผิด ในเวลาเดียวกัน มีศิลปินกายกรรมผืนผ้าชื่อเล้งมาเตรียมทำการแสดง (ในเรื่องไม่มีใครรู้จัก) ดอนไปเห็นความมุ่งมั่นของเขา ที่ต้องซ้อมแล้วซ้อมอีก ตร...