คน Gen Z ที่ปัจจุบันเข้าสู่ตลาดแรงงานแล้ว ถูกมองว่าไม่ทนงาน เพราะพวกเขานั้นเชื่อว่า สมดุลชีวิตเรื่องความสุขในที่ทํางานมีความสําคัญไม่แพ้เรื่องของผลตอบแทน ทําไมจึงเป็นแบบนั้น และในมิติใด คลิปนี้มีคําตอบ
จากรายงานของ Ran Stand, Work Monitor ปี 2022 ที่สํารวจพนักงาน 35,000 คน ใน 34 ตลาด แสดงให้เห็นว่า ทัศนคติของคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก โดยพนักงานมากกว่าครึ่งหนึ่ง (56%) ที่มีอายุ 18-24 ปี หรือ Gen Z บอกว่า แม้จะมีงานที่ให้ผลตอบแทนแล้ว แต่ถ้างานนั้นไม่สามารถทําให้พวกเขามีความสุข พวกเขายอมที่จะลาออก นอกจากนี้ 40% ของGen Z ยังบอกว่า พวกเขาจะยอมว่างงานมากกว่าที่จะทํางานในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ
มากกว่า 3 ใน 4 ของGen Z (ประมาณ 75%) บอกว่า พวกเขามีความหวังว่า การทํางานจะต้องมีความสุข และประสบการณ์ในการทํางานจะต้องเติมเต็มวิถีชีวิตของพวกเขา ซึ่งสูงกว่าจํานวนประชากรที่มีอายุมากกว่า
43% ของกลุ่มตัวอย่างบอกว่า พวกเขาจะไม่ทํางานร่วมกับบริษัทที่ค่านิยมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมไม่สอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขา นอกจากนี้ 41% ยังบอกว่า พวกเขาไม่อยากทํางานในบริษัทที่ไม่ส่งเสริมความหลากหลาย
พนักงานรุ่นใหม่ไม่ได้มองแค่เรื่องของผลตอบแทน แต่ยังคํานึงถึงผลประโยชน์อื่นๆ เช่น วันหยุด การดูแลสุขภาพ และการเข้าถึงผลประโยชน์การเกษียณอายุ รวมถึงการฝึกอบรมพัฒนาตัวเอง
75% ของพนักงานบอกว่า สถานที่ทํางานที่มีความยืดหยุ่นเป็นสิ่งสําคัญ และ 83% บอกว่าชั่วโมงที่ยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่สําคัญ แต่เพียง 25% ของนายจ้างให้ความสําคัญกับเรื่องความยืดหยุ่น
80% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากทุกกลุ่มอายุ บอกว่าพวกเขาอยากมีส่วนร่วมในโปรแกรมการเรียนรู้และพัฒนาองค์กร และ 60% ต้องการ workshop เกี่ยวกับการหารายได้มากขึ้นและการบรรลุความสมดุลในการทํางาน แต่เพียง 25% ที่บอกว่าได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาในที่ทํางานเป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่า ช่องว่างระหว่างความคาดหวังของ Gen Z และสิ่งที่นายจ้างตอบสนองนั้นยังมีอยู่ ซึ่งนายจ้างจําเป็นต้องทําความเข้าใจและปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมและความต้องการในการทํางานของคนรุ่นใหม่
รับชมรายการเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือชมทุกตอนได้ทาง https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101
คน Gen Z ที่ปัจจุบันเข้าสู่ตลาดแรงงานแล้ว ถูกมองว่าไม่ทนงาน เพราะพวกเขานั้นเชื่อว่า สมดุลชีวิตเรื่องความสุขในที่ทํางานมีความสําคัญไม่แพ้เรื่องของผลตอบแทน ทําไมจึงเป็นแบบนั้น และในมิติใด คลิปนี้มีคําตอบ
จากรายงานของ Ran Stand, Work Monitor ปี 2022 ที่สํารวจพนักงาน 35,000 คน ใน 34 ตลาด แสดงให้เห็นว่า ทัศนคติของคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก โดยพนักงานมากกว่าครึ่งหนึ่ง (56%) ที่มีอายุ 18-24 ปี หรือ Gen Z บอกว่า แม้จะมีงานที่ให้ผลตอบแทนแล้ว แต่ถ้างานนั้นไม่สามารถทําให้พวกเขามีความสุข พวกเขายอมที่จะลาออก นอกจากนี้ 40% ของGen Z ยังบอกว่า พวกเขาจะยอมว่างงานมากกว่าที่จะทํางานในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ
มากกว่า 3 ใน 4 ของGen Z (ประมาณ 75%) บอกว่า พวกเขามีความหวังว่า การทํางานจะต้องมีความสุข และประสบการณ์ในการทํางานจะต้องเติมเต็มวิถีชีวิตของพวกเขา ซึ่งสูงกว่าจํานวนประชากรที่มีอายุมากกว่า
43% ของกลุ่มตัวอย่างบอกว่า พวกเขาจะไม่ทํางานร่วมกับบริษัทที่ค่านิยมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมไม่สอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขา นอกจากนี้ 41% ยังบอกว่า พวกเขาไม่อยากทํางานในบริษัทที่ไม่ส่งเสริมความหลากหลาย
พนักงานรุ่นใหม่ไม่ได้มองแค่เรื่องของผลตอบแทน แต่ยังคํานึงถึงผลประโยชน์อื่นๆ เช่น วันหยุด การดูแลสุขภาพ และการเข้าถึงผลประโยชน์การเกษียณอายุ รวมถึงการฝึกอบรมพัฒนาตัวเอง
75% ของพนักงานบอกว่า สถานที่ทํางานที่มีความยืดหยุ่นเป็นสิ่งสําคัญ และ 83% บอกว่าชั่วโมงที่ยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่สําคัญ แต่เพียง 25% ของนายจ้างให้ความสําคัญกับเรื่องความยืดหยุ่น
80% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากทุกกลุ่มอายุ บอกว่าพวกเขาอยากมีส่วนร่วมในโปรแกรมการเรียนรู้และพัฒนาองค์กร และ 60% ต้องการ workshop เกี่ยวกับการหารายได้มากขึ้นและการบรรลุความสมดุลในการทํางาน แต่เพียง 25% ที่บอกว่าได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาในที่ทํางานเป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่า ช่องว่างระหว่างความคาดหวังของ Gen Z และสิ่งที่นายจ้างตอบสนองนั้นยังมีอยู่ ซึ่งนายจ้างจําเป็นต้องทําความเข้าใจและปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมและความต้องการในการทํางานของคนรุ่นใหม่
รับชมรายการเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือชมทุกตอนได้ทาง https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101