TIK TOK เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน มีผู้ใช้งานกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าหนึ่งในสี่ของประชากรโลก นับว่าเป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความสะดวกและรวดเร็วในการผลิตคอนเทนต์ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเป็นข้อมูลเท็จปะปนอยู่ในเนื้อหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมวดหมู่เกี่ยวกับสุขภาพและการแพทย์
ผลการศึกษาของ TEBRA บริษัทวิจัยด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้รับการยอมรับ พบว่า ข้อมูลทางการแพทย์บน TIK TOK มีถึง 45% ที่เป็นข้อมูลเท็จหรือคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะนำไปสู่ความเข้าใจผิดและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ มีอะไรบ้าง เช่นการแนะนำให้ใส่หัวหอมลงไปในถุงเท้าเพื่อรักษาโรคหวัด, การติดกลีบกระเทียมที่จมูกเพื่อรักษาอาการไซนัส, การดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวและน้ำส้มสายชูอุ่นอุ่นเพื่อรักษาโรคมะเร็งแบบนี้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังพบว่า:
ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคข้อมูลทางการแพทย์บน TIK TOK โดยไม่มีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลก่อน
ในยุคที่การเข้าถึงข้อมูลออนไลน์เป็นเรื่องง่ายดาย การใช้ TIK TOK เป็นช่องทางหนึ่งในการแสวงหาข้อมูลสุขภาพนั้นอาจเป็นทางเลือกที่สะดวก แต่ก็ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ข้อมูลที่ปรากฏบน TIK TOK มักเน้นความสั้น กระชับ และดึงดูดความสนใจ แต่อาจไม่ได้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องอย่างเหมาะสม จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นข้อมูลเท็จหรือคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
ดังนั้น ก่อนการบริโภคข้อมูลทางการแพทย์บน TIK TOK ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล ความน่าเชื่อถือของผู้สร้างคอนเทนต์ และเปรียบเทียบกับข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น บทความวิชาการ หรือการปรึกษาแพทย์โดยตรง เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องของข้อมูลก่อนนำไปปฏิบัติ
ในท้ายที่สุด การใช้ TIK TOK อย่างระมัดระวังและมีวิจารณญาณ จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของข้อมูลเท็จที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของเรา
ติดตามรายการเศรษฐกิจติดบ้านได้ทาง www.thaipbs.or.th/Economics101
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
เศรษฐกิจติดบ้าน
เศรษฐกิจน่ารู้ : คนไทยนิยมฝากเงินแบบไหนในยุคนี้ ?
เศรษฐกิจน่ารู้ : เปิดวิธีเช็คสัญญาณองค์กร Toxic
เศรษฐกิจน่ารู้ : คนไทยมีบัญชีออมทรัพย์ 120 ล้านบัญชี
เศรษฐกิจติดบ้าน : สำรวจเศรษฐกิจไทย ใครคือจุดอ่อน ?
เศรษฐกิจน่ารู้ : ขึ้นค่าแรงไว ตายยกแผงทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้าง
เศรษฐกิจน่ารู้ : ฟินแลนด์ดินแดนแห่งความสุข แต่สถิติฆ่าตัวตายสูง
เศรษฐกิจน่ารู้ : เมืองท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มเก็บเงินค่าเข้าเมือง
เศรษฐกิจน่ารู้ : PANK ผู้หญิงยุคใหม่สายเปย์หลาน
เศรษฐกิจน่ารู้ : ตลาดหุ้นไทย...ทำไมถึงไม่น่าลงทุน
เศรษฐกิจน่ารู้ : คน GEN Z รู้สึกแปลกแยกกับวัฒนธรรมการทำงานแบบเก่า
เศรษฐกิจน่ารู้ : ลูกหนี้ กยศ. เฉียดแสนล้าน ทุบสถิติวิกฤตต้มยำกุ้ง
เศรษฐกิจน่ารู้ : พนักงานออฟฟิศเกินครึ่งของโลกใช้ AI ทำงานเป็นผู้ช่วย
เศรษฐกิจน่ารู้ : คนสูงวัยญี่ปุ่น 80% ตายอย่างโดดเดี่ยว
เศรษฐกิจน่ารู้ : ควันจากครัวใช้ฟืนคร่าชีวิตคนปีละ 4 ล้าน
เศรษฐกิจน่ารู้ : ธารน้ำแข็งละลายที่เวเนซุเอลา ส่งผลถึงเราอย่างไร ?
เศรษฐกิจน่ารู้ : คนไทยยิ่งแก่ยิ่งจน
เศรษฐกิจน่ารู้ : อนาคตสิงคโปร์ในมือลอว์เรนซ์ หว่อง
เศรษฐกิจน่ารู้ : สมรภูมิแอปพลิเคชันส่งอาหาร ใครรอด ?
เศรษฐกิจน่ารู้ : มาเลเซียไปต่อไม่ไหว ขึ้นราคาดีเซล 50 %
เศรษฐกิจน่ารู้ : จีนทุ่มเงิน 2 ล้านล้าน กู้วิกฤตฟองสบู่อสังหาฯ
หมอลาออก Work ไร้ Balance ในวงการแพทย์ : เศรษฐกิจน่ารู้
“ทัวร์ทุบตลาด” กลลวงกระทบท่องเที่ยวไทย : เศรษฐกิจน่ารู้
เศรษฐกิจไทยไร้เสน่ห์ดึงดูดต่างชาติลงทุน ? : เศรษฐกิจน่ารู้
ยุคทองโรงเรียนนานาชาติ ธุรกิจเติบโตกว่าแสนล้านบาท : เศรษฐกิจน่ารู้
หมดยุค work life balance ต้อง work smart ถึงจะรอด | เศรษฐกิจน่ารู้
RETURN TO OFFICE มุกใหม่นายจ้างบีบให้ลาออก | เศรษฐกิจน่ารู้
LOUD BUDGETING อวดประหยัดให้โลกรู้ | เศรษฐกิจน่ารู้
เปิดสถิติความสุขของคนไทย ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง : เศรษฐกิจน่ารู้
ออสเตรเลียห้ามตามงานนอกเวลา ฝ่าฝืนปรับ 2 ล้านบาท : เศรษฐกิจน่ารู้
ญี่ปุ่นเผชิญปัญหา สาวโสดล้นโตเกียว : เศรษฐกิจน่ารู้
ทำไมผู้บริหารระดับกลาง ต้องรับบทร้ายในองค์กร | เศรษฐกิจน่ารู้
Gen Z ไม่ทน ยอมตกงานถ้าไม่มีความสุข | เศรษฐกิจน่ารู้
ว่ายน้ำไปทำงาน กิจกรรมยอดฮิต ของชาวสวตเซอร์แลนด์ | เศรษฐกิจน่ารู้
TIK TOK แหล่งรวมข้อมูลเท็จทางการแพทย์ | เศรษฐกิจน่ารู้
เศรษฐกิจติดบ้าน
เศรษฐกิจน่ารู้ : คนไทยนิยมฝากเงินแบบไหนในยุคนี้ ?
เศรษฐกิจน่ารู้ : เปิดวิธีเช็คสัญญาณองค์กร Toxic
เศรษฐกิจน่ารู้ : คนไทยมีบัญชีออมทรัพย์ 120 ล้านบัญชี
เศรษฐกิจติดบ้าน : สำรวจเศรษฐกิจไทย ใครคือจุดอ่อน ?
เศรษฐกิจน่ารู้ : ขึ้นค่าแรงไว ตายยกแผงทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้าง
เศรษฐกิจน่ารู้ : ฟินแลนด์ดินแดนแห่งความสุข แต่สถิติฆ่าตัวตายสูง
เศรษฐกิจน่ารู้ : เมืองท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มเก็บเงินค่าเข้าเมือง
เศรษฐกิจน่ารู้ : PANK ผู้หญิงยุคใหม่สายเปย์หลาน
เศรษฐกิจน่ารู้ : ตลาดหุ้นไทย...ทำไมถึงไม่น่าลงทุน
เศรษฐกิจน่ารู้ : คน GEN Z รู้สึกแปลกแยกกับวัฒนธรรมการทำงานแบบเก่า
เศรษฐกิจน่ารู้ : ลูกหนี้ กยศ. เฉียดแสนล้าน ทุบสถิติวิกฤตต้มยำกุ้ง
เศรษฐกิจน่ารู้ : พนักงานออฟฟิศเกินครึ่งของโลกใช้ AI ทำงานเป็นผู้ช่วย
เศรษฐกิจน่ารู้ : คนสูงวัยญี่ปุ่น 80% ตายอย่างโดดเดี่ยว
เศรษฐกิจน่ารู้ : ควันจากครัวใช้ฟืนคร่าชีวิตคนปีละ 4 ล้าน
เศรษฐกิจน่ารู้ : ธารน้ำแข็งละลายที่เวเนซุเอลา ส่งผลถึงเราอย่างไร ?
เศรษฐกิจน่ารู้ : คนไทยยิ่งแก่ยิ่งจน
เศรษฐกิจน่ารู้ : อนาคตสิงคโปร์ในมือลอว์เรนซ์ หว่อง
เศรษฐกิจน่ารู้ : สมรภูมิแอปพลิเคชันส่งอาหาร ใครรอด ?
เศรษฐกิจน่ารู้ : มาเลเซียไปต่อไม่ไหว ขึ้นราคาดีเซล 50 %
เศรษฐกิจน่ารู้ : จีนทุ่มเงิน 2 ล้านล้าน กู้วิกฤตฟองสบู่อสังหาฯ
หมอลาออก Work ไร้ Balance ในวงการแพทย์ : เศรษฐกิจน่ารู้
“ทัวร์ทุบตลาด” กลลวงกระทบท่องเที่ยวไทย : เศรษฐกิจน่ารู้
เศรษฐกิจไทยไร้เสน่ห์ดึงดูดต่างชาติลงทุน ? : เศรษฐกิจน่ารู้
ยุคทองโรงเรียนนานาชาติ ธุรกิจเติบโตกว่าแสนล้านบาท : เศรษฐกิจน่ารู้
หมดยุค work life balance ต้อง work smart ถึงจะรอด | เศรษฐกิจน่ารู้
RETURN TO OFFICE มุกใหม่นายจ้างบีบให้ลาออก | เศรษฐกิจน่ารู้
LOUD BUDGETING อวดประหยัดให้โลกรู้ | เศรษฐกิจน่ารู้
เปิดสถิติความสุขของคนไทย ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง : เศรษฐกิจน่ารู้
ออสเตรเลียห้ามตามงานนอกเวลา ฝ่าฝืนปรับ 2 ล้านบาท : เศรษฐกิจน่ารู้
ญี่ปุ่นเผชิญปัญหา สาวโสดล้นโตเกียว : เศรษฐกิจน่ารู้
ทำไมผู้บริหารระดับกลาง ต้องรับบทร้ายในองค์กร | เศรษฐกิจน่ารู้
Gen Z ไม่ทน ยอมตกงานถ้าไม่มีความสุข | เศรษฐกิจน่ารู้
ว่ายน้ำไปทำงาน กิจกรรมยอดฮิต ของชาวสวตเซอร์แลนด์ | เศรษฐกิจน่ารู้
TIK TOK แหล่งรวมข้อมูลเท็จทางการแพทย์ | เศรษฐกิจน่ารู้