การหลอกลวง การหลอกลงทุน หรือชักชวนลงทุน อะไรคือเส้นแบ่งของเรื่องนี้ กลโกงของมิจฉาชีพในยุคนี้มาหลากหลายรูปแบบ จนหลายคนอาจจะไม่รู้เท่าทัน การหลอกลงทุนมาในหลากหลายรูปแบบ เช่น การแอบอ้างชื่อผู้มีชื่อเสียงเพื่อชักชวนลงทุน การเปิดเพจชวนลงทุนผลตอบแทนสูง การทำธุรกิจที่ซ่อนเร้นในรูปแบบการขายตรง การหลอกว่าจะลงทุนโดยไม่มีโครงการลงทุนจริง รายการวันนี้จะชี้ช่องเสี่ยงถูกหลอก รู้ไว้ไม่ถูกโกง กับดร.วิทย์ สิทธิเวคิน และทนายอนุวัฒน์ งามประเสริฐกุล
เข้าสู่ยุคเศรษฐกิจติดบ้านกันแล้วนะครับ วันนี้พี่วิทย์จะมาคุยกันถึงเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ เรื่องของการถูกหลอกและถูกโกง ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะได้ยินกันบ่อยมากขึ้นในช่วงนี้
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน มีรูปแบบของการหลอกและการโกงที่ซับซ้อนมากขึ้น ทั้งการปลอมแปลงเอกสาร การขโมยข้อมูล หรือแม้แต่การสร้างเรื่องราวเท็จเพื่อล่อลวงให้เราลงทุน ซึ่งบางครั้งก็ดูเหมือนจะเป็นการให้เราเอง แต่ที่จริงแล้วก็คือการหลอกนั่นเอง
เมื่อมีคนมาชวนลงทุนหรือให้ทำอะไรบางอย่าง ให้เราตั้งสติและระวังอารมณ์ของตัวเองด้วย อย่าปล่อยให้ความโลภ ความรัก ความกลัว หรือความหลงลวงพาเราไปทำในสิ่งที่อาจจะเสี่ยงต่อการถูกหลอกได้ ให้เราคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
หากมีคนมาชวนทำอะไร ให้เราขอเอกสารหลักฐานต่างๆ เก็บไว้เป็นระบบ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา หลักฐานเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการพิสูจน์ความจริงและใช้ดำเนินคดีได้ ไม่ว่าจะเป็นสัญญา ใบเสร็จ หรือแม้แต่บันทึกการสนทนา ให้เก็บรวบรวมไว้ให้ครบถ้วน
นอกจากการเก็บหลักฐานแล้ว เราควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้รู้ว่าการกระทำใดบ้างที่ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย และเราจะสามารถดำเนินคดีได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้เราป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
ปัญหาของการถูกหลอกและถูกโกงนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และมีรูปแบบที่พัฒนาไปตามยุคสมัย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีความซับซ้อนมากขึ้น
ในอดีต เราจะเห็นรูปแบบของการโกงที่เป็นการใช้ความรุนแรง เช่น การลัก วิ่ง ชิง ปล้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงงานและเสี่ยงต่อการถูกจับมากกว่า
แต่ในปัจจุบัน รูปแบบการโกงได้พัฒนาไปสู่การใช้ความแนบเนียน โดยอาศัยการปลอมแปลงเอกสาร การหลอกลวง หรือการขโมยข้อมูลมาใช้ประโยชน์ ซึ่งทำให้การจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น
ในยุคปัจจุบัน ทุกคนมีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อของการหลอกและการโกง ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม ดังนั้น การตั้งสติ การเก็บหลักฐาน และการศึกษากฎหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ การที่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันในการปรับปรุงกฎหมายและกลไกการบังคับใช้ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาการหลอกและการโกงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน เราต้องระมัดระวังและตั้งสติให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกและการโกง โดยการตั้งสติ เก็บหลักฐานอย่างเป็นระบบ และศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ยังต้องให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันในการปรับปรุงกฎหมายและกลไกการบังคับใช้ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพด้วย
ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live
การหลอกลวง การหลอกลงทุน หรือชักชวนลงทุน อะไรคือเส้นแบ่งของเรื่องนี้ กลโกงของมิจฉาชีพในยุคนี้มาหลากหลายรูปแบบ จนหลายคนอาจจะไม่รู้เท่าทัน การหลอกลงทุนมาในหลากหลายรูปแบบ เช่น การแอบอ้างชื่อผู้มีชื่อเสียงเพื่อชักชวนลงทุน การเปิดเพจชวนลงทุนผลตอบแทนสูง การทำธุรกิจที่ซ่อนเร้นในรูปแบบการขายตรง การหลอกว่าจะลงทุนโดยไม่มีโครงการลงทุนจริง รายการวันนี้จะชี้ช่องเสี่ยงถูกหลอก รู้ไว้ไม่ถูกโกง กับดร.วิทย์ สิทธิเวคิน และทนายอนุวัฒน์ งามประเสริฐกุล
เข้าสู่ยุคเศรษฐกิจติดบ้านกันแล้วนะครับ วันนี้พี่วิทย์จะมาคุยกันถึงเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ เรื่องของการถูกหลอกและถูกโกง ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะได้ยินกันบ่อยมากขึ้นในช่วงนี้
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน มีรูปแบบของการหลอกและการโกงที่ซับซ้อนมากขึ้น ทั้งการปลอมแปลงเอกสาร การขโมยข้อมูล หรือแม้แต่การสร้างเรื่องราวเท็จเพื่อล่อลวงให้เราลงทุน ซึ่งบางครั้งก็ดูเหมือนจะเป็นการให้เราเอง แต่ที่จริงแล้วก็คือการหลอกนั่นเอง
เมื่อมีคนมาชวนลงทุนหรือให้ทำอะไรบางอย่าง ให้เราตั้งสติและระวังอารมณ์ของตัวเองด้วย อย่าปล่อยให้ความโลภ ความรัก ความกลัว หรือความหลงลวงพาเราไปทำในสิ่งที่อาจจะเสี่ยงต่อการถูกหลอกได้ ให้เราคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
หากมีคนมาชวนทำอะไร ให้เราขอเอกสารหลักฐานต่างๆ เก็บไว้เป็นระบบ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา หลักฐานเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการพิสูจน์ความจริงและใช้ดำเนินคดีได้ ไม่ว่าจะเป็นสัญญา ใบเสร็จ หรือแม้แต่บันทึกการสนทนา ให้เก็บรวบรวมไว้ให้ครบถ้วน
นอกจากการเก็บหลักฐานแล้ว เราควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้รู้ว่าการกระทำใดบ้างที่ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย และเราจะสามารถดำเนินคดีได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้เราป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
ปัญหาของการถูกหลอกและถูกโกงนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และมีรูปแบบที่พัฒนาไปตามยุคสมัย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีความซับซ้อนมากขึ้น
ในอดีต เราจะเห็นรูปแบบของการโกงที่เป็นการใช้ความรุนแรง เช่น การลัก วิ่ง ชิง ปล้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงงานและเสี่ยงต่อการถูกจับมากกว่า
แต่ในปัจจุบัน รูปแบบการโกงได้พัฒนาไปสู่การใช้ความแนบเนียน โดยอาศัยการปลอมแปลงเอกสาร การหลอกลวง หรือการขโมยข้อมูลมาใช้ประโยชน์ ซึ่งทำให้การจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น
ในยุคปัจจุบัน ทุกคนมีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อของการหลอกและการโกง ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม ดังนั้น การตั้งสติ การเก็บหลักฐาน และการศึกษากฎหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ การที่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันในการปรับปรุงกฎหมายและกลไกการบังคับใช้ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาการหลอกและการโกงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน เราต้องระมัดระวังและตั้งสติให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกและการโกง โดยการตั้งสติ เก็บหลักฐานอย่างเป็นระบบ และศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ยังต้องให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันในการปรับปรุงกฎหมายและกลไกการบังคับใช้ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพด้วย
ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live