การบินไทยกลับมาเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้างอีกครั้ง จากกรณีที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งไม่รับแก้ไขแผนฟื้นฟูเกี่ยวกับข้อเสนอของกระทรวงการคลังเพิ่มผู้บริหารแผน 2 รายจากกระทรวง แต่บรรดาเจ้าหนี้ต่าง ๆ ก็ยังคงมีความกังวลเรื่องการส่งคนของทางภาครัฐเข้ามานั่งบอร์ดบริหาร เพราะอาจถูกผลักดันให้กลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้ง ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ชวนดร.นวทัศน์ ก้องสมุทร ภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาไขข้อข้องใจว่า ได้หรือเสีย หากการบินไทยอยู่ในมือรัฐ
ก่อนหน้านี้ การบินไทย เคยเป็นรัฐวิสาหกิจมายาวนานมาก แต่หลังจากช่วงโควิด-19 ก็มีการปรับตัวเข้าสู่แผนฟื้นฟู และบริหารงานแบบคล่องตัวมากขึ้น ตอนนี้จึงเหมือนกับเป็นบริษัทเอกชน แต่ก็ยังมีหลายคนสงสัยว่า จะกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้งหรือไม่
หลายคนกังวลว่าถ้าการบินไทยกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็อาจจะเกิดการเมืองเข้ามาแทรกแซงการบริหารงาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน ดังนั้นการรักษาสถานะเป็นเอกชนจึงเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง
ในอดีต การเมืองเคยเข้ามามีอิทธิพลต่อการบริหารงานของการบินไทย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ อาทิ
- การแทรกแซงในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีการสั่งซื้อเครื่องบินจำนวนมากเกินความจำเป็น เพื่อแบ่งผลประโยชน์กัน
- การแทรกแซงในกระบวนการคัดเลือกและแต่งตั้งผู้บริหาร ทำให้ได้คนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาทำงาน ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน
ดังนั้น หากกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงจากการแทรกแซงของการเมืองอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความสามารถในการแข่งขันของการบินไทย
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การบินไทย ได้รับการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ โดยทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งส่งผลให้เกิดความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากขึ้น อาทิ
- การเจรจาซื้อเครื่องบินใหม่จำนวนมากกับ Boeing ในเวลาอันรวดเร็ว
- การตัดสินใจที่รวดเร็วและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ดังนั้น เพื่อรักษาความเป็นเอกชนและป้องกันการแทรกแซงจากการเมือง การบินไทย ควรดำเนินการดังนี้
1. สร้างมาตรฐานการกำกับดูแลที่โปร่งใส โดยเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ
2. คัดเลือกคณะกรรมการที่มีความเป็นมืออาชีพ โดยไม่ให้มีการแทรกแซงจากภาครัฐ
3. ขยายธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจสายการบิน เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างรายได้เสริม
หากสามารถดำเนินการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้ การบินไทย รักษาความเป็นเอกชนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างยั่งยืน
ในช่วงที่ผ่านมา การบินไทย ได้ผ่านวิกฤตและปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเอกชนอย่างประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงจากการแทรกแซงของการเมือง หากกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ดังนั้น การรักษาความเป็นเอกชนและสร้างธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ การบินไทย สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนท่ามกลายการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการบินในยุคดิจิทัล
ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live
การบินไทยกลับมาเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้างอีกครั้ง จากกรณีที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งไม่รับแก้ไขแผนฟื้นฟูเกี่ยวกับข้อเสนอของกระทรวงการคลังเพิ่มผู้บริหารแผน 2 รายจากกระทรวง แต่บรรดาเจ้าหนี้ต่าง ๆ ก็ยังคงมีความกังวลเรื่องการส่งคนของทางภาครัฐเข้ามานั่งบอร์ดบริหาร เพราะอาจถูกผลักดันให้กลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้ง ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ชวนดร.นวทัศน์ ก้องสมุทร ภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาไขข้อข้องใจว่า ได้หรือเสีย หากการบินไทยอยู่ในมือรัฐ
ก่อนหน้านี้ การบินไทย เคยเป็นรัฐวิสาหกิจมายาวนานมาก แต่หลังจากช่วงโควิด-19 ก็มีการปรับตัวเข้าสู่แผนฟื้นฟู และบริหารงานแบบคล่องตัวมากขึ้น ตอนนี้จึงเหมือนกับเป็นบริษัทเอกชน แต่ก็ยังมีหลายคนสงสัยว่า จะกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้งหรือไม่
หลายคนกังวลว่าถ้าการบินไทยกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็อาจจะเกิดการเมืองเข้ามาแทรกแซงการบริหารงาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน ดังนั้นการรักษาสถานะเป็นเอกชนจึงเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง
ในอดีต การเมืองเคยเข้ามามีอิทธิพลต่อการบริหารงานของการบินไทย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ อาทิ
- การแทรกแซงในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีการสั่งซื้อเครื่องบินจำนวนมากเกินความจำเป็น เพื่อแบ่งผลประโยชน์กัน
- การแทรกแซงในกระบวนการคัดเลือกและแต่งตั้งผู้บริหาร ทำให้ได้คนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาทำงาน ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน
ดังนั้น หากกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงจากการแทรกแซงของการเมืองอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความสามารถในการแข่งขันของการบินไทย
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การบินไทย ได้รับการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ โดยทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งส่งผลให้เกิดความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากขึ้น อาทิ
- การเจรจาซื้อเครื่องบินใหม่จำนวนมากกับ Boeing ในเวลาอันรวดเร็ว
- การตัดสินใจที่รวดเร็วและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ดังนั้น เพื่อรักษาความเป็นเอกชนและป้องกันการแทรกแซงจากการเมือง การบินไทย ควรดำเนินการดังนี้
1. สร้างมาตรฐานการกำกับดูแลที่โปร่งใส โดยเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ
2. คัดเลือกคณะกรรมการที่มีความเป็นมืออาชีพ โดยไม่ให้มีการแทรกแซงจากภาครัฐ
3. ขยายธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจสายการบิน เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างรายได้เสริม
หากสามารถดำเนินการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้ การบินไทย รักษาความเป็นเอกชนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างยั่งยืน
ในช่วงที่ผ่านมา การบินไทย ได้ผ่านวิกฤตและปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเอกชนอย่างประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงจากการแทรกแซงของการเมือง หากกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ดังนั้น การรักษาความเป็นเอกชนและสร้างธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ การบินไทย สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนท่ามกลายการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการบินในยุคดิจิทัล
ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live