การเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV นั้น เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีรถเก่าที่ไม่สามารถหาอะไหล่ได้ง่ายหรือมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง แต่การแปลงรถนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ วันนี้ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน จะมาคุยว่า ดัดแปลงรถเก่าให้เป็นรถ EV มีความคุ้มค่าแค่ไหน ? กับคุณกฤษฎา ธีรศุภลักษณ์ จากช่อง Welldone Guarantee
การดัดแปลงรถจากเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นรถ EV นั้น ต้นทุนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของรถ ระยะทางที่ต้องการให้รถวิ่งได้ และชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการดัดแปลง โดยโดยเฉลี่ยแล้วต้นทุนจะอยู่ในช่วง 180,000 - 490,000 บาท
สำหรับรถขนาดเล็กที่ใช้งานเฉพาะกิจ เช่น การขับไปทำงาน หรือขับไปเจอเพื่อน ต้นทุนอาจอยู่ที่ประมาณ 180,000 บาท แต่ถ้าเป็นรถที่ต้องการใช้งานหนัก เช่น รถอุตสาหกรรมหรือรถบรรทุก ต้นทุนอาจสูงถึง 490,000 บาท
1. ลดค่าใช้จ่ายในการเดินรถ: การใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานแทนน้ำมันจะช่วยลดค่าเชื้อเพลิงลงได้มาก โดยเฉพาะสำหรับรถอุตสาหกรรมที่มีการใช้น้ำมันสูง
2. ลดการปล่อยมลพิษ: รถ EV ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
3. อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น: มอเตอร์ไฟฟ้ามีส่วนประกอบน้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
4. ปรับแต่งได้ตามต้องการ: การดัดแปลงรถให้เป็น EV ทำให้สามารถปรับแต่งระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับการใช้งานได้
1. ต้นทุนสูง: ต้นทุนในการดัดแปลงรถให้เป็น EV ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจคุ้มค่าสำหรับรถอุตสาหกรรมที่ใช้งานหนัก แต่อาจไม่คุ้มสำหรับรถใช้งานทั่วไป
2. จำกัดระยะทาง: ขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่ที่ติดตั้ง รถ EV อาจมีระยะทางการขับขี่ที่จำกัด ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการขับขี่ระยะไกล
3. ความยุ่งยากในการบำรุงรักษา: การบำรุงรักษารถ EV จำเป็นต้องใช้ช่างที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิต ซึ่งอาจไม่สะดวกเท่ากับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
4. ความปลอดภัย: แบตเตอรี่ของรถ EV อาจมีความเสี่ยงในการระเบิดหรือเกิดอันตรายได้ หากไม่ได้รับการติดตั้งและดูแลอย่างถูกต้อง
การตัดสินใจเปลี่ยนรถเป็น EV ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของแต่ละบุคคล หากเป็นรถอุตสาหกรรมที่ใช้งานหนัก และต้องการลดค่าใช้จ่ายในการเดินรถ การแปลงรถเป็น EV อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
แต่สำหรับรถใช้งานทั่วไป หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน การซื้อรถ EV ใหม่อาจจะเหมาะสมกว่า เพราะจะได้รับการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดีกว่า
ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจควรพิจารณาถึงความต้องการใช้งานและต้นทุนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้รถที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่าการลงทุน
https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101/episodes/103105
https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101/episodes/99814
ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live
การเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV นั้น เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีรถเก่าที่ไม่สามารถหาอะไหล่ได้ง่ายหรือมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง แต่การแปลงรถนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ วันนี้ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน จะมาคุยว่า ดัดแปลงรถเก่าให้เป็นรถ EV มีความคุ้มค่าแค่ไหน ? กับคุณกฤษฎา ธีรศุภลักษณ์ จากช่อง Welldone Guarantee
การดัดแปลงรถจากเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นรถ EV นั้น ต้นทุนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของรถ ระยะทางที่ต้องการให้รถวิ่งได้ และชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการดัดแปลง โดยโดยเฉลี่ยแล้วต้นทุนจะอยู่ในช่วง 180,000 - 490,000 บาท
สำหรับรถขนาดเล็กที่ใช้งานเฉพาะกิจ เช่น การขับไปทำงาน หรือขับไปเจอเพื่อน ต้นทุนอาจอยู่ที่ประมาณ 180,000 บาท แต่ถ้าเป็นรถที่ต้องการใช้งานหนัก เช่น รถอุตสาหกรรมหรือรถบรรทุก ต้นทุนอาจสูงถึง 490,000 บาท
1. ลดค่าใช้จ่ายในการเดินรถ: การใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานแทนน้ำมันจะช่วยลดค่าเชื้อเพลิงลงได้มาก โดยเฉพาะสำหรับรถอุตสาหกรรมที่มีการใช้น้ำมันสูง
2. ลดการปล่อยมลพิษ: รถ EV ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
3. อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น: มอเตอร์ไฟฟ้ามีส่วนประกอบน้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
4. ปรับแต่งได้ตามต้องการ: การดัดแปลงรถให้เป็น EV ทำให้สามารถปรับแต่งระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับการใช้งานได้
1. ต้นทุนสูง: ต้นทุนในการดัดแปลงรถให้เป็น EV ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจคุ้มค่าสำหรับรถอุตสาหกรรมที่ใช้งานหนัก แต่อาจไม่คุ้มสำหรับรถใช้งานทั่วไป
2. จำกัดระยะทาง: ขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่ที่ติดตั้ง รถ EV อาจมีระยะทางการขับขี่ที่จำกัด ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการขับขี่ระยะไกล
3. ความยุ่งยากในการบำรุงรักษา: การบำรุงรักษารถ EV จำเป็นต้องใช้ช่างที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิต ซึ่งอาจไม่สะดวกเท่ากับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
4. ความปลอดภัย: แบตเตอรี่ของรถ EV อาจมีความเสี่ยงในการระเบิดหรือเกิดอันตรายได้ หากไม่ได้รับการติดตั้งและดูแลอย่างถูกต้อง
การตัดสินใจเปลี่ยนรถเป็น EV ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของแต่ละบุคคล หากเป็นรถอุตสาหกรรมที่ใช้งานหนัก และต้องการลดค่าใช้จ่ายในการเดินรถ การแปลงรถเป็น EV อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
แต่สำหรับรถใช้งานทั่วไป หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน การซื้อรถ EV ใหม่อาจจะเหมาะสมกว่า เพราะจะได้รับการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดีกว่า
ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจควรพิจารณาถึงความต้องการใช้งานและต้นทุนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้รถที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่าการลงทุน
https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101/episodes/103105
https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101/episodes/99814
ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live