ในช่วงที่ค่าเงินเยนอ่อน เมื่อเทียบกับเงินบาทไทย หลายคนคิดว่าการเดินทางไป เที่ยวญี่ปุ่น จะสบายกระเป๋ากว่าแต่ก่อน แต่จริงแล้วมันเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่? ในบทความนี้เราจะมาสำรวจสาเหตุและปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป ญี่ปุ่น เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ
ในช่วงที่ผ่านมา เราได้เห็นว่าค่าเงินเยน มีการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเงินบาทไทย โดยจากข้อมูลของ Google Finance พบว่า 1 บาท สามารถแลกได้ถึง 4 เยน ซึ่งมากกว่าสมัยก่อนที่ 1 บาท จะแลกได้เพียง 3 เยนเท่านั้น การที่ค่าเงินเยน อ่อนค่าลงนี้ทำให้หลายคนมองว่าการเดินทางไปญี่ปุ่นจะมีค่าใช้จ่ายถูกลงแต่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาสินค้าและบริการในญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลง เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ หรือที่เรียกว่า "ผู้นำเข้าสุทธิของพลังงาน" เมื่อค่าเงินเยนอ่อนค่าลง ทำให้ต้นทุนในการซื้อพลังงานจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ผู้ประกอบการในญี่ปุ่นจึงต้องมีการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการ เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังประสบปัญหาการขาดดุลการค้า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้เม็ดเงินจากการส่งออกลดลง ในขณะที่ต้องใช้จ่ายเงินเพื่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นอีกด้วย
จากข้อมูลของ nunmio.com พบว่า ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำประปา และแก๊ส ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 23% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าแม้ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลง แต่ต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นดันให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นตาม
จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปญี่ปุ่นอาจไม่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างที่คาดหวัง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่สูงขึ้นส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยรวมอาจไม่ได้ถูกลงมากนัก
ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นควรตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายที่อาจปรับตัวสูงขึ้นล่าสุด เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าสาธารณูปโภค เพื่อให้การวางแผนงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่าในการเดินทางไปญี่ปุ่น
https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101/watch/qSlAoG
https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101/episodes/101498
ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live
ในช่วงที่ค่าเงินเยนอ่อน เมื่อเทียบกับเงินบาทไทย หลายคนคิดว่าการเดินทางไป เที่ยวญี่ปุ่น จะสบายกระเป๋ากว่าแต่ก่อน แต่จริงแล้วมันเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่? ในบทความนี้เราจะมาสำรวจสาเหตุและปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป ญี่ปุ่น เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ
ในช่วงที่ผ่านมา เราได้เห็นว่าค่าเงินเยน มีการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเงินบาทไทย โดยจากข้อมูลของ Google Finance พบว่า 1 บาท สามารถแลกได้ถึง 4 เยน ซึ่งมากกว่าสมัยก่อนที่ 1 บาท จะแลกได้เพียง 3 เยนเท่านั้น การที่ค่าเงินเยน อ่อนค่าลงนี้ทำให้หลายคนมองว่าการเดินทางไปญี่ปุ่นจะมีค่าใช้จ่ายถูกลงแต่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาสินค้าและบริการในญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลง เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ หรือที่เรียกว่า "ผู้นำเข้าสุทธิของพลังงาน" เมื่อค่าเงินเยนอ่อนค่าลง ทำให้ต้นทุนในการซื้อพลังงานจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ผู้ประกอบการในญี่ปุ่นจึงต้องมีการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการ เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังประสบปัญหาการขาดดุลการค้า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้เม็ดเงินจากการส่งออกลดลง ในขณะที่ต้องใช้จ่ายเงินเพื่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นอีกด้วย
จากข้อมูลของ nunmio.com พบว่า ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำประปา และแก๊ส ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 23% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าแม้ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลง แต่ต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นดันให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นตาม
จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปญี่ปุ่นอาจไม่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างที่คาดหวัง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่สูงขึ้นส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยรวมอาจไม่ได้ถูกลงมากนัก
ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นควรตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายที่อาจปรับตัวสูงขึ้นล่าสุด เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าสาธารณูปโภค เพื่อให้การวางแผนงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่าในการเดินทางไปญี่ปุ่น
https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101/watch/qSlAoG
https://www.thaipbs.or.th/program/Economics101/episodes/101498
ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live