เปิดกล้องมาแล้ว 1 ปีเต็มสำหรับ "บุษบาลุยไฟ" ละครพีเรียดที่เตรียมลงจอทางไทยพีบีเอสต้นปี 2566 ตอนนี้การถ่ายทำคืบหน้าไปกว่า 80% เหลือฉากใหญ่ที่สุดอย่างซีน "สักรวาหน้าพระที่นั่ง" ที่ผู้จัดตั้งใจจะจำลองให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์มากที่สุด งานนี้นักแสดงเลยต้องทำการบ้านหนัก โดยเฉพาะ "เฌอปราง BNK48" ที่รับบทนางเอก
ไม่เพียงท่องกลอนสักวาได้ฉะฉาน หากยังต้องสื่อสารอารมณ์ผ่านน้ำเสียงให้ได้ด้วย เพื่อให้บทบาทของ "ลำจวน" หญิงสาวในสมัยรัชกาลที่ 3 ดูฉีกจากขนบของสตรีรัตนโกสินทร์ นี่คือการบ้านชิ้นใหญ่ที่ "เฌอปราง อารีย์กุล" ต้องตีให้แตกเพื่อให้ฉาก "สักรวาหน้าพระที่นั่ง" (สัก-กะ-วา-หน้า-พระ-ที่-นั่ง) ซีนที่ใหญ่ที่สุดของละครพีเรียดเรื่อง "บุษบาลุยไฟ" ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
นอกจากเส้นเรื่องของนางเอกที่น่าติดตามชม คือบทบาทของบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์อย่าง "คุณพุ่ม บุษบาท่าเรือจ้าง" ยอดกวีหญิงสมัยรัชกาลที่ 3 รับบทโดยผู้กำกับละครเวที "ครูบัว ภัทรสุดา อนุมานราชธน" และ "พระสุนทรโวหาร หรือ สุนทรภู่" ที่ได้ "ครูทอม คำไทย" หรือ "จักรกฤต โยมพยอม" เจ้าของแชมป์แฟนพันธุ์แท้สุนทรภู่มาสวมบทบาท การที่ละครเรื่องนี้ถ่ายทำมานานถึง 1 ปีเต็ม ตั้งแต่เปิดกล้องเมื่อพฤศจิกายน 2564 จนถึงตอนนี้ ก็ทำให้บรรดานักแสดงเข้าถึงตัวละครที่สวมบทบาทได้เป็นอย่างดี
เพราะเป็นละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ การถ่ายทำแต่ละฉากจึงต้องปราณีตตั้งแต่การเขียนบท, ภาษา และศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น งานนี้เลยต้องพึ่งประสบการณ์ของ "พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูต" ผู้กำกับละครระดับศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ผู้กำกับ นักแสดง) ปี 2553 ร่วมด้วยทีมงานคณะคีตศิลปิน จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร มาช่วยติวเข้ม ซึ่งความน่าสนใจในซีนนี้คือการเล่นสักวาเรื่องอิเหนา "ตอนไปใช้บน" ให้สนุกและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงอรรถรสของการชมสักวา ในแบบฉบับละครโทรทัศน์
ตอนนี้ "บุษบาลุยไฟ" ถ่ายทำเสร็จไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ฉากใหญ่ซีนนี้ ที่จะถ่ายทำในวันนี้ 15 พ.ย. 65 และซีนเก็บตกอีกเล็กน้อย ซึ่งพ่ออี๊ดบอกว่ากำลังเร่งขั้นตอนตัดต่อด้วย เพราะอยากจะลงจอไทยพีบีเอสภายในต้นปีหน้า
เปิดกล้องมาแล้ว 1 ปีเต็มสำหรับ "บุษบาลุยไฟ" ละครพีเรียดที่เตรียมลงจอทางไทยพีบีเอสต้นปี 2566 ตอนนี้การถ่ายทำคืบหน้าไปกว่า 80% เหลือฉากใหญ่ที่สุดอย่างซีน "สักรวาหน้าพระที่นั่ง" ที่ผู้จัดตั้งใจจะจำลองให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์มากที่สุด งานนี้นักแสดงเลยต้องทำการบ้านหนัก โดยเฉพาะ "เฌอปราง BNK48" ที่รับบทนางเอก
ไม่เพียงท่องกลอนสักวาได้ฉะฉาน หากยังต้องสื่อสารอารมณ์ผ่านน้ำเสียงให้ได้ด้วย เพื่อให้บทบาทของ "ลำจวน" หญิงสาวในสมัยรัชกาลที่ 3 ดูฉีกจากขนบของสตรีรัตนโกสินทร์ นี่คือการบ้านชิ้นใหญ่ที่ "เฌอปราง อารีย์กุล" ต้องตีให้แตกเพื่อให้ฉาก "สักรวาหน้าพระที่นั่ง" (สัก-กะ-วา-หน้า-พระ-ที่-นั่ง) ซีนที่ใหญ่ที่สุดของละครพีเรียดเรื่อง "บุษบาลุยไฟ" ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
นอกจากเส้นเรื่องของนางเอกที่น่าติดตามชม คือบทบาทของบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์อย่าง "คุณพุ่ม บุษบาท่าเรือจ้าง" ยอดกวีหญิงสมัยรัชกาลที่ 3 รับบทโดยผู้กำกับละครเวที "ครูบัว ภัทรสุดา อนุมานราชธน" และ "พระสุนทรโวหาร หรือ สุนทรภู่" ที่ได้ "ครูทอม คำไทย" หรือ "จักรกฤต โยมพยอม" เจ้าของแชมป์แฟนพันธุ์แท้สุนทรภู่มาสวมบทบาท การที่ละครเรื่องนี้ถ่ายทำมานานถึง 1 ปีเต็ม ตั้งแต่เปิดกล้องเมื่อพฤศจิกายน 2564 จนถึงตอนนี้ ก็ทำให้บรรดานักแสดงเข้าถึงตัวละครที่สวมบทบาทได้เป็นอย่างดี
เพราะเป็นละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ การถ่ายทำแต่ละฉากจึงต้องปราณีตตั้งแต่การเขียนบท, ภาษา และศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น งานนี้เลยต้องพึ่งประสบการณ์ของ "พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูต" ผู้กำกับละครระดับศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ผู้กำกับ นักแสดง) ปี 2553 ร่วมด้วยทีมงานคณะคีตศิลปิน จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร มาช่วยติวเข้ม ซึ่งความน่าสนใจในซีนนี้คือการเล่นสักวาเรื่องอิเหนา "ตอนไปใช้บน" ให้สนุกและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงอรรถรสของการชมสักวา ในแบบฉบับละครโทรทัศน์
ตอนนี้ "บุษบาลุยไฟ" ถ่ายทำเสร็จไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ฉากใหญ่ซีนนี้ ที่จะถ่ายทำในวันนี้ 15 พ.ย. 65 และซีนเก็บตกอีกเล็กน้อย ซึ่งพ่ออี๊ดบอกว่ากำลังเร่งขั้นตอนตัดต่อด้วย เพราะอยากจะลงจอไทยพีบีเอสภายในต้นปีหน้า