“ผมจำได้แค่ว่าล้ม ล้มอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ได้ยินเสียงขาฟาด คือขาขาดแล้วก็กระเด็น ส่วนขาอีกข้างกระดูกหัก 5 นิ้ว และตรงข้อศอกกระดูกก็โผล่ จำได้ประมาณ 10 – 20 วินาที ตอนที่เราอยู่ในน้ำ เสียงน้ำเข้าหู เหมือนเสียงแก้ว หลังจากนั้นก็ไม่มีสติอีกเลย” แจ็ค เฉลิมเดช น่วมอ่อน หนุ่มน้อยอายุ 18 ปี เล่าย้อนถึงเหตุการณที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา
“รู้แล้วว่า เราต้องรักษาชีวิตลูกเราไว้ หมอบอกว่าให้เวลาแค่ 6 ชั่วโมง ถ้าเกินจากนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อแล้วเสียชีวิตมีสูง” ผู้เป็นแม่เล่าเสริมถึงการตัดสินใจในทางเลือกที่ดีที่สุด คือ ชีวิตลูก แม้จะต้องสละขาหนึ่งข้างของลูกไป
“พอเขาประสบอุบัติเหตุแล้ว เราไปเจอเขา เราเห็นเขา เราก็เลยบอกว่า มาลองเล่นกีฬาไหม” ครูผู้ฝึกสอนกีฬาเล่าถึงเมื่อแรกเจอแจ็ค “เขาเหมาะกับการเล่นกีฬาพุ่งแหลน เห็นแล้วน่าจะเป็นอะไรที่ช่วยให้เขาดีขึ้น เขาเป็นคนที่มีจิตใจมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ ปรับตัวเองแล้วพัฒนาขึ้นมาเยอะ”
ชมย้อนหลังรายการ บ้าน-พลัง-ใจ ได้ทาง www.thaipbs.or.th/BaanPaLungJai
“ผมจำได้แค่ว่าล้ม ล้มอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ได้ยินเสียงขาฟาด คือขาขาดแล้วก็กระเด็น ส่วนขาอีกข้างกระดูกหัก 5 นิ้ว และตรงข้อศอกกระดูกก็โผล่ จำได้ประมาณ 10 – 20 วินาที ตอนที่เราอยู่ในน้ำ เสียงน้ำเข้าหู เหมือนเสียงแก้ว หลังจากนั้นก็ไม่มีสติอีกเลย” แจ็ค เฉลิมเดช น่วมอ่อน หนุ่มน้อยอายุ 18 ปี เล่าย้อนถึงเหตุการณที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา
“รู้แล้วว่า เราต้องรักษาชีวิตลูกเราไว้ หมอบอกว่าให้เวลาแค่ 6 ชั่วโมง ถ้าเกินจากนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อแล้วเสียชีวิตมีสูง” ผู้เป็นแม่เล่าเสริมถึงการตัดสินใจในทางเลือกที่ดีที่สุด คือ ชีวิตลูก แม้จะต้องสละขาหนึ่งข้างของลูกไป
“พอเขาประสบอุบัติเหตุแล้ว เราไปเจอเขา เราเห็นเขา เราก็เลยบอกว่า มาลองเล่นกีฬาไหม” ครูผู้ฝึกสอนกีฬาเล่าถึงเมื่อแรกเจอแจ็ค “เขาเหมาะกับการเล่นกีฬาพุ่งแหลน เห็นแล้วน่าจะเป็นอะไรที่ช่วยให้เขาดีขึ้น เขาเป็นคนที่มีจิตใจมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ ปรับตัวเองแล้วพัฒนาขึ้นมาเยอะ”
ชมย้อนหลังรายการ บ้าน-พลัง-ใจ ได้ทาง www.thaipbs.or.th/BaanPaLungJai