13 กิโลเมตร จากชายฝั่งทางใต้ของออสเตรเลีย เป็นที่ตั้งของ “เกาะแคงการู” (Kangaroo Island) พื้นที่ 1 ใน 4 ของเกาะนี้ ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครอง ทำให้ที่นี่ยังคงเต็มไปด้วยสัตว์ป่าพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ มองไปข้างถนนจะได้เจอกับ “จิงโจ้” สายพันธุ์เฉพาะ ซึ่งไม่พบบนแผ่นดินใหญ่ มีชื่อว่า “พันธุ์เกาะแคงการู” มองขึ้นไปบนต้นไม้ อาจจะได้พบกับ “โคอะลา” ที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ในป่าต้นยูคาลิปตัส เดินลงไปริมท่าน้ำ จะได้ส่องชีวิตอิสระของ “หงส์ดำ” กับ “นกพิลิแกน” ที่อาศัยอยู่ริมหมู่บ้านประมง หรือบางทีอาจจะเป็น “เจ้าสิงโตทะเลตัวอ้วน” ที่นอนอาบแดด กลิ้งเกลือกไปบนพื้น
นี่คือบ้านของพวกเขา เราในฐานะแขกที่เข้าไปเยือน ก็มีหน้าที่จะต้องเคารพเจ้าของบ้านอย่างดีที่สุด เพื่อให้ “เกาะแคงการู” ยังคงเป็นสถานที่ที่อบอุ่นน่าอยู่ สำหรับสัตว์เหล่านี้ต่อไป
13 กิโลเมตร จากชายฝั่งทางใต้ของออสเตรเลีย เป็นที่ตั้งของ “เกาะแคงการู” (Kangaroo Island) พื้นที่ 1 ใน 4 ของเกาะนี้ ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครอง ทำให้ที่นี่ยังคงเต็มไปด้วยสัตว์ป่าพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ มองไปข้างถนนจะได้เจอกับ “จิงโจ้” สายพันธุ์เฉพาะ ซึ่งไม่พบบนแผ่นดินใหญ่ มีชื่อว่า “พันธุ์เกาะแคงการู” มองขึ้นไปบนต้นไม้ อาจจะได้พบกับ “โคอะลา” ที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ในป่าต้นยูคาลิปตัส เดินลงไปริมท่าน้ำ จะได้ส่องชีวิตอิสระของ “หงส์ดำ” กับ “นกพิลิแกน” ที่อาศัยอยู่ริมหมู่บ้านประมง หรือบางทีอาจจะเป็น “เจ้าสิงโตทะเลตัวอ้วน” ที่นอนอาบแดด กลิ้งเกลือกไปบนพื้น
นี่คือบ้านของพวกเขา เราในฐานะแขกที่เข้าไปเยือน ก็มีหน้าที่จะต้องเคารพเจ้าของบ้านอย่างดีที่สุด เพื่อให้ “เกาะแคงการู” ยังคงเป็นสถานที่ที่อบอุ่นน่าอยู่ สำหรับสัตว์เหล่านี้ต่อไป