ใกล้เข้ามาแล้วกับมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2022 ที่เลื่อนมาจัดในปี 2023 นี้ จากหลากหลายกีฬาที่มีการจัดแข่งขันขึ้น กีฬาความหวังของไทยมีอะไรบ้าง Thai PBS ขอพาทุกคนไปดูเรื่องราวการต่อสู้ก่อนศึกเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ของเหล่านักกีฬาดาวเด่น กีฬาความหวังของทีมชาติไทยในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้

เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ส่งท้ายตำนานเทควันโดด้วยแชมป์

พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ
ส่งท้ายตำนานเทควันโดด้วยแชมป์

หลังจากประกาศศักดาคว้าแชมป์โอลิมปิกมาได้สำเร็จ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวไทยคนนี้ก็ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์อีกมากมาย ตั้งแต่แชมป์เอเชีย แชมป์ซีเกมส์ จนถึงแชมป์โลก กลายเป็นนักเทควันโดอันดับ 1 ของโลกในรุ่น 49 กก. หญิง มีสถิติไม่แพ้ติดต่อกันถึง 3 ปี ถึงตอนนี้อาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมในช่วงปี 2017 ทำให้เจ้าตัวเริ่มวางแผนการรีไทร์จากทีมชาติในโอลิมปิกปี 2024 ดังนั้นเอเชียนเกมส์ 2022 นี้ ความหวังเหรียญทองของเธอจึงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เพื่อจะเป็นการสั่งลารวมถึงป้องกันแชมป์ในนามทีมชาติระดับเอเชียของเธอ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
-รายการ กว่าจะโต Special ตอน ครอบครัววงศ์พัฒนกิจ

กุลวุฒิ วิทิตศานต์
สานต่อความสำเร็จแชมป์โลกคนล่าสุดของไทย

นาทีนี้หากให้นึกถึงนักกีฬาดาวรุ่งพุ่งแรงคงหนีไม่พ้น วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จากความสำเร็จสูงสุดในการคว้าแชมป์ในศึกเวิลด์ แชมเปียนชิพส์ 2023 หรือรายการแชมป์โลกแบดมินตันมาได้สำเร็จ ส่งผลให้เขาสร้างประวัติศาสตร์ เป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์โลกแบดมินตันประเภทชายเดี่ยวมาครอง

ที่ผ่านมา เจ้าตัวถือเป็นมือตบลูกขนไก่ที่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นต่อเนื่อง นับจากก้าวขึ้นมาติด 10 อันดับแรกของโลกเมื่อปี 2022 ก็สามารถคว้าแชมป์และเข้าถึงรอบลึก ๆ ในการแข่งขันรายการใหญ่ได้หลายรายการติดต่อกัน ส่วนผลงานในนามทีมชาติไทย วิว-กุลวุฒิเริ่มนับหนึ่งเหรียญทองได้สำเร็จจากการแข่งขันซีเกมส์ 2021 ที่ผ่านมา และในเอเชียนเกมส์ 2022 นี้ จะเป็นอีกเวทีที่สานต่อความสำเร็จ โดยล่าสุดเว็บไซต์โอลิมปิกได้คัดเลือกให้เขาติดโผ 10 นักกีฬาที่น่าจับตามองในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งนี้อีกด้วย

ภูริพล บุญสอน สร้างชื่อเจ้าลมกรดแห่งเอเชียอย่างแท้จริง

ภูริพล บุญสอน
สร้างชื่อเจ้าลมกรดแห่งเอเชียอย่างแท้จริง

ด้วยอายุเพียง 17 ย่าง 18 ปี แต่กลับสร้างผลงานได้เหนือความคาดหมาย จากจุดเริ่มการสร้างชื่อด้วยการทำลายสถิติในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ด้วยการสร้างสถิติวิ่ง 100 เมตร และ 200 เมตร ด้วยเวลา 10.19 วินาที และ 20.57 วินาที จนเป็นที่มาของฉายา “เทพบิว” แซงโค้งติดทีมชาติไปลุยศึกซีเกมส์ 2021 และวิ่งล่าคว้าเหรียญรางวัลมาได้ถึง 3 เหรียญทอง ในการวิ่ง 100 เมตร 200 เมตร และวิ่งผลัด 4x100 เมตร

“เทพบิว” ยังสานต่อความสำเร็จด้วยผลงาน “เร็วสุดในเอเชีย” จากการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก ซึ่งแม้จะพลาดเหรียญไป เพราะวิ่งจบในอันดับ 4 แต่ก็ทำสถิติเร็วที่สุดของนักวิ่งในทวีปเอเชีย ต่อมาในซีเกมส์ 2023 เขาต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บระหว่างการแข่งขันในรอบชิงเหรียญทองจากการวิ่ง 200 เมตร ส่งผลให้ต้องออกจากการแข่งขันกรีฑาทั้งหมด ดังนั้นการกลับมาในเอเชียนเกมส์ 2022 ที่จะถึงนี้ จึงเป็นการกลับมาครั้งสำคัญ และกลับมาเพื่อขึ้นครองตำแหน่งเจ้าความเร็วแห่งเอเชียอย่างแท้จริง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
-เปิดประวัติ "บิว ภูริพล" ลมกรดดาวรุ่งไทยวัย 16 ปี ขวัญใจชาวไทย

ชัชชุอร โมกศรี ก้าวที่ยังไม่เคยไปถึงของวอลเลย์บอลหญิงไทย

ชัชชุอร โมกศรี
ก้าวที่ยังไม่เคยไปถึงของวอลเลย์บอลหญิงไทย

นับจากทีมวอลเลย์หญิงไทยพัฒนาขึ้นมาอย่างโดดเด่นในยุคที่เรียกกันว่า “7 เซียน” งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อทีมต้องผลัดใบให้นักกีฬารุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทน แล้วผลงานเริ่มโดดเด่นขึ้นก็ทำให้สหพันธ์วอลเล่ย์บอลนานาชาติ หรือ FIVB ได้ตั้งฉายาทีมชาติไทยชุดปัจจุบันว่า ‘The Magnificent Se7en’ หรือ ‘7 เซียนยุคใหม่’ โดย 1 ใน 7 เซียนที่น่าจับตาก็คือ “บุ๋บบิ๋ม-ชัชชุอร โมกศรี” ที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม

มือตบหัวเสาคนนี้มีความสามารถรอบด้าน ทั้งบล็อก ตบ และรับลูก ติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 16 ปี ในชุดเยาวชน ก่อนขึ้นมาเป็นกำลังหลักในทีมชาติชุดใหญ่ เจ้าตัวมีผลงานเด่นมาอย่างต่อเนื่องนับจากคว้าแชมป์วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2017 และ 2018 ร่วมกับสโมสรสุพรีม ชลบุรี-อี.เทค โดยได้ตำแหน่ง “ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม”

ขณะที่ในนามทีมชาติ เธอก็มีส่วนกับการคว้าเหรียญทองซีเกมส์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2015 – 2023 ล่าสุดก็ถือเป็นผู้เล่นสำคัญที่ช่วยทีมคว้าแชมป์เอเชียมาได้สำเร็จ โดยได้รับรางวัล MVP หรือผู้เล่นทรงคุณค่าประจำการแข่งขันดังกล่าวมาครอง ส่วนในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2022 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ถือเป็นอีกบททดสอบสำคัญเพื่อต่อยอดความสำเร็จจากเอเชียนเกมส์ครั้งก่อนที่ได้เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศมาแล้ว เพื่อเป็นก้าวต่อไปที่วอลเลย์บอลหญิงไทยยังไม่เคยไปถึงมาก่อน

พรชัย เค้าแก้ว ราชาหน้าตาข่าย ตำนานตัวฟาดอันดับ 1

พรชัย เค้าแก้ว
ราชาหน้าตาข่าย ตำนานตัวฟาดอันดับ 1

ตำนานที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในสนาม แม้จะอายุเข้าเลข 4 แล้ว แต่ยังคงเป็นตัวหลักของทีมชาติไทย ผลงานของเขาโดดเด่นยาวนานมาตั้งแต่ติดทีมชาติลุยศึกเอเชียนเกมส์ 2002 ที่เกาหลีใต้ เขามีส่วนสำคัญให้เซปักตะกร้อทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองมาตลอดจนถึงเอเชียนเกมส์ 2018 ทำให้เขาเป็นเจ้าของสถิตินักตะกร้อที่คว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ให้กับประเทศไทยได้มากที่สุดถึง 10 เหรียญทอง ตลอดเอเชียนเกมส์ 5 ครั้งที่เข้าร่วม โดยถัดจากเขาจะมี “โจ้หลังเท้า” สืบศักดิ์ ผันสืบ และสุริยัน เป๊ะชาญ ที่ได้ 7 เหรียญทองเท่ากัน

เอเชียนเกมส์ 2022 ที่จะถึงนี้ พรชัยยังคงมีไฟในการเดินหน้าทำสถิติเหรียญทองที่ 11 และ 12 ต่อไป และหากร่างกายยังพร้อมขึ้นฟาดลูกตะกร้อที่หน้าตาข่าย เขาก็ยังคงพร้อมที่จะสานต่อตำนานในเอเชียนเกมส์ครั้งถัดไป

ความหวังของทีมชาติไทยในเอเชียนเกมส์ 2022 ที่จะจัดขึ้นในปี 2023 นี้ ยังมีกีฬาอีกหลากหลายประเภทให้ชาวไทยได้ตามลุ้นเอาใจช่วย โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) คาดหวังเหรียญไว้มากกว่า 11 เหรียญทอง และอาจมีลุ้นถึง 20 เหรียญ โดยมีกีฬาเด่นอื่น ๆ เช่น มวยสากล ยิงปืน เรือพาย เรือใบ กีฬาเอ็กซ์ตรีม กาบัดดี้ และอีสปอร์ต

นอกจากนี้ ยังมีกีฬาน่าสนใจที่มีลุ้นคว้าเหรียญติดมือกลับมาอีก อาทิ ขี่ม้า ยูยิตสู คูราช วูซู วินด์เซิร์ฟ จักรยาน รักบี้ ยูโด บาสเกตบอล แฮนด์บอล เทนนิส ซอฟส์เทนนิส คริกเก็ต สควอซ ว่ายน้ำ คาราเต้ รวมถึงลีลาศ แฟนกีฬาชาวไทยต้องส่งแรงใจช่วยกันอย่างเต็มที่ สามารถติดตามข่าวสาร อัปเดตผลการแข่งขัน โปรแกรมการแข่งขันทีมชาติไทยในเอเชียนเกมส์ได้ทาง www.thaipbs.or.th/AsianGames2022

อ่านบทความเอเชียนเกมส์อื่น ๆ
-โปรแกรมถ่ายทอดสด การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2022 ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. – 8 ต.ค.66
-รวม 11 มาสคอตเอเชียนเกมส์ สีสันของเกมส์กีฬา สัญลักษณ์สะท้อนยุคสมัย
-รวมเรื่องราวน่ารู้เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19
-เปิดผลงานทัพนักกีฬาไทยในเอเชียนเกมส์

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

5 ดาวเด่นกีฬาความหวังทีมชาติไทยในเอเชียนเกมส์ 2022