ขณะนี้ทั่วโลกกำลังสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบเริ่มใช้เงินสดกันลดน้อยลง ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งกระแสนโยบาย “แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” ของพรรคเพื่อไทย ที่จะใช้จ่ายผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” (Digital Wallet) สร้างความปลอดภัยให้ธุรกรรมการเงินด้วยเทคโนโลยี “บล็อกเชน” ยิ่งทำให้ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” เป็นที่สนใจของคนไทยมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ Thai PBS Sci & Tech จึงขอพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “Digital Wallet” การใช้จ่ายผ่านมือถือ อินเทรนด์สังคมไร้เงินสด ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย
อธิบาย Digital Wallet คืออะไร ? ให้กระจ่าง
“กระเป๋าเงินดิจิทัล” คือหนึ่งในเครื่องมือหรือตัวกลางเข้ามาทำหน้าที่แทนกระเป๋าเงินจริง โดยการโอนเงินสดเข้ามาไว้ใน Digital Wallet ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินแบบใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา โดยนำเอาระบบดิจิทัลมาปรับใช้ เพื่อบันทึกข้อมูลช่องทางการชำระเงินเอาไว้บนสมาร์ตโฟน เช่น บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต เมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายเงินก็สามารถหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาสแกนได้ทันที จากนั้นระบบจะทำการตัดเงินในบัญชีที่ผูกไว้ตามจำนวน แล้วมีการส่งใบเสร็จเข้ามือถือของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เพื่อบันทึกรายการจ่ายเอาไว้ และร้านค้าเองก็จะบันทึกข้อมูลของลูกค้าเอาไว้เช่นกัน
“Digital Wallet” โดยทั่วไป ใช้สำหรับอะไรบ้าง
ทั้งนี้ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” มีการใช้งานที่หลากหลาย เช่น
- การชำระเงินที่ร้านค้าแบบไม่ต้องจ่ายเงินสด
- ชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ต่าง ๆ
- ใช้สำหรับช้อปปิงอีคอมเมิร์ซ
- ธุรกรรมข้ามพรมแดน
- โอนให้เพื่อนและครอบครัว
- รับเงินเดือน
ทำความเข้าใจระหว่าง “กระเป๋าเงินดิจิทัล” กับ “เงินดิจิทัล”
ด้วยความที่ 2 คำนี้มีความหมายคล้ายกัน จึงขออธิบายให้เข้าใจดังนี้ สำหรับ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” เปรียบเทียบได้กับกระเป๋าเงินที่ใช้เก็บเงินสด รวมทั้งข้าวของอื่น ๆ เช่น บัตรต่าง ๆ ดังนั้น Digital Wallet ก็คือ แอปพลิเคชันบนมือถือ-ซอฟต์แวร์บนเว็บไซต์ที่เราสามารถฝากเงินดิจิทัลเข้าบัญชี ส่วน “เงินดิจิทัล” ก็คือการนำเงินสดไปเปลี่ยนเป็นเงินดิจิทัล เพื่อโอนเข้า “กระเป๋าเงินดิจิทัล” นั่นเอง
เทคโนโลยี “บล็อกเชน” เข้ามามีบทบาทอย่างไร ?
สำหรับ “บล็อกเชน” เป็นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบกระจายศูนย์ ไม่ต้องมีตัวกลาง ไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ก้าวข้ามจุดอ่อนของฐานข้อมูลแบบเดิม ๆ หรือแบบรวมศูนย์ที่ต้องอาศัยตัวกลางรวมศูนย์ข้อมูล ไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ เพราะมีการเก็บไว้หลายสำเนา
ดังนั้นการนำเทคโนโลยี “บล็อกเชน” มาใช้กับ “Digital Wallet” จะทำให้เกิดความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงิน เช่น การออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถปลอมแปลงได้ การบันทึกธุรกรรมมีความปลอดภัย ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ
📌อ่านบทความ บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร ?
ใครจะเป็น “ผู้ให้บริการกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล” ต้องได้รับใบอนุญาตก่อน
ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือนิติบุคคล ที่ต้องการเป็น “ผู้ให้บริการกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล” สำหรับรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) โดยต้องทำตามข้อกำหนด-หลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อการเก็บการรักษาทรัพย์สินเป็นไปอย่างมีมาตรฐานที่ดี-มีความปลอดภัย ป้องกันการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเครื่องมือการกระทำความผิดนั่นเอง
ในอนาคตเทรนด์สังคมไร้เงินสด จะยิ่งมาแรงกว่านี้ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” (Digital Wallet) คืออีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้จ่าย ซึ่งกำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เราควรรู้จักเอาไว้เพื่อตามเทคโนโลยีให้ทัน
-------------------------
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.), สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)