เบื้องหลัง "บุษบาลุยไฟ"
4 ปี กับการพัฒนาละครให้ทุกฉากในสมัยรัชกาล 3 สมจริงที่สุด

ละครอิงประวัติศาสตร์เรื่อง "บุษบาลุยไฟ" ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15-21.10 น. ทางไทยพีบีเอส เป็นละครที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสตรีผู้มีความคิดมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว นามว่า “ลำจวน” นำแสดงโดย เฌอปราง BNK48 ซึ่งเรื่องราวในละครได้พาคุณผู้ชมย้อนกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่ขณะนั้นผู้หญิงไม่ได้รับโอกาสให้ร่ำเรียนเขียนหนังสือและยังถูกสังคมคาดหวังให้เป็นช้างเท้าหลังเดินตามบุรุษ การปฏิเสธเส้นทางชีวิตเดิม ๆ ที่ครอบครัวและสังคมขีดไว้ จึงเป็นที่มาของเรื่องราวที่เข้มข้นในละคร “บุษบาลุยไฟ” ที่ผู้ชมต่างเอาใจช่วยให้ “ลำจวน” ผ่านพ้นอุปสรรค สามารถยืนหยัดในความฝัน และแสดงให้เห็นศักยภาพของสตรีที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

บุษบาลุยไฟ

หลังจากละครออกอากาศไปตั้งแต่ตอนแรก มีแฟนละครหลายคนชื่นชมเรื่องบทประพันธ์ เรื่องความสมจริงของฉากในวัดวาอาราม และการแต่งกายของตัวละคร ที่ย้อนกลับไปให้เห็นบทบริบทของผู้คนและบ้านเมืองในสมัยรัชกาลที่ 3 เปิดบ้านไทยพีบีเอสจึงอยากชวนคุณผู้ชมมาติดตามเบื้องหลังการผลิตละครเรื่อง “บุษบาลุยไฟ” ที่ต้องบอกว่าทีมงานใช้เวลานานกว่า 4 ปี เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวเมื่อ 200 ปีก่อนให้ใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์มากที่สุด

คุณโสภาพักตร์ กันศรีเวียง ผู้ควบคุมและดูแลการผลิตละครไทยพีบีเอสเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นละครเรื่อง“บุษบาลุยไฟ”-"ทุก ๆ ปีไทยพีบีเอสจะวางแผนผลิตละครย้อนยุคอยู่แล้ว ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คุณวิลาสินี พิพิธกุล แนะนำให้ทีมงานศึกษาเรื่องราวในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ทีมงานจึงได้ปรึกษากับคุณทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์ เจ้าของนามปากกา “ปราณประมูล” ผู้เขียนบทละคร “ปลายจวัก” ซึ่งในเวลานั้นหาละครที่ใช้อ้างอิงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ยากมาก คุณทิพย์ธิดาจึงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับครูบาอาจารย์ด้านจิตรกรรมสมัยนั้น อย่างเรื่องของครูคงแป๊ะ ครูทองอยู่ แล้วนำมาผูกเรื่องราว จนทำให้ไทยพีบีเอสสนใจอยากทำละครที่เรียกว่า “Big Period” ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยรัชกาลที่ 3 และมีความร่วมสมัยด้วย"

กว่าจะมาเป็นละครเรื่องบุษบาลุยไฟนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมงานและทีมข้อมูลทำการบ้านกันอย่างหนัก โดยใช้ระยะเวลานานกว่า 4 ปี เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงในรัชกาลที่ 3 มากที่สุด คุณโสภาพักตร์เ ล่าให้ฟังต่อถึงการให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดเพื่อให้ละครสมจริง- "บุษบาลุยไฟ" ใช้เวลารวบรวมข้อมูลและทำงานนานกว่า 4 ปี กว่าจะได้ออกสู่สายตาคุณผู้ชมละครของไทยพีบีเอสทุกเรื่อง ข้อมูลจะเข้มข้นพอสมควร เริ่มตั้งแต่เขียนบทละคร ทีมเขียนบทจะมีทีมทำข้อมูล ซึ่งจะทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่ไทยพีบีเอสเชิญมาเป็นที่ปรึกษา หรือในขั้นตอนตัดต่อ (Post-Production) เราจะมีที่ปรึกษาอีกทีมหนึ่งเพื่อ ตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งประกอบไปด้วยนักนาฏยกรรม นักจิตรกรรม นักวรรณกรรม รวมทั้งครูบาอาจารย์อีกหลาย ๆ ส่วน เข้ามาช่วยให้ความเห็นในแต่ละตอนแต่ละฉากของละคร ซึ่งเราจะประมวลความเห็นทั้งหมดส่งต่อไปยังผู้ผลิตเพื่อปรับแก้ไข เรียกได้ว่า double-check กันหลายส่วน เรื่องของบทละคร ข้อมูลจะมาเรื่อย ๆ พอได้ข้อมูลใหม่ คุณทิพย์ธิดา ผู้เขียนบท ก็จะอัพเดทและแก้ไขไปเรื่อย ๆ ถามว่ามีความผิดพลาดไหม มีแน่นอน แต่ทุก ๆ ความผิดพลาดถ้ามีคนติงเราก็ต้องเช็กก่อนว่าผิดพลาดจริงไหม ถ้าจริงก็น้อมรับและนำไปพัฒนาต่อไป เพราะสื่อสาธารณะคือการหาความรู้และให้อะไรกับคนดู แต่ถ้าคนดูรู้ยิ่งกว่า สื่อสาธารณะก็พร้อมที่จะพัฒนาไปด้วย คนอื่นจะได้รู้มากขึ้นไปด้วย เพราะฉะนั้น เราไม่เคยที่จะหยุดพัฒนา"

บุษบาลุยไฟ

ทีมงานขอทิ้งท้าย ฝากถึงแฟน ๆ ละคร Thai PBS

คุณโสภาพักตร์กล่าวทิ้งท้ายถึงผู้ชมเพิ่มเติมด้วยว่า- "ในอนาคตไทยพีบีเอสจะผลิตละครที่มีเนื้อหาหลากหลายเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำ สะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละภูมิภาคด้วย เพราะเราไม่ได้เน้นแค่เรื่องของคนในเมืองหลวง ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการทำข้อมูลอยู่ ไทยพีบีเอสพยายามตั้งใจที่จะทำออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพัฒนาตามคำแนะนำต่อไปเรื่อย ๆ เพราะละครของ Thai PBS ทำหน้าที่ให้ความบันเทิง ให้ความรู้ และให้สติปัญญารวมทั้งแง่คิดและมุมมองต่าง ๆ ด้วย บางเรื่องจะมีประเด็นวิพากษ์ที่ให้คนดูเกิดการถกเถียงกัน เพราะทุกคำติ-ชมเป็นกำลังใจและแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้ไทยพีบีเอสอยากจะสร้างสรรค์งานละครเรื่องต่อ ๆ ไป ทีมงานขอน้อมรับด้วยความเต็มใจและยินดีเป็นอย่างมากที่ละครของเราทำให้ผู้ชมและแฟน ๆ อิ่มเอมและเพลิดเพลิน

บุษบาลุยไฟ

เบื้องหลัง "บุษบาลุยไฟ" 4 ปี กับการพัฒนาละครให้ทุกฉากในสมัยรัชกาล 3 สมจริงที่สุด

ทีมงานขอทิ้งท้าย ฝากถึงแฟน ๆ ละคร Thai PBS

เบื้องหลัง "บุษบาลุยไฟ"
4 ปี กับการพัฒนาละครให้ทุกฉากในสมัยรัชกาล 3 สมจริงที่สุด

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

เบื้องหลัง "บุษบาลุยไฟ"