“เร็กเก้” ถือเป็นอีกหนึ่งแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยมีศิลปินมากมาย ที่หลงใหลในแนวดนตรีเร็กเก้ ในรายการ นักผจญเพลง Replay ได้เชิญ “จ๊อบ บรรจบ” รวมไปถึง “เอก ชลขจร” สองศิลปินเร็กเก้ที่โดดเด่นในเมืองไทย

ทั้งคู่ได้มาแชร์เรื่องราวการเดินทางกับเพลงที่พวกเขารัก ในตอนที่มีชื่อว่า “จ๊อบ บรรจบ X เอก Deep O Sea Reggae is all around” ซึ่งเรื่องราวความหลงใหลในเพลงเร็กเก้ของพวกเขานั้น อาจทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักแนวดนตรีนี้เลยก็ว่าได้

จ๊อบ บรรจบ และ เอก Deep O Sea

ชวนรู้จักแนวดนตรีเร็กเก้

ในรายการนักผจญเพลง Replay จ๊อบได้เล่าว่า “รากของเร็กเก้” คือ แนวคิดอิสระและการปล่อยวาง อยากให้โลกนี้มีความเสมอภาค ไม่มีสงคราม ดนตรีเป็นเหมือนจังหวะหัวใจ ซึ่งจ๊อบที่เติบโตมากับเพลงสากล ได้มารู้จักเพลงเร็กเก้ที่มีความแปลกใหม่ ทั้งสำเนียงการร้องที่มีความเหน่อแบบชัดเจน และมีดนตรีไม่ซับซ้อน จนเขามองว่าเป็นดนตรีที่มาจากหัวใจจริง ๆ เป็นเพลงที่มีพลังในแง่บวกที่สื่อถึงความปล่อยวาง

จ๊อบยังอธิบายความแตกต่างของแนวดนตรีเร็กเก้ และ สกา ที่หลายคนมักเข้าใจว่าเป็นแนวเพลงเดียวกันไว้อีกว่า เร็กเก้เป็นแนวดนตรีแอฟริกันผสมกับแนวร็อก มีจังหวะที่ไม่เร็วนัก ในขณะที่ดนตรีสกา เป็นเพลงที่มีจังหวะเร็วกว่า

จ๊อบ บรรจบ ศิลปินเร็กเก้

ส่วน เอก Deep O Sea ได้เล่าว่าตนเองนั้นพยายามลองไปเล่นแนวเพลงอื่น ๆ มาแล้ว แต่สุดท้ายก็วนกลับมาเล่นแนวเพลงเร็กเก้ ซึ่งเขาถือว่าเป็นเพลงที่เหมาะที่สุดในการเล่าเรื่องความรักและสันติภาพ เป็นสิ่งที่เขาอยากเล่าผ่านเพลง และทุกวันนี้เขาก็มีความสุขกับการฟังเพลงแนวเร็กเก้ รวมไปถึงรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้ฟัง

เอก Deep O Sea เจ้าของเพลงในตำนาน "เกาะสมุย"

ความท้าทายในการนำเสนอเพลงเร็กเก้ในวงการเพลงไทย

ในวันที่ จ๊อบ บรรจบ เริ่มเข้ามาในวงการเพลงเร็กเก้ ช่วง 4-5 ปีแรก เขาได้ทำผลงานออกมาแต่ไม่ค่อยมีคนสนใจมากนัก เพราะหลายคนยังคงไม่เข้าใจแนวดนตรี ทำให้จ๊อบต้องไปเล่นดนตรีอยู่โซนต่างจังหวัด ก่อนจะมาดังกับเพลง “ดูเธอทำ” ในที่สุด ซึ่งต่างจากในยุคของ เอก Deep O Sea อย่างชัดเจน

เอก Deep O Sea เล่าว่า ในยุคที่เขาเริ่มทำเพลงในปี พ.ศ. 2552 การนำเสนอเพลงเร็กเก้ให้คนฟังง่ายขึ้น เพราะยุคดังกล่าวมีโซเชียลมีเดียแล้ว อีกทั้งแนวดนตรีเร็กเก้ก็มีเล่นตามสถานบันเทิงบ้างพอสมควร โดยวง Deep O Sea ประสบความสำเร็จจากเพลง “เกาะสมุย” ที่พวกเขาทำแบบไม่มีค่าย แต่ก็ได้สื่อสังคมออนไลน์ ช่วยทำให้ผลงานเพลงเป็นที่รู้จักมากขึ้น เอกเผยว่า รุ่นพี่อย่างจ๊อบก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้คนรู้จักแนวดนตรีเร็กเก้มากขึ้นอีกด้วย

นอกจากพูดถึงเอกลักษณ์ของดนตรีเร็กเก้แล้ว เอกและจ๊อบยังได้เล่าถึงกลุ่มแฟนเพลงอย่างน่าสนใจ โดยจ๊อบได้แชร์เรื่องราวว่า คนฟังเพลงเร็กเก้เป็นคนชอบความสบาย ๆ ส่วนตัวของเอกก็มองว่าคนที่ชอบเร็กเก้เป็นคนที่รักอิสระ และยังเล่าว่าประเทศไทยเองก็มีงานคอนเสิร์ตเร็กเก้หลายงาน ที่สร้างความประทับใจให้กับพวกเขาด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีมากที่ในวันนี้ศิลปินเร็กเก้มีพื้นที่แสดงออกถึงสิ่งที่พวกเขารัก พร้อมได้รับกำลังใจจากแฟนเพลงที่รักพวกเขาอย่างล้นหลาม

บทสรุป

ด้วยความที่เพลงเร็กเก้นั้นเต็มไปด้วยพลังบวก และในขณะเดียวกันยังสามารถเล่าเรื่องราวจรรโลงใจ รวมไปถึงการปล่อยวางได้เป็นอย่างดี ทำให้แนวเพลงนี้กลายเป็นที่รักของคนทั่วโลกรวมถึงคนไทย จนทำให้วันนี้กลุ่มคนฟังเติบโตจนทำให้ศิลปินเร็กเก้สามารถทำในสิ่งที่พวกเขารัก ซึ่งตัวของศิลปินอย่าง จ๊อบ บรรจบ และ เอก Deep O Sea ยืนยันว่าพวกเขาจะไม่เลิกเล่นดนตรีเร็กเก้อย่างแน่นอน

ติดตามชมรายการ "นักผจญเพลง Replay" ได้ทุกวันเสาร์ 21.30 น. ทาง #ThaiPBS #ช่องหมายเลข3 หรือชมสดทาง https://www.thaipbs.or.th/live และชมย้อนหลังทางเว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th/program/SongHunterTV

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

เสน่ห์ของ “เร็กเก้” ดนตรีแห่งการปล่อยวาง