ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตรุษจีน สายสัมพันธ์ที่ห่างเหิน ยุคสมัย ปัญหาระหว่างวัย การให้ความสำคัญ


Lifestyle

28 ม.ค. 68

คมสัน ประมูลมาก

Logo Thai PBS
แชร์

ตรุษจีน สายสัมพันธ์ที่ห่างเหิน ยุคสมัย ปัญหาระหว่างวัย การให้ความสำคัญ

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2204

ตรุษจีน สายสัมพันธ์ที่ห่างเหิน ยุคสมัย ปัญหาระหว่างวัย การให้ความสำคัญ
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

เสียงรัวกลองจากคณะเชิดสิงโตลอยดังมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงประทัดนับพันดอกที่ถูกทยอยจุดอย่างต่อเนื่อง ร้านรวงข้างทางต่างประดับประดาไปด้วยโคมไฟสีแดง ครอบครัวพร้อมหน้าบนโต๊ะอาหารด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม พร้อมเอ่ยคำ “ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้” ให้แก่กัน ความสุขถูกปกคลุมไปทั่วบริเวณอีกครั้งในเทศกาลตรุษจีน

ตรุษจีน เทศกาลและประเพณีที่สำคัญที่สุดของชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นเทศกาลเชื่อมสายสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้แน่นแฟ้นผ่านการพบหน้ากันพร้อมเพรียงในหมู่เครือญาติ พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบในรอบปีที่ผ่านมา ห่างไกลแค่ไหนก็จะกลับมาพบกันให้ได้ในวันที่สำคัญที่สุดของครอบครัว แต่ในยุคสมัยนี้จิตวิญญาณแห่งตรุษจีนกำลังเริ่มเสื่อมมนต์ขลัง การให้ความสำคัญกำลังลดน้อยลงผันแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ความสุขที่เคยมีกำลังค่อยๆ จางหายไปทีละน้อย

ตรุษจีน วันกลับบ้าน วันของครอบครัว

กล่าวกันว่าชาวจีนเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน หรือ ชุนเจี๋ย (เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ) กันมาตั้งแต่ 3,500 ปีที่แล้ว โดยเป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่อย่างเรียบง่ายด้วยการบูชาเทพเจ้าขอพรให้พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ และกราบไหว้บรรพบุรุษรำลึกถึงคนในครอบครัวผู้จากไป แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปรูปแบบการใช้ชีวิต และการทำงานได้ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ผู้คนเริ่มห่างไกลจากบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ เทศกาลที่เกิดจากความเชื่อจึงเกี่ยวโยงต่อเนื่องไปถึงการเชื่อมสายสัมพันธ์ ตรุษจีนจึงกลายเป็นวันที่จะได้กลับบ้านเพื่อพบปะกับครอบครัว ใช้เวลาร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา จนมีคำพูดติดปากของคนจีนที่ว่า “จะมีหรือจน ก็ต้องกลับบ้านฉลองปีใหม่”

สายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน (ภาพจาก Thai PBS Media Stock)

ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน พอถึงวันตรุษจีนลูกหลานมักจะเดินทางไปพบปะกับญาติผู้ใหญ่ นั่งล้อมวงอย่างพร้อมเพรียงร่วมวงกินข้าวให้อากงอาม่าได้ชื่นใจ ส่วนบรรดาญาติๆ ก็จะปรับทุกข์บำรุงสุขจากสาระพันเรื่องราวในรอบปีที่ผ่านมา ปิดท้ายด้วยการมอบอั่งเปาเงินสดในซองสีแดงไฮไลต์ที่ทุกคนเฝ้ารอ ตรุษจีนจึงเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่จะได้พักผ่อนหย่อนใจให้หายเหนื่อยพร้อมกันกับคนในครอบครัว

วันเวลาเปลี่ยน เจเนอเรชั่นเปลี่ยน สายสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยนตาม

ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ตรุษจีนก็เช่นเดียวกัน เมื่อปีที่ผ่านมา BBC สำนักข่าวชื่อดังจากประเทศอังกฤษได้จัดทำบทความที่มีชื่อว่า The Chinese millennials shunning Lunar New Year travel หรือ คนจีนในยุคมิลเลนเนียล (Gen Y) หลีกเลี่ยงการเดินทางกลับบ้านในช่วงตรุษจีน ซึ่งบทความชิ้นนี้เกิดมาจากการวิเคราะห์ผลสำรวจของ Mafengwo (หม่าฟงวอ) แฟลตฟอร์มท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศจีน ที่ได้สำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่าง Gen Y ในหัวข้อ การไปเที่ยวคนเดียวในช่วงตรุษจีนไม่ได้เป็นการเป็นการทำให้ครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน 

จากผลสำรวจดังกล่าว BBC ได้แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในครอบครัวคนจีนยุคใหม่ว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการกลับบ้านอย่างที่เคยเป็นมา สืบเนื่องมาจากประชากร Gen Y ของจีนเป็นกลุ่มประชากรที่ได้รับการศึกษาสูง มีความคิดเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง จึงไม่ได้ยึดติดกับธรรมเนียมประเพณีต่างๆ คนที่มีครอบครัวอยู่แล้วก็อยากที่จะใช้เวลาพักผ่อนไปกับครอบครัวของตนเองเสียมากกว่า คนที่ยังโสดก็มองในเรื่องของความประหยัด ความไม่จำเป็นในการเสียเวลา เสียค่าเดินทาง รวมไปถึงความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องคอยตอบคำถามกับบรรดาเครือญาติ ว่าทำไมถึงยังไม่มีแฟน ไม่แต่งงาน ไม่สร้างครอบครัว ส่วนคนที่ยังคงเดินทางกลับบ้านในช่วงตรุษจีน บางส่วนก็มองว่าเป็นการกลับไปเพื่อรักษาหน้า นอกจากนี้การมอบเงินให้กับพ่อแม่ หรือมอบอั่งเปาให้กับพี่น้องก็เป็นการสร้างความลำบากใจ และความกดดัน เพราะลำพังตนเองก็มีเงินใช้จ่ายไม่เพียงพออยู่แล้ว สืบเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจของจีนที่กำลังอยู่ในช่วงซบเซานั่นเอง

BBC สรุปให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกำลังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของสถาบันครอบครัวชาวจีน ความอบอุ่นที่เคยมีกำลังจะลดลง ถูกแทนที่ด้วยความห่างเหินที่กำลังจะเพิ่มระยะห่างให้มีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว และอาจกระทบต่อเนื่องไปสู่คนในรุ่นถัดไปอย่าง Gen Z ที่มีความเห็นในเรื่องนี้ไม่ต่างไปจาก Gen Y รวมไปถึงปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่ต้องเผชิญกันอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

ตรุษจีน กับคนไทย ความสัมพันธ์ยังคงแน่นแฟ้นอยู่หรือไม่ ?

บรรยากาศเทศกาลตรุษจีน (ภาพจาก Thai PBS Media Stock)

มองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ตรุษจีนยังเป็นเทศกาลที่สามารถคงบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง สร้างความคึกคักได้เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในประเทศไทยมีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้รับการสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีจากรุ่นสู่รุ่น แต่ในภาพรวมแล้วอาจต้องมองให้ตรงกันก่อนว่าเทศกาลตรุษจีนในบ้านเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเดินทางกลับภูมิลำเนามากเท่ากับประเทศจีน การเดินทางกลับบ้านมักจะเกิดขึ้นกับเทศกาลสงกรานต์เสียมากกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามการให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้ยังคงเป็นคำถามที่น่าสนใจ ซึ่งผลสำรวจของนอร์ทกรุงเทพโพลเรื่องเทศกาลตรุษจีนเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ได้ชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้น

ข้อมูลจากผลสำรวจได้ระบุว่าความสำคัญของเทศกาลตรุษจีนลดน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ กว่า 22 % ให้ความสำคัญน้อย และกว่า 33% ให้ความสำคัญค่อนข้างน้อย ซึ่งเมื่อรวมตัวเลขจากทั้ง 2 คำตอบเข้าด้วยกัน จะพบว่าผู้ถูกสอบถามเกินกว่า 50% ให้ความสำคัญกับเทศกาลตรุษจีนน้อยลง แม้จะเป็นกลุ่มตัวอย่างแต่ก็พอจะอนุมานได้ว่า เทศกาลตรุษจีนไม่ได้มีความสำคัญเท่าแต่ก่อน ส่วนถ้าจะมองในด้านความสัมพันธ์สิ่งที่เราสามารถเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นมีความห่างเหินกันมากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุสำคัญน่าจะเป็นเรื่อง Generation Gap ความต่างระหว่างวัย ทำให้รูปแบบความเข้าใจทางด้านการสื่อสารจึงแตกต่างกัน การรวมญาติในวันตรุษจีนในบางครอบครัวจึงไม่ต่างอะไรกับการปะทะกันทางความคิดระหว่างช่วงวัย

Baby Boomer และ Gen X สองวัยนี้จะมาจากยุคที่ครอบครัวมีความใกล้ชิดกัน การถามไถ่เรื่องส่วนตัว การเรียน การทำงาน ชีวิตคู่ เป็นการแสดงถึงความห่วงใยที่มีให้กัน เป็นการส่งความปรารถนาดีให้กับผู้สนทนา นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่กว่าจึงรู้สึกว่ามีหน้าที่ต้องให้คำแนะนำ หรือให้ความช่วยเหลือคนรุ่นหลัง ซึ่งเป็นรูปแบบความคิดที่ตรงกันข้ามกับ Generation ถัดมาอย่างสิ้นเชิง เพราะ Gen Y และ Gen Z เป็นวัยที่เติบโตมากับความอิสระทางความคิด ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เคยเป็นมา ใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ จึงทำให้มองว่าการพูดคุยด้วยคำถามที่เป็นเรื่องส่วนตัวถือเป็นการละลาบละล้วงมากกว่าความห่วงใย คำแนะนำในฐานะผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนไม่สามารถใช้ได้ในยุคสมัยนี้เพราะต่างบริบทกัน ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้วันของครอบครัวจึงกลายเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง หรือพยายามหาทางรับมือในยามที่ต้องพบปะกับเครือญาติ เราจึงได้เห็นบทความในหัวข้อเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นบนโลกโซเชียล อาทิเช่น ตรุษจีน อย่าวีนแตก วิธีรับมือคำถามปวดใจวันรวมญาติ, รวมคำถามจี้จุด วันรวมญาติ เทศกาลตรุษจีน, รวมญาติวันตรุษจีนยังไงไม่ให้เสียสุขภาพจิต, พ่อแม่เอเชีย และความหวังดีอันแสนซับซ้อน

ความสุขบนโต๊ะอาหารที่สร้างขึ้นจากความเข้าใจกันและกัน (ภาพจาก Thai PBS Media Stock)

แก้ไขได้หรือไม่ ? ปรับอย่างไร ให้เกิดความเข้าใจระหว่างวัยที่ตรงกัน

วัฒนธรรม ประเพณี ยังคงเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอไม่ว่าในยุคสมัยใด ตรุษจีนก็เช่นเดียวกันยังคงเป็นสิ่งที่สมควรได้รับการสืบทอด โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างวัยให้แน่นแฟ้น ดังนั้นสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย จึงน่าจะเป็นเรื่องการปรับรูปแบบความคิดในแต่ละช่วงวัยให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น Baby Boomer และ Gen X ต้องหลีกเลี่ยงคำถามที่กระทบกระเทือนต่อความรู้สึกและจิตใจ ไม่ใช้คำถามที่ดูไม่ให้เกียรติหรือละลาบละล้วงมากเกินไป ใช้ความห่วงใยในการพูดคุยมากกว่าการถามเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ ส่วน Gen Y และ Gen Z ก็ต้องเข้าใจว่าคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่แสดงถึงความห่วงใย เกิดมาจากความต้องการที่อยากพูดคุยกับลูกหลาน เพราะไม่ได้พบหน้ากันมานาน เพียงแต่เลือกใช้คำถามที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นเมื่อเจอกับคำถามที่ขัดใจ อาจใช้คำตอบในเชิงติดตลกเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศในการพูดคุย ในท้ายที่สุดแล้วเมื่อทุกอย่างถูกปรับให้เข้าใจกันมากขึ้น การให้ความสำคัญก็จะกลับคืนมาเพราะบรรยากาศแห่งความสุขย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนแสวงหา ส่งผลให้เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ก็จะไม่จางหายไปในวันตรุษจีน

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ตรุษจีน 2568ความสัมพันธ์เทศกาลตรุษจีนปัญหาครอบครัว
คมสัน ประมูลมาก
ผู้เขียน: คมสัน ประมูลมาก

นักดื่มกาแฟที่เขียนบทความได้นิดหน่อย

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด