Thai PBS Verify พบภาพของอุโมงค์ขนาดใหญ่และโครงกระดูกของสัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ กำลังได้รับความสนใจจากผู้ชมเพจเฟซบุ๊ก "The Secret Chamber" โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า อุโมงค์ที่ขุดโดยสลอธยักษ์ในบราซิลเมื่อกว่า 10,000 ปีที่แล้ว ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวถือว่ามีผู้ให้ความสนใจมากกว่า 3,400 คน และแชร์ข้อมูลไปถึง 124 ครั้งด้วยกัน

แหล่งที่มา : Facebook

ภาพบันทึกหน้าจอเพจเฟซบุ๊ก The Secret Chamber โพสต์ภาพอุโมงค์ขนาดใหญ่และโครงกระดูกของสัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งมีขนาดยักษ์

เพจเฟซบุ๊ก The Secret Chamber ได้มีการอธิบายว่า อุโมงค์ที่ขุดโดยสลอธยักษ์ในบราซิลเมื่อกว่า 10,000 ปีที่แล้ว

รู้จักกันในชื่อ Paleoburrows อุโมงค์ขนาดมหึมาเหล่านี้ สามารถวัดได้ยาวถึง 2,000 ฟุต และสูงกว่าหกฟุต เชื่อกันว่าอุโมงค์ของบราซิลถูกสร้างขึ้นโดยสลอธดินขนาดยักษ์

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ศาสตราจารย์ไฮน์ริช แฟรงก์ แห่งมหาวิทยาลัยริโอ กำลังขับรถผ่านสถานที่ก่อสร้างแห่งหนึ่ง แล้วมีบางอย่างสะดุดตาเขา มีหลุมประหลาดที่เผยให้เห็นโดยรถขุดของไซต์ และแฟรงก์สงสัยว่ามันนำไปสู่ที่ใด

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เขาก็กลับเข้าไปในหลุม เมื่อคลานลงไปตามช่องยาว 15 ฟุต เขาสังเกตเห็นรอยกรงเล็บบนเพดานถ้ำ จากความเชี่ยวชาญของเขา เขารู้ว่า ไม่มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติใดที่จะสร้างถ้ำที่มีลักษณะเฉพาะเหล่านั้นได้ และต้องมีสัตว์ขนาดใหญ่สร้างถ้ำขึ้นมา

สัตว์ชนิดนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าเมกาเธอเรียม ซึ่งเป็นสกุลของสลอธกราวด์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้

กระบวนการตรวจสอบ

การค้นหาภาพย้อนหลังและการค้นหาด้วยคำสำคัญทางกูเกิล Thai PBS Verify พบว่า ข้อมูลดังกล่าวถูกนำเสนอเว็บไซต์ในต่างประเทศมาก่อน โดยเว็บไซต์ "extinct animals" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ที่สูญพันธุ์ ได้ลงข้อมูลของสัตว์ชนิดดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 โดยระบุว่า โครงกระดูกดังกล่าวเป็นของสัตว์ซึ่งมีชื่อว่า "เมกาเทอเรียม" หรือ สลอธพื้นดินยักษ์ เป็นสกุลของสลอธพื้นดินขนาดเท่าแรด (ต่างจากสลอธต้นไม้จิ๋วในปัจจุบัน) ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้และอพยพและแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีปอเมริกาเหนือ เมกาเทอเรียม ถือเป็นสัตว์กินพืชขนาดใหญ่และมีขนยาว มีชีวิตอยู่มาประมาณ 5.3 ล้านปี และสูญพันธุ์ไปเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อน

ภาพบันทึกเว็บไซต์ extinct animals นำเสนอบทความ เมกาเทอเรียม หรือ สลอธพื้นดินยักษ์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565

ประวัติศาสตร์และการค้นพบ

ในปี พ.ศ. 2339 (ค.ศ. 1796) ฟอสซิลแรกของเมกาเทอเรียม ( Megatherium americanum ) ถูกค้นพบโดยนักกายวิภาคชาวฝรั่งเศส จอร์จ คูวิเยร์ "บิดาแห่งบรรพชีวินวิทยา" ซึ่งถือว่าเมกาเทอเรียมเป็นสลอธโบราณชนิดหนึ่ง

ฟอสซิลที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบมีอายุเมื่อ 5.4 ล้านปีก่อน อย่างไรก็ตาม ฟอสซิลสายพันธุ์ Megatherium americanum ได้วิวัฒนาการขึ้นมาในเวลาต่อมามาก ในช่วงยุคไพลสโตซีน ซึ่งมีอายุประมาณ 1.8 ล้านปี

ตามที่พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐอิลลินอยส์ระบุ ฟอสซิลจำนวนมากของสายพันธุ์ต่าง ๆ ของ Megatherium ได้รับการขุดพบจากแหล่งต่าง ๆ อย่างน้อย 150 แห่งทั่วอเมริกาเหนือ

ลักษณะทางกายภาพ

สัตว์ยักษ์เหล่านี้อาศัยอยู่บนบกและมีลักษณะทางกายภาพที่เหมาะกับวิถีชีวิตที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน ซึ่งแตกต่างจากสลอธต้นไม้ขนาดเล็ก 6 สายพันธุ์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือ สลอธเหล่านี้เป็นบรรพบุรุษของสลอธในปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งมีน้ำหนักน้อยกว่า 20 ปอนด์ พวกมันมีกะโหลกศีรษะที่แคบและต่ำ โดยมีเนื้อสมองเพียงเล็กน้อย

ภาพโครงกระดูกของ เมกาเทอเรียม หรือ สลอธพื้นดินยักษ์ จากเว็บไซต์ extinct animals

โดยในบรรดาสปีชีส์ทั้งหมด Megalonyx jeffersonii เป็นสปีชีส์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าวัวโตเต็มวัย ในขณะที่ Megatherium americanum เป็นสปีชีส์ประเภทเดียวกัน พวกมันมีขาสั้นและแขนยาว โดยลำตัวทั้งหมดปกคลุมด้วยขนสีเหลือง กะโหลกศีรษะทื่อ และมีฟันเรียงเป็นแถว ซึ่งเหมาะสำหรับเคี้ยวใบไม้และพืช มีกรงเล็บขนาดใหญ่ ทั้งสำหรับป้องกันตัวและสำหรับดึงกิ่งไม้ลงมา อาจมีลิ้นยาวเหมือนสลอธในปัจจุบันเพื่อช่วยในการกินอาหาร

การสูญพันธุ์

สาเหตุที่แน่ชัดของการหายไปของพวกมันยังไม่เป็นที่ทราบ อย่างไรก็ตาม มนุษย์เป็นสัตว์ร่วมสมัยกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ และเชื่อกันว่าเป็นศัตรูและผู้ล่าหลักของพวกมัน และมีส่วนต่อการสูญพันธุ์ของพวกมันเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อน ด้วยการล่าพวกมันเพื่อเป็นอาหาร

ภาพจากโพสต์ดังกล่าว ยังถูกแชร์ทางเว็บไซต์อื่น ๆ อีกด้วย เช่นที่ นี่ และ นี่

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

ตรวจสอบพบ : สลอธ ที่ตัวใหญ่กว่ามนุษย์ มีชีวิตเมื่อ 10,000 ปีที่แล้ว