ชวนแฟนเพลงค่าย “คีตา Records” มาย้อนเวลาและความทรงจำอีกครั้ง ในรายการนักผจญเพลง REPLAY กับตอนที่มีชื่อว่า “ศิษย์เก่าเมาท์คีตา” ที่ได้พบกับ “ยุ้ย-ปัทมวรรณ นิยม” หนึ่งในศิลปินจากค่ายคีตา Records ที่ปัจจุบันนี้หลายคนอาจจะเห็นบทบาทของเธอในฐานะนักแสดงเป็นหลัก

นอกจากการย้อนความทรงจำไปกับเรื่องราวของ ยุ้ย ปัทมวรรณ สมัยอยู่ค่ายคีตา Records แล้ว เรายังได้ทราบเรื่องราวที่เชื่อว่าหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน อย่างที่มาของเพลง “รู้แล้วจะหนาว” ซึ่งมาจากสิ่งที่ตัวยุ้ยทำเป็นประจำ และค่ายได้ใช้เป็นแนวคิดในการสร้างผลงาน แล้วก็ประสบความสำเร็จในที่สุด

ยุ้ย ปัทมวรรณ

จุดเริ่มต้นของ ยุ้ย ปัทมวรรณ ในวงการเพลง

ยุ้ย ปัทมวรรณ เป็นศิลปินที่เข้ามาช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่าง คีตา Records สู่ค่ายคีตา Entertainment ในยุคไล่เลี่ยกับศิลปินเดี่ยวอย่าง ฮันนี่-ภัสสร บุณยเกียรติ, นีโน่-เมทนี บุรณศิริ และวงมะลิลา บราซิลเลี่ยน

ซึ่งเส้นทางการเป็นศิลปินของเธอนั้น เริ่มต้นจากตอนที่เธอเข้ามาเป็นนักแสดง ก่อนที่ทางค่ายคีตา Records จะติดต่อยุ้ยเข้ามาเป็นศิลปิน ซึ่งยุ้ยเล่าว่า ในอดีตเธอชื่นชอบ อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนและศิลปินในค่ายเดียวกันเป็นอย่างมาก จนทำให้การตัดสินใจรับโอกาสในวันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอเลย

และเมื่อเข้ามาอยู่ในค่ายคีตา Records ทางต้นสังกัดได้นำตัวตนของเธอที่พวกเขาสัมผัสได้นั้น มาทำเป็นผลงานเพลง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของทางค่ายในเวลานั้น เพราะศิลปินหลาย ๆ ท่านของค่ายนั้นมีภาพลักษณ์ที่จดจำง่าย และมีเพลงฮิตประจำตัวที่มาจากความตั้งใจของทีมงานในการสร้างสรรค์แต่ละผลงานให้ออกมาดีที่สุด

การเคี้ยวน้ำแข็งที่กลายเป็นเพลงฮิตและชื่อคอนเสิร์ต

รู้แล้วจะหนาว อัลบั้มชุดแรกของ ยุ้ย ปัทมวรรณ (ขอบคุณภาพจาก Facebook : KITA Entertainment)

สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับการเก็บรายละเอียดของทีมงานก็คือเพลง “รู้แล้วจะหนาว” ของยุ้ย ปัทมวรรณมีที่มาจากการชอบเคี้ยวน้ำแข็ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เธอชอบทำ โดยทางค่ายได้นำพฤติกรรมเหล่านั้นมาต่อยอด จึงทำให้ได้ผลงานเพลงฮิตที่แฟนเพลงคุ้นเคย และยังนำมาใช้ชื่อคอนเสิร์ตจุดเยือกแข็ง ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเธอ ถือได้ว่าเป็นการต่อยอดจากนิสัย จนกลายเป็นภาพจำแรกของยุ้ยในความทรงจำแฟนเพลง

นอกจากตัวเพลงแล้ว ทางค่ายคีตา Records ยังได้ดึงภาพจำการแต่งตัวของศิลปิน จากบุคลิกและการแต่งกายในชีวิตประจำวันของเธอเองด้วย โดยยุ้ยเล่าว่า ได้ใส่กางเกงยีนส์เพราะทางค่ายวางภาพให้เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้หวานมากนัก และนั่นก็เป็นทั้งภาพจำของแฟนเพลง และเป็นการแต่งตัวที่ตัวเธอเองมองว่าเหมาะสมกับบุคลิกของเธออีกด้วย โดยวันที่ถ่ายรายการนักผจญเพลง Replay เธอก็มาในลุคชุดยีนส์ที่เป็นภาพจำจากอัลบั้มแรก ซึ่งเป็นอีกเครื่องยืนยันว่าทางค่ายพยายามหาสิ่งที่เหมาะสมให้กับศิลปินจริง ๆ

ที-สเกิ๊ต อีกหนึ่งวงที่ภาพลักษณ์โดดเด่นตรงกับตัวตนของสมาชิก

วง T-SKIRT ศิลปินกลุ่มที่มีภาพลักษณ์เป็นเอกลักษณ์ของค่าย คีตา Records (ขอบคุณภาพจาก Facebook : KITA Entertainment)

นอกจากนี้ในรายการนักผจญเพลง Replay ตอน “ศิษย์เก่าเมาท์คีตา” ยังได้สมาชิกจากวง T-SKIRT ที่ประกอบไปด้วย มาร์-อัสมา กฮาร์, จอย-ดวงพร สนธิขันธ์ และ กิ๊ฟ-ธิติยา นพพงษากิจ ที่พวกเขาก็มาร่วมยืนยันว่าบุคลิกสดใสของ T-SKIRT นั้นก็มาจากตัวตนจริง ๆ ของพวกเธอที่ค่ายให้พวกเธอเป็นนั่นเอง

บทสรุป

นอกจากการพัฒนาฝีมือศิลปินในสังกัดแล้ว สิ่งที่ค่ายเพลงต้องใส่ใจก็คือการสร้างภาพจำให้กับศิลปิน ซึ่งค่ายคีตา Entertainment ได้พิสูจน์ว่าการสร้างทั้งสองอย่างจากตัวตนของศิลปินจริง ๆ ทำให้ศิลปินประสบความสำเร็จ และเมื่อเวลาผ่านไปไม่ว่าจะกี่ปี ภาพเหล่านั้นก็ยังคงเป็นที่จดจำของแฟนเพลงตลอดกาล

สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานของค่ายเพลงคีตา Records สามารถติดตามเรื่องราวของค่ายนี้ในมุมที่หลายคนไม่เคยรู้ พร้อมย้อนฟังเพลงในความทรงจำได้ทาง YouTube Thai PBS และชมรายการย้อนหลังของตอนนี้ได้ทาง https://www.thaipbs.or.th/program/SongHunterTV/episodes/89205

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

จากตัวตนสู่การแจ้งเกิดศิลปินในค่ายคีตา