สำหรับคำว่า “น้ำตาจระเข้” แปลมาจากสำนวนในภาษาอังกฤษว่า “Crocodile tears” นั้น มาจากการที่พบว่า เมื่อจระเข้งับเหยื่อ มันจะมีน้ำตาไหลออกมาด้วย ซึ่งอาจทำให้หลายคนเข้าใจว่าจระเข้กำลังสงสารเหยื่อ แต่เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดจึงจำใจต้องกิน ส่วนในภาษาไทยนั้น “น้ำตาจระเข้” เป็นสำนวนสุภาษิต หมายถึง ความทุกข์โศกของผู้มีอำนาจที่ไม่อาจแสดงออกมาให้ใครเห็น
น้ำตาจระเข้ตอนงับเหยื่อ ข้อเท็จจริงคือ
จระเข้จะมีต่อมน้ำตา (lachrymal glands) ทำหน้าที่สร้างน้ำตา ออกมาหล่อลื่นดวงตา เหมือนกับมนุษย์ ต่างกันตรงที่น้ำตาของจระเข้ ไม่ได้สัมพันธ์กับความรู้สึกใด ๆ เลย
ดังนั้น การที่จระเข้งับกินเหยื่อไม่ได้แปลว่าพวกมันโศกเศร้า แล้วทำไมจระเข้ถึงร้องไห้เวลากินเหยื่อล่ะ ?
คำตอบก็คือ
การหลั่ง “น้ำตาจระเข้” เกิดจากการที่จระเข้ขยับขากรรไกร ขณะที่งับเหยื่ออย่างรวดเร็ว ทำให้เส้นประสาทที่รับความรู้สึกบนหน้าและควบคุมการเคลื่อนไหวบริเวณนั้น ไปกระตุ้นต่อมน้ำตา ให้หลั่งน้ำตาออกมา ซึ่งเป็นธรรมชาติของจระเข้นั่นเอง
จระเข้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยมี 3 ชนิด คือ จระเขน้ำจืด (Crocodylus siamensis), จระเข้น้ำเค็ม (Crocodylus porosus) และตะโขง (Tomistoma schlegelii) ทั้ง 3 ชนิด ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน สำหรับจระเข้น้ำจืดและจระเข้น้ำเค็ม เป็นสัตว์ป่าชนิดที่อนุญาตให้เพาะพันธุ์ได้
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : pubmed.ncbi, สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า Wildlife Conservation Office, Thailand
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech