นักวิจัยสหรัฐฯ พัฒนาวัสดุปลูกพืชแบบใหม่ โดยใช้เศษแก้วรีไซเคิลแบบบดละเอียดมาใช้ในการปลูกพืช เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูก ซึ่งให้ผลลัพธ์ได้ดีไม่ต่างจากการใช้ดินปลูกพืชโดยทั่วไป
ในยุคที่ประชากรโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว การค้นหาวิธีการเกษตรที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องจำเป็น หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังได้รับความสนใจคือการใช้ “แก้วรีไซเคิล” แทนดินในกระบวนการปลูกพืช การทดลองล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอเรกอน (Oregon State University) ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าแก้วที่ถูกบดละเอียดสามารถใช้เป็นวัสดุปลูกพืชที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีไม่แพ้การปลูกในดินทั่วไป นวัตกรรมนี้ช่วยเพิ่มความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ
แนวคิดในการใช้แก้วรีไซเคิลเป็นวัสดุปลูกพืชเริ่มต้นจากความต้องการลดปริมาณขยะที่เกิดจากแก้วและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ งานวิจัยได้เผยให้เห็นว่าแก้วรีไซเคิลที่ถูกบดละเอียดสามารถใช้ทดแทนดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าแก้วรีไซเคิลมีความสามารถในการเก็บกักน้ำและปล่อยแร่ธาตุให้กับพืชอย่างช้า ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโตของพืช
งานวิจัยนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในเว็บไซต์ของสมาคมเคมีอเมริกัน (American Chemical Society) โดยระบุว่านักวิจัยได้ทดลองใช้แก้วรีไซเคิลในการปลูกพืชที่เป็นส่วนประกอบหลักของอาหารประเภทซัลซ่า เช่น มะเขือเทศ และพริก ผลลัพธ์จากการทดลองแสดงให้เห็นว่าพืชเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีในวัสดุที่ทำจากแก้วรีไซเคิล และยังสามารถลดการใช้สารเคมีในการป้องกันโรคและแมลงได้อีกด้วย การทดลองนี้ยังชี้ให้เห็นว่าแก้วรีไซเคิลสามารถนำไปใช้กับพืชหลากหลายชนิด ซึ่งช่วยส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนในระยะยาวและสามารถต่อยอดใช้งานได้มากขึ้นในอนาคต
นวัตกรรมการใช้แก้วรีไซเคิลทดแทนดินยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในวงการเกษตร นักวิจัยจากทั่วโลกทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงเทคนิคการใช้แก้วรีไซเคิลในการปลูกพืช เพื่อตอบสนองความต้องการของการเกษตรในยุคที่ประชากรโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การใช้แก้วรีไซเคิลจึงเป็นการช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่จำกัด และเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการปลูกพืชสำหรับอนาคต
การใช้แก้วรีไซเคิลทดแทนดินในกระบวนการปลูกพืชเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงวิธีการเกษตรในอนาคต ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะและประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกพืชและทำให้การเกษตรมีความยั่งยืนมากขึ้น ผลการทดลองและการวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าแนวคิดนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ในวงกว้าง และมีโอกาสที่จะเป็นทางออกสำคัญในการแก้ไขปัญหาทางเกษตรได้ในอนาคต
เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร
ที่มาข้อมูล: newatlas, acs, eurekalert
ที่มาภาพ: acs
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech