คสช.ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 2 คนโยงคดีระเบิดราชประสงค์-สาทร
คสช.แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยระบุว่าได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17-18 ส.ค.2558 อีก 2 คน หลังจากขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า สำหรับในวันนี้ (31ส.ค.2558) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมของศูนย์ติดตามสถานการณ์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อรับทราบผลความคืบหน้าในการติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ซึ่งในการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวว่านายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างหนักด้วยความอดทนและอดกลั้น จนสามารถทำให้ผลการติดตามสืบสวนคดีในภาพรวมมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะมีการดำเนินการเพิ่มเติมในพื้นที่มีนบุรี
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำรงการคลี่คลายคดีและขยายผลการจับกุมผู้กระทำผิดและเครือข่ายด้วยความระมัดระวังอย่างละเอียดรอบคอบ ตลอดจนนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนามาตรการป้องกันและป้องปรามให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันยังไม่สรุปหรือตัดประเด็นใดๆ ทิ้งจนกว่าจะได้องค์ประกอบทางด้านพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล วัตถุพยาน และผลพิสูจน์ทางด้านนิติวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนประกอบการทำคดีให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด
ทั้งนี้ ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสในห้วงที่ผ่านมา จนเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ตามที่ได้รายงานให้ทราบแล้ว และเพื่อให้การขยายผลในการสืบสวนคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการ อาคารที่พัก เกสต์เฮ้าส์ และห้องเช่าต่างๆ หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเข้ามาพักอาศัย ก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1515 ได้ทันที
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชนทุกแขนงให้เพิ่มความระมัดระวังในการนำเสนอข่าวสารและข้อมูลไปสู่สาธารณชน โดยเฉพาะประเด็นที่อาจทำให้สังคมเกิดความสับสนหรือตื่นตระหนก รวมทั้งขอให้หลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์หรือเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เกิดจากการคาดเดากันเอง เนื่องจากประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ความคืบหน้าเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17-18 ส.ค.2558 มีการคืบหน้าจากการขยายผลที่จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน ขยายผลตามแหล่งต่างๆ ที่เป็นที่พัก สามารถสืบทราบได้ว่าที่พักก่อนที่ผู้ต้องหาหรือกลุ่มผู้ต้องหามีเครือข่ายหรือโยงใยเกี่ยวเนื่องอยู่ในอพาร์ทเมนท์ชื่อ ไมมูณา การ์เด้น จึงได้มีการสนธิกำลังระหว่างตำรวจและทหารเข้าตรวจค้นในวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา สามารถตรวจค้นพบอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการประกอบระเบิด ดังนี้ 1. ดินดำ ที่เป็นดินที่ใช้ประกอบและขยายแรงระเบิด 2.ปุ๋ยยูเรีย ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นดินระเบิดได้ในกรณีผสมกับสารอื่น 3.รถบังคับวิทยุพร้อมรีโมท คอนโทรลในการบังคับวิทยุ ซึ่งใช้เป็นตัวจุดชนวนระยะไกล 4.น็อต ทั้งตัวผู้ตัวเมียที่อาจจะใช้แทนสะเก็ดระเบิด 5.หลอดไฟขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะใช้แทนเชื้อปะทุไฟฟ้าได้ 6.นาฬิกาดิจิตอลและนาฬิกาตั้งเวลา เพื่อใช้ในการถ่วงเวลา ขณะตรวจค้น เจ้าของห้องไม่อยู่ ได้มีการสอบสวนและขยายผล และขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่เป็นผู้เช่าห้อง คนที่ 1 เป็นผู้หญิง คือ น.ส.วรรณา สวนสันต์ อายุ 26 ปี และผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องเป็นชาย ยังไม่ปรากฏสัญชาติตามภาพสเก็ตช์อีก 1 คน
สำหรับศูนย์ติดตามสถานการณ์ของ คสช.ขอความร่วมมือเจ้าของหรือผู้ที่ครอบครองหรือผู้ดูแลอพาร์ทเมนท์ หอพัก หรือบ้านเช่าที่มีผู้อยู่อาศัยที่เป็นชาวต่างชาติที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มชาวต่างชาติดังกล่าว กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่โดยด่วน เพราะกลุ่มเหล่านี้อาจจะมีวัตถุที่เป็นอันตรายและอาจจะเกิดอันตรายต่อหอพักและผู้อาศัยที่อยู่ในที่พักได้ หรือกรุณาบันทึกข้อมูล สำรองการบันทึกข้อมูลขึ้นไว้ อย่าให้ข้อมูลในซีซีทีวีภายในอาคารถูกลบตามเวลาที่ตั้งไว้ ขอให้แบคอัพข้อมูลขึ้นไว้ เพื่อจะใช้ในการสืบสวนต่อไป