รัฐบาลเมียนมาเร่งส่งความช่วยเหลือลงพื้นที่ประสบอุทกภัย
สำนักข่าวต่างชาติเปรียบเทียบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐบาลเมียนมาในครั้งนี้กับเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงที่เมียนมาเผชิญกับพายุไซโคลนนาร์กิส พบว่าครั้งนี้การทำงานของรัฐบาลเมียนมามีประสิทธิภาพมากขึ้น และเปิดกว้างให้สื่อมวลชนสามารถรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ได้มากกว่าเดิม
วันนี้ (4 ส.ค.2558) กลุ่มชายฉกรรจ์ช่วยกันแบกเก้าอี้ของหญิงชราที่ล้มป่วยเดินฝ่ากระแสน้ำเชี่ยว หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันในเมืองกะเลย์ ชาวบ้านบอกว่าเริ่มมีน้ำท่วมเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา จากนั้นระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านต้องรีบหนีเอาชีวิตรอด จนไม่สามารถเก็บข้าวของหนีน้ำได้ทัน ขณะที่หน่วยบรรเทาทุกข์ของรัฐบาลเมียนมาใช้วิธีหย่อนความช่วยเหลือให้ประชาชนในรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด และถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ
นายซาน ฉ่วย อ่อง ผู้แทนจากกระทรวงกิจการชายแดน เปิดเผยว่า เบื้องต้น ทางการเน้นความช่วยเหลือในเรื่องของอาหาร โดยความช่วยเหลือที่หย่อนลงไป เป็นข้าว น้ำดื่ม และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นหลัก
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเปรียบเทียบเหตุการณ์เมื่อปี 2551ที่รัฐบาลทหารเมียนมาเคยถูกวิจารณ์อย่างหนักทั้งจากประชาชนและนานาชาติในเหตุการณ์พายุไซโคลนนาร์กิสพัดถล่ม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 130,000 คนว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในขณะนั้นเป็นไปอย่างล่าช้า และรัฐบาลไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ
แตกต่างจากภัยพิบัติครั้งนี้ที่รัฐบาลเมียนมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการรับมือกับภัยพิบัติ ขณะที่ พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดี เดินทางลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนรายงานถึงภัยพิบัติในครั้งนี้ได้ด้วย
หนังสือพิมพ์จี-มอน ซึ่งเป็นของรัฐบาลเมียนมา รายงานว่า กระทรวงเกษตรและชลประทาน ระบุว่า พื้นที่การเกษตรเกือบ 2,500,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าว โดยจำนวนนี้มากกว่า 101,000 ไร่จมอยู่ใต้น้ำ
ด้านกระทรวงสวัสดิการสังคมบรรเทาทุกข์และการตั้งถิ่นฐาน ระบุว่า รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์พักพิง 130 แห่งในพื้นที่ประสบภัยทั่วประเทศ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 47 คน ซึ่งคาดว่าตัวเลขน่าจะเพิ่มสูงมากกว่านี้ เนื่องจากมีหลายพื้นที่ที่ถูกตัดขาดยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ทั้งหมด
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำเมียนมา ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ชุดแรกให้กับผู้ประสบภัยในเมืองกะเลย์ รัฐยะไข่ และเขตมาเกว ซึ่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ประกอบไปด้วยข้าว น้ำมัน เกลือ น้ำดื่ม เสื้อผ้า และยา รวมมูลค่าประมาณ 9,000,000 บาท