ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พระสุเทพสึกแล้วช่วงเช้ามืดวันนี้ เผย "พร้อมสู้ทุกคดี ไม่ขอนิรโทษกรรม"

การเมือง
28 ก.ค. 58
02:10
682
Logo Thai PBS
พระสุเทพสึกแล้วช่วงเช้ามืดวันนี้ เผย "พร้อมสู้ทุกคดี ไม่ขอนิรโทษกรรม"

พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.ลาสิกขาที่วัดไตรธรรมาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วง 5.30 น.ที่ผ่านมา เตรียมแถลงชี้แจงบทบาททางการเมืองหลังจากนี้ในวันที่ 30 ก.ค.

เมื่อเวลา 5.00 น.วันนี้ (28 ก.ค.2558) พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.ได้เดินทางมาลาสิกขาบทกับพระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16 กลับสู่การเป็นฆราวาสที่วัดไตรธรรมาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี  พร้อมด้วยพระเชน อาภาธโร น้องชายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพระชินวรณ์ จันทสาโร โดยหลังการทำพิธีลาสิกขานายสุเทพได้สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน และติดธงชาติที่หน้าอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่กลุ่ม กปปส.ใช้ในการเคลื่อนไหวช่วงปี 2556-2557

หลังลาสิกขาอดีตพระสุเทพได้เรียกร้องไปยังนักการเมืองที่ยังเคลื่อนไหวให้ยึดคำสอนของท่านพระพุทธทาสเป็นแนวทางเพื่อความสงบสุขของประเทศ ส่วนคดีที่ยังอยู่ในศาลอีกหลายคดีก็ต้องต่อสู้ แม้ว่าบางคดีจะมีโทษถึงประหารชีวิตก็จะไม่ขอนิรโทษกรรมตัวเองให้พ้นผิด และนักการเมืองคนอื่นก็ไม่ควรขอนิรโทษกรรมตัวเองด้วย โดยขอให้กลับมามาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

"พร้อมที่จะสู้คดีไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะทุกอย่างเราทำเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง" นายสุเทพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลใจกับคดีไหนหรือไม่ อดีตแกนนำกปปส.ตอบว่า "กังวลใจทุกคดี เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามมีฤทธิ์มีอิทธพลมาก สามารถใช้อิทธิพลในขั้นของพนักงานสอบสวน ในขั้นอัยการหรือแม้แต่การพิจารณาคดี ผมเห็นชัดในคดีที่ผมไปพบพนักงานสอบสวน ไปเจออัยการ ไปขึ้นศาลมา แต่ผมบอกตัวเองเสมอว่าให้เชื่อมั่นในระบบ จะกังวลใจอย่างไรก็เชื่อในระบบ"

นายสุเทพกล่าวว่าหลายคนไม่อยากให้ตนลาสิกขาบท แต่ตนมีหน้าที่ซึ่งวันข้างหน้าก็จะทราบว่าเป็นหน้าที่นั้นคืออะไร

"ถ้าเป็นภาษาพระเรียกว่ามีเหตุมีปัจจัย มันมีหน้าที่อย่างอื่นที่ต้องปฏิบัติ ผมก็ชั่งใจแล้วเรื่องการบวช จริงๆ ก็คิดบวชนาน ได้ใคร่ครวญเห็นว่าตัวเองมีภาระมีหน้าที่ต้องปฏิบัติซึ่งไม่สามารถทำได้ตอนที่เป็นพระ ส่วนรายละเอียดจะแถลงข่าวในวันที่ 30 ก.ค." นายสุเทพกล่าวและย้ำเรื่องการต่อสู้คดีว่าเมื่อมีคดีความก็ต้องต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม ไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง

"ส่วนการเรียกร้องเรื่องปรองดอง ในฐานะที่ผมมีส่วนได้เสีย ผมยืนยันว่าไม่ควรมานิรโทษกรรมให้คนอย่างผมซึ่งเป็นแกนนำในการลุกขึ้นต่อสู้ แต่สำหรับประชาชนทั้งหลาย คนที่่ร่วมชุมนุมกับกปปส.ไม่ควรดำเนินคดีกับเขา แม้ว่าข้อกล่าวหาของผมจะเป็นข้อหาหนัก ไม่ว่าจะเป็นข้อหากบฏต่อแผ่นดิน ก่อการร้าย ซึ่งถ้าแพ้คดีก็มีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต แต่ผมก็ยืนยันว่าผมไม่เรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมให้ตัวผมเอง และผมไม่ต้องการให้มีการนิรโทษกรรมให้ผู้ที่กระทำความผิดอาญาแผ่นดินร้ายแรงคนอื่นๆ โดยเฉพาะคดีหมิ่นพระบรมเดชนุภาพ เพราะนี่คือความมั่นคงของประเทศไทย"

ก่อนหน้านี้นายสุเทพระบุว่าหลังลาสิกขาแล้วจะทำหน้าที่ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ ผลักดันกิจกรรมของมูลนิธิควบคู่ไปกับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ โดยยืนยันว่าการเคลื่อนไหวจะไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้ปฏิเสธแนวทางการเคลื่อนไหวที่คล้ายกันและพร้อมจะสนับสนุนและช่วยงานเพื่อประเทศ ยกเว้นการเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ พร้อมให้ความเห็นว่าการปรับคณะรัฐมนตรีถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์และความจำเป็น โดยชี้ว่าการไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจะเป็นเรื่องที่ดีด้วย ทั้งนี้นายสุเทพ จะจัดทำบุญเลี้ยงพระที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกข์พลาราม  อ.ไชยา และเตรียมแถลงข่าวชี้แจงบทบาทหลังลาสิกขาในวันที่ 30 กรกฎาคม

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้บวชเป็นพระเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2557 ที่วัดท่าไทร อ.กาญจนดิษฐ์ และได้จำวัดที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกข์พลาราม  อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี รวมระยะเวลาที่บวช 1 ปี 13 วัน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง