ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นายกฯวอนเข้าใจเดินหน้าโครงการงบลงทุนสูง-อย่าปลุกระดมต้าน

การเมือง
24 ก.ค. 58
16:35
75
Logo Thai PBS
นายกฯวอนเข้าใจเดินหน้าโครงการงบลงทุนสูง-อย่าปลุกระดมต้าน

นายกฯสั่งแก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน ขุดบ่อบาดาลเพิ่ม 511แห่ง ขอประชาชนเข้าใจการเดินหน้าโครงการงบลงทุนสูงต่าง ๆทั้งด้านพลังงาน ขยะ พร้อมรับฟังความเห็นทุกกลุ่ม อย่าปลุกระดมต้าน พร้อมจัดตลาดธงฟ้าช่วยเหลือประชาชน ย้ำความขัดแย้งภายในประเทศยังมีอยู่ของทุกกลุ่มยุติการเคลื่อนไหว ยืนยันรัฐบาลแก้ไขปัญหาทุกวันหยุดยาวช่วงปลายสัปดห์หน้าขอให้ประชาชนเดินทางโดยปลอดภัย

เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศ ดังนี้

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน

วันที่ 28 กรกฎาคมนี้ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมารของปวงชนชาวไทย ผู้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเป็นอเนกอนันต์ เป็นคุณูปการยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทรงเปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถและพระวิสัยทัศน์เลิศล้ำ ในวโรกาสอันเป็นวันมิ่งมหามงคลนี้ ผมขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวไทยทุกคนร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถวายพระพรชัยมงคล ขอให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญ และทรงพระเจริญยิ่งยืนนานครับ

พวกเราทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า วันที่ 16 สิงหาคมนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระราชปณิธานให้จัดกิจกรรม "Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่" เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และความจงรักภัคดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจะจัดให้มีกิจกรรมการปั่นจักรยานพร้อมกันทั่วประเทศนะครับสำหรับความคืบหน้าในเรื่องของการกำหนดเส้นทางปั่นจักรยานทั้ง 76 จังหวัด ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว รวมถึงข้อมูลแผนที่เส้นทาง จุดเริ่มต้น จุดพัก ระยะทาง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและศึกษาเส้นทางได้ที่เว็บไซต์ของทุกจังหวัด ผมอยากให้พี่น้องประชาชนที่จะเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ได้มีการเตรียมความพร้อม ทั้งสภาพร่างกายและตรวจสภาพรถจักรยานกันล่วงหน้านะครับ อาจจะมีการฝึกซ้อมให้ใกล้เคียงกับระยะทางจริง ศึกษากฎจราจร และปฏิบัติตามคำแนะนำในการปั่นจักรยานเพื่อความปลอดภัยนะครับ

กิจกรรมนี้ นอกจากจะส่งเสริมการออกกำลังกายแล้ว ยังคงเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความสามัคคีของพี่น้องชาวไทยทุกหมู่เหล่าในทุกภูมิภาค โดยทั้งนี้ ในช่วงที่ประชาชนในหลาย ๆ พื้นที่ ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทาน "น้ำพระทัย Bike for Mom พระราชทานดับภัยแล้ง" จำนวน 200,000 ขวดด้วยครับ

ในส่วนของรัฐบาลเอง เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่แล้วก็ตาม รัฐบาลก็ต้องให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องน้ำเพื่อการบริโภค จะต้องเพียงพอในอนาคตด้วย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ต่อมาก็คือการที่พี่น้องเกษตรกรและพื้นที่การเกษตร หลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่นาที่ใกล้จะให้ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้แล้ว รวมถึงพืชสวนที่หากปล่อยไว้ ก็อาจจะยืนต้นตาย เราต้องใช้เวลาในการเพาะปลูกฟื้นฟูอีกหลายปี กว่าจะได้รับผลผลิตอีกครั้ง อันนี้ก็ต้องดูแลด้วยนะครับ ตราบใดที่น้ำยังเพียงพออยู่ ก็คงไม่เป็นปัญหานะครับ

สั่งเร่งขุดบ่อบาดาลแก้ภัยแล้ง

สำหรับในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้มีการเดินหน้าจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมเพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะทำการขุดเจาะบ่อบาดาลใหม่ จำนวน 511 บ่อนะครับ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเทอร์ไบน์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ปัจจุบันดำเนินการเสร็จไปแล้ว จำนวน 415 บ่อ หรือร้อยละ 81 นะครับสามารถนำน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ ประมาณ 200,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ส่วนการดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า แบบจุ่มใต้น้ำของบ่อสังเกตการณ์ที่กำหนดไว้ จำนวน 380 บ่อ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 202 บ่อ หรือร้อยละ 53 ทำให้สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ ประมาณ 30,300 ลูกบาศก์เมตร/วัน รวมพื้นที่จะได้รับประโยชน์จากการขุดบ่อบาดาลนี้ จำนวน 60,000 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวน 2,000 ครัวเรือน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จตามเป้าหมาย ในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะสามารถสูบน้ำบาดาล มาใช้ได้ประมาณ 350,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน จะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 100,000 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 4,000 ครัวเรือน จากนั้นเราก็คงต้องมีการวางแผนการใช้น้ำบาดาลในพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อให้เกิดความทั่วถึงต่อไปด้วยนะครับ

จัดสินค้าธงฟ้าบรรเทาทุกข์ให้พื้นที่ประสบภัยแล้ง

ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง ผมก็ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกัน ดำเนินการจัดโครงการธงฟ้าสู่ชุมชน นำสินค้าอุปโภค บริโภคที่ลดราคามากกว่าที่เคยเป็น นำไปจำหน่ายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ให้มีการจัดรถธงฟ้าเคลื่อนที่นำสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันออกจำหน่าย ในราคาถูกกว่าท้องตลาดปกติ ร้อยละ 30 – 50

นอกจาก 2 มาตรการข้างต้นที่กล่าวไปแล้วนั้น รัฐบาลยังคงเร่งดำเนินการในอีก 2 มาตรการหลัก คือ 1. การสร้างงานในพื้นที่ โดยใช้งบสำรองราชการสำหรับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่แต่ละจังหวัดมีอยู่แล้ว จังหวัดละ 10 ล้านบาทนะครับ มอบให้กระทรวงมหาดไทยทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง ในเรื่องของเงื่อนไขการใช้เงินให้สามารถนำมาจ้างงาน ซ่อมเครื่องไม้เครื่องมือ ซ่อมแซมระบบน้ำเดิมได้ด้วยนะครับ

สำหรับรูปแบบของการบริหารจัดการ ผมเห็นว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้ ในลักษณะ "การเหมางาน" น่าจะทั่วถึงมากกว่านะครับ โดยให้หมู่บ้าน ชุมชนมีการบริหารจัดการกันเอง กำหนดความต้องการจ้างงาน ดำเนินการเอง รัฐบาลก็จะสนับสนุนงบประมาณให้ ทั้งโครงการ แทนการ "จ่ายเป็นรายหัว" เพราะว่าได้คนน้อย ก็อยากให้สร้างความรัก ความสามัคคีด้วย และตรงกับความต้องการที่แท้จริงของชาวบ้าน เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนด้วยนะครับ ในเรื่องที่ 2. การฟื้นฟูภาคการเกษตร ภายใต้ "ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเกษตรกร" (ศชก.) นะครับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเกษตรอำเภอทั้ง 273 อำเภอใน 22 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยานะครับ เป็นการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยง จัดลำดับความสำคัญในการเข้าไปแก้ไขปัญหานะครับ ทั้งพื้นที่ปลูกข้าว พื้นที่พืชสวนอื่น ๆ เช่น สวนกล้วยไม้ สวนผลไม้ ในพื้นที่ที่ชะลอ หรือยังไม่เริ่มทำการเพาะปลูก เพื่อให้มีข้อมูลที่ชัดเจนสำหรับการผลักดันการช่วยเหลือให้ถึงมือชาวไร่ ชาวนาทุกคน ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ก็จะต้องนำ เทคโนโลยีการเกษตรเข้าไปแนะนำด้วย และในเรื่องของการส่งเสริมเกษตรกร ในเรื่องของการปรับพฤติกรรมทางการเกษตร เรื่องน้ำ ดิน การส่งเสริมอาชีพด้านประมง ปศุสัตว์นะครับ และการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนในจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหา เช่น การหารือร่วมกับสหกรณ์ต่าง ๆ ในการที่จะขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ เป็นต้นนะครับ ก็มีหลายเรื่องที่ต้องร่วมมือกันนะครับ ก็คงต้องแบ่งปันกันบ้าง

ความขัดแย้งยังคงอยู่ขอประชาชนเข้าใจรัฐบาล

ประเทศของเรากำลังก้าวหน้าไปด้วยดีพอสมควรนะครับ อย่างไรก็ตามยังคงมีเรื่องที่เป็นปัญหาของประเทศในขณะนี้ ก็คือเรื่องของความขัดแย้ง ทั้งในด้านของการเมือง ในด้านของการใช้จ่ายงบประมาณ ที่ดำเนินการต่อไปไม่ได้นะครับ ความขัดแย้งเหล่านี้ ยังคงมีอยู่นะครับ ถึงแม้จะน้อยไปกว่าเดิม ก็ยังคงมีอยู่ ก็ขอให้ทุกพวกนะครับ ที่มีการเคลื่อนไหวทั้งโดยเปิดเผยและไม่เปิดเผย โดยอาจจะต้องอาศัยปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน เช่น ภัยแล้ง รายได้น้อย ค่าแรง ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ หรือเศรษฐกิจที่ค่อนข้างที่จะชะลอตัว ทั้งหมดนี่นะครับ มาใช้ประโยชน์ในการสร้างความขัดแย้งต่อภายในประเทศ ก็ขอให้ประชาชนนั้น ได้ดูนะครับว่าความจริงใจของรัฐบาล เจตนารมณ์ของรัฐบาลในการแก้ปัญหา กับการที่รับฟังการปลุกระดมต่าง ๆ เหล่านี้นะครับ ว่าเราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เราก็พยายามทำทุกอย่างนะครับ เพียงแต่ว่าไม่เหมือนในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลทราบและเข้าใจดี เราก็พยายามวางแผนงาน กำหนดมาตรการล่วงหน้า และเตรียมแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุดนะครับ ปัญหาก็คือว่าถูกสร้างความเข้าใจผิดกันมานาน ทำให้การเข้าใจมันยาก ต้องใช้เวลา ผมก็อดทนนะครับ ทุกคนก็ต้องช่วยกันอดทน

ปัญหาในเชิงโครงสร้าง หลายเรื่องได้มีการแก้ไขไปแล้วนะครับได้มีการปรับโครงสร้างใหม่เป็นการชั่วคราวทั้งหมดในเรื่องของเศรษฐกิจ พลังงาน การเกษตร การค้า การลงทุนทั้งในไทย และต่างประเทศ โดยเน้นการดูแลทั้งผู้มีรายได้น้อย รายได้ปานกลางนะครับสำหรับการศึกษาและสังคม กระบวนการยุติธรรม กฎหมาย เหล่านี้ก็มีการแก้ไขเดินหน้าไปตลอดนะครับ ใน การปฏิรูปและปรองดองนั้น ก็ต้องกำหนดไว้ให้ชัดเจนในการดำเนินในระยะต่อไปนะครับ เพราะว่าวันนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนนะครับ การที่เราจะมีมียุทธศาสตร์ชาตินั้นก็เป็นการเดินหน้าประเทศให้เห็นว่าอนาคตประเทศในทุก 5 ปีข้างหน้านั้น จะเป็นอย่างไรประชาชนต้องรู้นะครับถ้าไม่รู้แล้วก็ให้ใครมากำหนดให้เราเอง บางทีมันก็ไม่เป็นไปตามนั้นมันไม่ต่อเนื่องไม่ยังยืนนะครับ

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ผมเข้าใจว่าต้องใช้เวลาพอสมควร ก็ผมอยากจะขอเพียงแค่ความเข้าใจ ความอดทนนะครับ แล้วก็มันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะมีอนาคตขึ้นมากในวันหน้านะครับ ซึ่งแน่นอนนะครับ การเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามนี่ ถ้าผมไม่อยากจะเปลี่ยนแปลง ไม่อยากทำให้มันดีขึ้น ผมก็ไม่ต้องแก้อะไรทั้งสิ้นนะ ซึ่งวันนี้ผมก็ยอมรับนะครับว่ามันมีผลกระทบบ้าง มีการต่อต้านบ้าง มีเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ผมก็ฟังทุกกลุ่มทุกฝ่ายนะครับ แต่ก็ต้องหาทางให้เจอกันบ้างนะครับ

ขอประชาชนเข้าใจการเดินหน้าโครงการงบลงทุนสูง—อย่าปลุกระดมต้าน

ในการขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนได้เข้าใจในความจำเป็นของประเทศในบางเรื่อง ที่รัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อประเทศชาติโดยรวมนะครับ เช่น เรื่อง พลังงาน ทำยังไงเราจะมีเพียงพอแล้วก็มีความมั่นคง, มีใช้อย่างยั่งยืน , เรื่องขยะ จะทำกันยังไง, โครงการต่าง ๆ ที่ใช้งบลงทุนสูง ทั้งนี้เพื่อผลักดันการใช้จ่ายภาครัฐและเอกชนนะครับ ให้มีการจ้างงานให้มีการลงทุน มีการใช้วัสดุอุปกรณ์มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ถนน รถไฟ รถไฟฟ้า, การบริหารจัดการน้ำ, การลงทุนภาคอุตสาหกรรม หรืออื่นๆ นะครับ ทั้งนี้ก็เพื่อเรามุ่งหวังจะนำความเจริญไปสู่ทุกพื้นที่ทุกชุมชน การทำการเกษตรอย่างเดียวอาจจะไปไม่ได้ในอนาคตนะครับ มันต้องมีผสมผสานกันเป็นเศรษฐกิจแนวใหม่ที่ต้องมีทั้งเกษตรกรรมแล้วก็อุตสาหกรรมที่ไม่สร้างมลภาวะนะครับ เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่

ในกรณีที่มีการต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยนั้น รัฐบาลก็จะพยายามหาทางออกให้ดีที่สุดนะครับ เวลาวันนี้ไม่คอยท่าใครนะครับเพราะวันนี้กำลังเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน แล้วการลงทุนต่างๆในทุกประเทศก็แข่งขันกันในขณะนี้นะครับถ้าเราไม่เตรียมเรื่องเหล่านี้ให้พร้อม สิ่งต่างๆ เราเกิดขึ้นไม่ได้ เราก็จะต้องตามหลังเขาไปตลอดไปนะครับ แล้วเราก็เสียโอกาสในการที่เราก็เป็นศูนย์กลาง หรือว่าเป็นจุดกึ่งกลางในด้านของภูมิรัฐศาสตร์นะครับของอาเซียนด้วย ผมอยากให้มีการพูดคุยกันทุกฝ่ายนะครับ อย่าเอาปัญหามาพูดกันอย่างเดียว มันต้องดูว่าเออ ถ้าทำแล้วมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือมันจะเสียหายอะไรบ้างไหม มันต้องหาทางนะครับ สมมุติว่าเป็นห่วงโน่น ห่วงนี่ ก็กรุณาไปดูนะครับ ว่าที่เขาสร้างไปแล้ว ที่ไหนมีอยู่บ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่านะครับ เสร็จแล้วก็มามาหาทางว่าจะทำกันยังไงตรงไหนที่มันมีปัญหา อ้าวมันจะมีทางออกกันอย่างไร ถ้าทุกฝ่ายนี่ยังคงเอาความขัดแย้งขึ้นมาทุกเรื่องมันทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น งบประมาณก็เลยใช้ไม่ได้นะ เพราะงั้นเศรษฐกิจประเทศก็มีปัญหาหมดนะ วันนี้ผมบอกแล้วว่าถ้ามันจัดซื้อจัดจ้างไม่ได้หรือการทำประชาพิจารณ์ ไม่ผ่านโดยเหตุผลไม่สมควรนี่มันก็เสียหายประเทศนะครับ เวลามันเสียไป งบประมาณใช้จ่ายไม่ได้ เศรษฐกิจอื่น ๆ ก็ชะลอตัวตามไปหมดนะครับ

ผมยืนยันนะครับว่ารัฐบาลนั้นพร้อมจะรับฟังทุกปัญหา ทุกความคิดเห็น ท่านก็ต้องฟังเราบ้างนะครับ ฟังเหตุฟังผลกันหาหนทางร่วมมือกัน ไม่อยากให้ต่อต้านทุกเรื่องไป บางเรื่องมันก็มีเรื่องที่น่าจะทำได้บ้าง มันก็ต้องทำไปก่อนนะ ถ้าตรงไหนที่มีปัญหาก็ชะลอไป ถ้าทุกโครงการทำได้แบบนี้ มันก็เกิดได้ทุกเรื่องนะครับ เพราะงั้นถ้าหากว่าขัดขวางไปทุกอย่าง ไม่ฟังเหตุฟังผลกันเลย ก็ต้องฟังเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ด้วยนะครับ อย่าใช้คำบอกเล่าหรือใช้คำที่ ปลุกระดมกันมาโดยตลอดนะครับ มันก็ทำทุกอย่างเลวร้ายไปกว่าเดิม

ผมเรียนว่าการแก้ปัญหาต่าง ๆ นั้นเราจะทำไม่ได้เลยถ้าหากว่าความรัก ความสามัคคีไม่เกิดขึ้น ไม่รับฟังซึ่งกันและกัน ไม่เข้าใจกัน เราก็จะกลับไปอยู่ในวังวนของความขัดแย้งกัน ติดกับดักตัวเองอีกเหมือนเดิม หากมันมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่สงบไม่เรียบร้อย รัฐก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ประชาชนก็เดือดร้อนนะครับ อันนี้ประชาชนก็ต้องรับรู้รับทราบต้องฟังกัน แล้วก็คิดอย่างมีสตินะครับ ด้วยตัวของตัวเองนะครับ อย่าให้ใครมาชี้นำ เพราะงั้นก็ต้องฟังคนนำ คนชี้แจงทั้งสองฝ่ายด้วยแล้วกัน ฝ่ายรัฐก็ต้องฟังนะ ถ้าฝ่ายต่อต้าน คนนำก็ต้องฟังเขา ว่าเอ๊ะ เหตุผลสองอย่างนี่มันน่าจะเชื่ออันไหนมากกว่า ที่เป็นตัวเลข หรือเป็นอะไรเชิงวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้นะครับเพราะงั้นก็ขอย้ำนะครับขอความร่วมมือ ขอให้ฟังกันบ้างหาทางออกนะครับไม่อยากจะใช้อำนาจใช้กฎหมายทั้งสิ้น ทำให้เราต้องมาเผชิญหน้ากันทุกเรื่อง ประเทศชาติก็หยุดชะงักไปอีกนะครับ วันนี้เรากำลังก้าวหน้าได้พอสมควร

วันนี้เรารู้ดีนะครับว่ารัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่เป็นรัฐบาลเพื่อต้องการสร้างระบบธรรมาภิบาลในการบริหารบ้านเมือง รับฟังเสียงประชาชน ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็นเชิงรุก เพื่อเตรียมมาตรการในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต้องเห็นใจกันนะครับ ข้าราชการเองก็ต้องปรับตัว ประชาชนก็ต้องปรับตัวเช่นกัน ถ้าเราไม่ปรับตัวหากัน ยังคงยืนยันหลักการกันอยู่เหมือนเดิม มันไปไม่ได้แน่นอนนะครับ ท่านต้องหาว่าอะไรที่จะทำร่วมกันได้บ้าง ตรงไหนติดขัดเป็นปัญหา บางส่วนก็ชะลอไว้ก่อน แต่ถ้าทุกโครงการไปไม่ได้ มันก็เหมือนเดิมนะ ครับ ทุกอย่างแย่เหมือนเดิม สิ่งที่ประชาชน และรัฐบาลคาดหวังนั้น เรามีหลายอย่างด้วยกันนะครับ เพราะเราบอกไว้แล้วว่าเราจะทำให้ประเทศชาตินั้นมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนภายใน 5 ปีข้างหน้า เพราะงั้นถ้าเราเริ่มปีนี้ไม่ได้ มันก็ต้องไปนับหนึ่งใหม่ในปีหน้าหรือปีโน้นอะไรต่อไป ก็สรุปว่าไม่เสร็จตามวิสัยทัศน์ หรือตามกำหนดการณ์ แล้วเราก็จะช้ากว่าเขานะครับ วันนี้ผมติดตามทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศอาเซี่ยนนี่ เขาไม่มีความขัดแย้ง เขาไม่มีปัญหาเหมือนที่เรามีทั้งหมดนะครับ เขาก็สามารถเดินหน้าได้หมด ประเทศรอบบ้านหลายประเทศ เขาก็เตรียมแผนที่จะทำโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วนะครับ ประเทศใกล้ ๆ เราเองนี่แหละ ประมาณไม่กี่ปีข้างหน้า เขาศึกษาวางแผนแล้ว ของเรายังไปไหนไม่ได้เลยซักอันหนึ่งนะ ผมคิดว่าเอ๊ะจะต้องทบทวนกันหรือเปล่า เพราะงั้นอย่าไปมองแต่ผลเสียอย่างเดียวนะ ผลเสียก็ต้องหาทางแก้ไข ไอ้ผลดีมันมีมากกว่าไหมนะ ขอร้องให้ทุกฝ่ายได้ทบทวนกันดูก่อนนะครับ ว่าเป็นห่วงพ่อแม่พี่น้องประชาชนจริงๆ นะครับ แล้วก็ประเทศชาติด้วย หากว่าทำไม่ได้วันนี้ รัฐบาลต่อไปก็ทำไม่ได้แน่นอน แล้วเราจะทำยังไงกันนะครับ

ก็ขอให้ประชาชนนะครับ ซึ่งเป็นผู้ทีมีส่วนได้ส่วนเสียทั้งประเทศนะครับ มันมีผลกระทบทั้งสิ้น ทำที่นี่ไม่ได้มันก็มีผลกระทบกับที่อื่นนะ มันก็ทำให้ทุกอย่างมันตามกันไปหมดนะครับ ถ้าทุกคนบริหารจัดการกันเองหมด มันก็ ผมว่าลำบากนะ อยู่กันไม่ได้หรอกประเทศนี้ นะครับ ขอให้ได้ใคร่ครวญ ทบทวนสถานการณ์ของประเทศไทย ในห้วงที่ผ่านมา ก่อน 22 พฤษภาคม 2557นะครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง วันนี้อาจจะลืมไปแล้วล่ะ ผมก็ต้องเตือนอีกครั้งนะ

วันนี้เราทำไปแล้วอะไรบ้าง แน่นอนนะครับการแก้ปัญหาต่างๆ ที่สลับซับซ้อนในเชิงโครงสร้างด้วยอะไรด้วยต้องใช้เวลาแล้วก็เรื่องมันมาก ทำทุกเรื่องนะครับมันก็เลยมองดูเหมือนกับว่า เอ๊ะทำอะไรหรือเปล่า จริงๆ แล้วเราก็เอาปัญหาใหญ่มาดู แล้วก็คลี่เป็นกิจกรรมหลัก กิจกรรมย่อย แล้วเราก็แยกว่าอันไหนกิจกรรมหลักจะทำอะไรบ้าง อันไหนยังไม่ทำ อันไหนที่เป็นกิจกรรมย่อย อันนี้ทำ อันนี้ยังไม่ทำ ก็จะแยกไอ้ที่ยังไม่ทำนี่ ไม่ใช่ไม่ทำ ไปทำตอนปฏิรูปนั่นไปส่งในแผนปฏิรูป

วันนี้เราเดินหน้าภายในระยะเวลาที่เราอยู่ในการบริหารราชการแผ่นดินนี่ เดินหน้าให้ได้ทุกเรื่อง ที่มันติดขัดทั้งหมด ขอความร่วมมือท่านเท่านั้นเอง นะครับ เราจำเป็นต้องเริ่มต้นไว้ก่อน แล้วก็สร้างระบบ ระเบียบ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันนะครับ แล้วก็เพื่อไม่ให้มีการขัดแย้งกับพวกเรากันเองในสังคม ในอนาคต ทั้งนี้ผมไม่ได้มุ่งหวังอะไรเลย มุ่งหวังแต่เพียงให้เกิดผลประโยชน์ต่อชาติ ประชาชนอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ ที่เราได้กล่าวไว้แล้ว 2015 -2020 นะครับ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" นะครับ

“ไทย-เวียดนาม”เพิ่มความร่วมมือการค้าการลงทุน

เมื่อวานนี้ วันพฤหัส ที่ 23 กรกฎาคม 2558 ผมได้มีโอกาสให้การต้อนรับ นายเหวียน เติ๊นสุง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและภริยา ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล และในโอกาสเดียวกัน ก็จัด “การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

(1) กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีภายใต้ความเป็น "หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ไทย-เวียดนาม" และ

(2) ผลักดันความร่วมมือในทุกมิติให้ขยายผลอย่างต่อเนื่อง อาทิ

(1) ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ความร่วมมือด้านแรงงาน การส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าทางการค้า-การลงทุน ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร-การประมง การเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางคมนาคม ทางบก / ทางทะเล และทางอากาศนะครับ และสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศและภายในภูมิภาคด้วยนะครับ

(2)ในด้านความมั่นคง ได้แก่ ขยายความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ–ยาเสพติด–การค้ามนุษย์

(3) ด้านศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ได้แก่ การแลกเปลี่ยนทางภาษา วัฒนธรรม และการกีฬา รวมทั้งความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวนะครับ เช่นให้มีการท่องเที่ยวในลักษณะเป็น “เพ็กเก็จ” นะครับ เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาค กับเพื่อนเรารอบๆบ้านนี่นะครับ ถ้ามันโยงกันได้ไปกันได้ มันก็จึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูมิภาคของเราด้วย แล้วแต่ละประเทศก็จะมีรายได้ เราต้องไม่ทอดทิ้งกันนะครับ ถ้าเรามีความเห็นชอบที่ร่วมกัน เราก็ต้องกำหนดในการตั้งเป้าหมายวิธีการนะครับ

เมื่อการประชุมนั้นผมได้มีการพูดกับท่านนายกรัฐมนตรี เวียดนามนะครับ ว่าเราจะต้องตั้งเป้าหมายใหม่แล้วนะครับ วันนี้เราคบกันมา 40 ปีแล้วไง นะ ปี 2559 จะครบ 40 ปีนะครับ เราต้องมาพูดกันถึงว่า อีก 10 ปีต่อไปมันจะเป็นยังไง แล้วก็ถ้ารวมกันแล้วเป็น 40 ปีต่อไปเป็นอนาคตนะครับว่าเราจะทำยังไง เราก็หวังแต่เพียงว่า วันนี้เราอยากจะเพิ่มมูลค่าการค้า จากเดิมประมาณ 15,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็น 20,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในปี 2563 หรือเร็วกว่านั้นนะครับ

โอกาสนี้ ผมและนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารสำคัญ 5 ฉบับ ได้แก่

(1) แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 3

(2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานก็เน้นหนักเรื่องแรงงานที่ใช้แรงงาน ใช้ในเรือประมงอะไรเหล่านี้นะครับ ซึ่งทางเวียดนามมีเป็นจำนวนมากพอสมควรนะครับ

(3) เรื่องบันทึกข้อตกลงด้านการจ้างแรงงานนะครับ ให้ความเป็นธรรมและมีการขึ้นทะเบียนอะไรต่างๆ ให้เรียบร้อย พิสูจน์สัญชาติอะไรเหล่านี้นะครับ

(4) แล้วก็ในเรื่องของการบันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ “เมืองคู่มิตร” ระหว่าง จ.อุบลราชธานี ของไทยนะครับ แล้วก็ จ.คอนตูม เวียดนาม (5) แล้วก็บันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์“เมืองคู่มิตร” ระหว่าง จังหวัดตราด (ไทย) – จังหวัดลองอาน (เวียดนาม)

ก็เป็นเมืองคู่ขนาน เป็นเมืองแฝด เพราะงั้นจะต้องพัฒนาไปร่วมกันนะครับมีความเชื่อมโยงทางชายแดน แล้ก็จะมีการขยายต่อไป อันนี้ ผมเรียนว่าก็คงรอบบ้านด้วยนะครับ หลายประเทศที่มีความเชื่อมโยงกันก็เป็นลักษณะนี้มาอย่างต่อเนื่องนะครับ มันก็จะเป็นการ "เปิดประตูความสัมพันธ์" ใกล้ชิดระหว่างกัน อย่างเป็นรูปธรรม แล้วก็เตรียมการรับการเป็น "ประชาคมอาเซียน" ในปลายปีนี้ เราก็พยายามที่จะไม่ให้เส้นเขตแดน หรือพรมแดนนั้นเป็นขีดจำกัดหรือข้อจำกัดในการร่วมมือกันในการดูแลประชาชน เพียงแต่ต้องมีมาตรการที่เหมาะสมนะครับ

นอกจากนั้น ก็ยังได้พูดคุยกันถึงโอกาสที่จะให้ภาคธุรกิจเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ ได้มีการเชื่อมโยงกัน เช่น สมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม ก็ได้จัดการสัมมนาด้านการลงทุนในเวียดนาม และการหารือเพื่อจับคู่ภาคธุรกิจนะครับ (Business matching) ระหว่างไทย-เวียดนามด้วยเช่นกันนะครับ

ในเรื่องนี้นะครับผมคิดว่าถ้าเรากับเวียดนามร่วมมือกันได้ เช่นเราร่วมมือกับเมียนม่า ร่วมมือกับกัมพูชา หรือมาเลเซีย ต่างๆ รอบบ้าน CLMVนี่ได้นะครับ เราก็จะทำให้อาเซี่ยนนี่เข้มแข็งด้วย ผมไม่อยากให้เรามองเฉพาะประเทศไทยอย่างเดียว เพราะเราต้องสร้างเครือข่ายหรือสร้างห่วงโซ่ ในเรื่องของเศรษฐกิจให้ได้ ถ้าเราเข้มแข็ง มีการค้าขายกันเอง นะที่เพิ่มมากขึ้น เราก็จะพึ่งพาการส่องออกไปประเทศไกลๆ ลดลงนะครับ ไม่งั้นเราก็ต้องฝากความหวังไว้กับการส่งออก ประชาคมไกลๆ นั่นมันก็มีปัญหาหมดนะ เพราะมีปัญหาทั้งความขัดแย้ง ปัญหาการเมือง ปัญหาเรื่องความไม่สงบเรียบร้อยอะไรก็แล้วแต่ เราต้องทำให้อาเซี่ยนสงบให้ได้ แล้วไทยนี่จะต้องเป็นแบบอย่างนะครับในการสร้างความสงบ สันติ อย่างยั่งยืนนะครับ มีความเป็นเสถียรภาพ ด้านการเมือง ด้านความมั่นคง มันถึงจะเกิดสิ่งอื่นๆ ได้ด้วย

ผมได้ตกลงกับท่านนายกรัฐมนตรีเวียดนามไปอย่านี้นะครับ ว่าเราต้องสร้างความเข้มแข็งด้วยเพื่อจะนำพาอาเชียนทั้งหมดไปด้วยกัน แล้วก็รวมกลุ่มกันเพื่อให้คนทั้งโลกนี้ เขาได้เห็นตัวตนของเราเห็นตัวตนของอาเซี่ยน เห็นตัวตนของประเทศแต่ละประเทศของเราว่าเป็นอย่างไรนะครับ ด้วยความภาคภูมิใจนะ ถ้าเรารวมกันไม่ได้มันก็จะถูกแบ่งนะครับ เป็นพวกๆ ไป เราก็เกิดปัญหาในเรื่องของการ อำนาจในการต่อรองทุกเรื่องนะครับ ได้ตกลงกันไว้แล้วว่าก็ทางเวียดนามก็ตกลงว่าจะเข้ามาร่วมมือในสมาคมเกี่ยวกับเรื่องยางนะครับ มีเดิม 3 ประเทศ ก็จะเป็น 4 ประเทศ แล้ว พูดคุยกันเรื่องยางผมก็เสนอไปเรื่องข้าวก็ควรจะต้องทำนะ เพื่อจะทำยังไงเราจะได้ไม่แข่งขันกันมากจนเกินไป ทำให้ราคามันตกเพราะว่า สินค้าทางการเกษตรนี่ราคาตกหมดนะ แต่ถ้าเรารวมกลุ่มกันได้แบ่งปันกันบ้างไม่แข่งขันกัน ไม่ลดราคากัน มันก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมนะครับ อันนี้ก็หารือไปแล้ว ท่านก็เห็นด้วย ก็เป็นที่น่ายินดีนะครับ ช่วงนี้เป็นยุคที่ดีที่สุดในการพูดคุยหารือกับประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ นะครับ

ขอประชาชนเดินทางปลอดภัยช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์หน้า

สำหรับสัปดาห์หน้าจะมีห้วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนา 2 วัน คือ วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา นอกจากจะได้หยุดพักผ่อนกันแล้วผมอยากให้พี่น้องชาวไทยที่นับถือพุทธศาสนาได้ใช้โอกาสวันหยุดดังกล่าวรำลึกถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คิดดี ปฏิบัติดี รวมทั้งร่วมกันประกอบพุทธบูชา ได้แก่ ทำบุญ –ตักบาตร – เข้าวัด –รับศีล–ฟังเทศน์ –สนทนาธรรม– สวดมนต์และเวียนเทียน เพื่อสร้างความเป็นมงคลสู่ชีวิตและครอบครัว แล้วก็อย่าลืมทำทานด้วยนะครับ ทำบุญแล้วก็ทำทานด้วยแล้วกัน คนบากลำยากมีอีกเยะแยะ ในห้วงวันหยุดนี้ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขนะครับ ในการที่จะไปท่องเที่ยวไปอะไรก็แล้วแต่ ปลอดภัยด้วยนะครับ ขับรถอย่างระมัดระวัง

ในช่วงโอกาสการเข้าพรรษานี้ ขอให้ทุกคนร่วมกันอธิฐานจิตนะครับตั้งใจปฏิบัตตนตาม "ศีล 5" ซึ่งจริงๆ แล้วศีล 5 ไม่ใช่ข้อห้ามนะครับ แต่เป็น "ข้อฝึกปฏิบัติ" ที่เรียกว่าสิกขาบท ที่ทุกคนไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นชาวพุทธ สามารถนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ ทั้งนี้ก็เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน สังคมปลอดภัยนะครับ มีความสุข รัฐบาลได้ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็น "วันงดดื่มสุราแห่งชาติ"โดยมีคำขวัญปีนี้ว่า "พัฒนาเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ ต้องหยุดเป็นทาสสุรา" ครับ

 

ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ที่มีจิตใจมุ่งจะทำความดี ลด ละเลิก สุรา ในช่วงเข้าพรรษานี้ ให้ประสบความสำเร็จ และมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นพลังให้กับประเทศชาติต่อไป สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดก็ดู ฟังข่างเรื่องการจราจรด้วยนะครับ แล้วก็กรุณาขับรถอย่าเร็วเกินไปนัก แล้วก็อย่าดื่มสุราในระหว่างขับรถ แล้วการสูญเสียเกิดขึ้น คนที่สูญเสียก็คือครอบครัวทั้งสิ้นนะครับ

 

แล้วก็ประเทศชาติก็เสียหายไปด้วย ซึ่งเสียทรัพยากรไปไม่รู้เท่าไร นะครับ อย่าให้มีการสูญเสียอีกเลยนะครับ ในเรื่องนี้ท่านต้องรักชีวิตท่านเอง ชีวิตท่านไม่ได้มีตัวท่านคนเดียว ท่านต้องมีชีวิตเพื่อคนอื่นเขาด้วย เพื่อจะไปช่วยเหลือ ไป แลครอบครัวของท่าน แล้วก็สร้างสังคมที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคตนะครับ ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะครับ ขอให้มีความสุขในวันหยุดราชการนะครับ

 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง