ชาวบ้านกังวลตลิ่งทรุดเพิ่ม หลังระดับน้ำในแม่น้ำน้อยลดระดับลง
ระดับน้ำในแม่น้ำน้อย บริเวณ ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ถนนริมแม่น้ำเกิดรอยร้าวและทรุดตัว เป็นระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุอาจมาจากการขุดดินจากแม่น้ำขึ้นมาทำแนวกั้นน้ำเมื่อช่วงน้ำท่วมเมื่อระดับน้ำลดลงทำให้ดินสไลด์ตัวลง ซึ่งหลังจากมีการประกาศลดปริมาณการปล่อยน้ำในเขื่อนหลัก ยิ่งสร้างความกังวลใจว่าจะส่งผลให้ดินยุบตัวมากขึ้นอีก
ก่อนหน้านี้ เกิดการทรุดตัวของถนนริมแม่น้ำน้อยอย่างต่อเนื่อง คือ ในพื้นที่ ต.ท่าข้าม และ ต.โพธิสังโข อ.ค่ายบางระจัน และ ต.โพธิ์ประจักษ์ ต.วิหารขาว ต.พิกุลทอง และ ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านใน ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี สูบน้ำเข้าที่นา ซึ่งขัดกับที่กรมชลประทานประกาศขอความร่วมมือให้หยุดสูบน้ำ โดยชาวบ้านเล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ทหารมาสั่งให้หยุดเดินเครื่องสูบน้ำ ที่ชาวบ้านสูบน้ำจากแม่น้ำน้อย ชาวบ้านในพื้นที่ยอมรับว่า เข้าใจในการทำหน้าที่ของทหารแต่อยากให้ชลประทานจัดสรรการใช้น้ำในภาวะเช่นนี้ โดยกำหนดเป็นช่วงเวลาให้สูบน้ำได้
ขณะที่ท่อสูบน้ำของประปาส่วนภูมิภาคในเขต อ.บางระจัน แม้ท่อสูบจะสูบไม่ถึงระดับน้ำแต่ก็มีท่อสูบสำรองเพื่อใช้ในการผลิตประปาได้โดยสบน้ำเข้าวันละ 1 พันลูกบาศก์เมตรต่อวินาที การประปาส่วนภูมิภาคบางระจันยืนยันว่าแม้ระดับน้ำจะน้อยลงแต่ก็มีบ่อน้ำบาดาลสำรองไว้หากขาดแคลน เพื่อช่วยประชาชนกว่า 200 ครัวเรือนระดับน้ำที่ลดต่ำลงยังส่งผลให้ปลาในกระชังริมแม่น้ำน้อย บางพื้นที่เสียหายเพราะก่อนหน้านี้ระดับน้ำนิ่งปลาจึงขาดออกซิเจนหมุนเวียนแต่หลังจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชัณสูตรเปิดน้ำไหลผ่านประตูระบายน้ำบางระจัน 7 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำหมุนเวียนไปสู่ปลายน้ำได้บ้าง
ขณะนี้กรมชลประทานมีมาตราการรองรับการบริหานจัดการน้ำคือประตูระบายน้ำที่รับน้ำจากแม่น้ำปิงแม่น้ำน่านและแม่น้ำเจ้าพระยาจะเปิดรับน้ำไปใช้สำหรับอุปโภคบริโภคเป็นครั้งคราว สำหรับลำน้ำหรือคลองส่งน้ำที่มีความจำเป็นต้องรับน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์และตลิ่งลำน้ำ เช่นแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย คลองชัยนาท-ป่าสักให้รับน้ำเข้าในเกณฑ์ต่ำสุดซึ่งกรมชลประทานจะกำหนดอัตราการรับน้ำที่เหมาะสมให้ต่อได้