ภัยแล้งส่งผลความต้องการน้ำดื่มเพิ่มขึ้น
การขอความร่วมมือจากอธิบดีกรมการค้าภายในว่าอย่ากักตุนน้ำดื่มในสถานการณ์ภัยแล้ง ดูจะสวนทางกับยอดขายของโรงงานผลิตน้ำดื่มเวลานี้ โดยเฉพาะ 3 อำเภอใน จ.ปทุมธานี ที่น้ำประปาขาดแคลน ทำให้ความต้องการน้ำดื่มพุ่งสูง แต่หลายเสียงยืนยันว่าน้ำดื่มจะไม่ขาดตลาด
โรงงานผลิตน้ำดื่มย่านคลอง 8 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งผลิตสินค้ารองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 นี้ เนื่องจากในพื้นที่ประสบปัญหาประปาหยุดจ่ายน้ำ ทำให้ลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรสั่งน้ำดื่มเพิ่มขึ้น แม้ขณะนี้ประปาในพื้นที่จะเริ่มปล่อยน้ำได้บ้าง แต่ปริมาณน้ำไหลอ่อน จึงผลิตน้ำได้ไม่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถรองรับความต้องการลูกค้าที่เพิ่มถึงร้อยละ 30-40
ตัวแทนจำหน่ายน้ำดื่มบางคน กล่าวว่า ขณะนี้ลูกค้าในกลุ่มหมู่บ้านจัดสรร เช่น คลอง 6 และคลอง 7 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สั่งน้ำเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เพราะใช้ทั้งบริโภคและอุปโภค ขณะที่ปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้มีประชาชนบางคน ต้องเดินทางมาหาซื้อน้ำดื่มในห้างค้าปลีกย่านลาดพร้าว เขตกรุงเทพมหานคร พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา
นางวีรกานต์ อิสมาแอล ผู้อำนวยการบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น สาขาลาดพร้าว กล่าวว่า มีการสำรองน้ำดื่มอย่างเพียงพอ แต่อาจมีบางสาขาที่สินค้าน้อยลง เนื่องจากผู้ซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง
ด้านนายรติ พันธุ์ทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น กล่าวว่า ขณะนี้กำลังการผลิตน้ำดื่มยังคงเป็นปกติ และยังไม่มีผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากบริษัทมีโรงงานผลิตน้ำอยู่ทั่วประเทศ 7-8 แห่ง สามารถรองรับความต้องการลูกค้าได้เพียงพอ
สำหรับมูลค่าตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด ปี 2557 อยู่ที่กว่า 30,740 ล้านบาท จากผู้ผลิตนับ 1,000 แบรนด์ มีการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อปี โดยส่วนแบ่งตลาด 5 อันดับแรกจะอยู่ที่ผู้ผลิตรายใหญ่